July 13, 2016
Motortrivia Team (10167 articles)

Mahindra ใช้ศักยภาพของ Pininfarina ลงสู่ตลาดไฟฟ้าพรีเมียม

เรื่อง : AREA 54

●   การเผยโฉม SUV อย่าง Mahindra XUV Aero Concept ที่มาฮินดราเคลมว่าเป็นการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมออกแบบของ มาฮินดรา มุมไบ และ พินินฟารินา อาจจะไม่โดนใจหลายคนนัก ทว่าโปรเจคท์ใหม่อย่าง “ซูเปอร์คาร์พลังไฟฟ้า” อาจจะทำให้เราต้องหันกลับมาดูรายละเอียดกันชัดๆ อย่างตั้งใจอีกครั้ง

●   แรกเริ่มเดิมที มาฮินดรามีรถไฟฟ้าขนาดเล็กในสังกัดอย่าง Mahindra Reva e2o และเพิ่งมีการ อัพเกรดสเปค เพื่อให้สามารถจำหน่ายในยุโรปได้ โดยการจัดจำหน่ายจริงในสหราชอาณาจักรนั้น SsangYong Motor Company (UK) จะเป็นผู้ดูแลให้ทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันมาฮินตรานับว่าเป็นเจ้าของซันยองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จากการถือหุ้นในซันยองถึง 70%

●   Dr. Pawan Goenka กรรมการบริหารมาฮินดราให้ความเห็นกับ Auto Express ว่า ขณะนี้มาฮินดราเองกำลังจะพัฒนาแพลทฟอร์มใหม่สำเร็จในอีก 14-15 เดือนข้างหน้า และกำลังวางแผนพัฒนาแพลทฟอร์มใหม่ในอีกราวๆ 1 ปีหลังจากนั้น แม้ว่าบริษัทจะยังคงเน้นการพัฒนารถ SUV แต่ในขณะเดียวกัน มาฮินดราก็ต้องการนำเสนอตัวตนในยุโรปและสหราชอาณาจักรด้วย ซึ่งในขณะนี้การพึ่งพากำลังของซันยอง (ในยุโรป) นั้นยังไม่สามารถรองรับเป้าหมายนี้ได้

●   มาฮินดรานั้นค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการเปิดตัวในฐานะบริษัทกรีน ซึ่งซันยองยังไม่มีแผนพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใดๆ ดังนั้นความเป็นไปได้ก็คือ ใช้ทรัพยากรในมือทั้งหมดที่มีทุ่มลงไปเพื่อกรุยทางให้แผนงานนี้ในอนาคต นั่นคืองานออกแบบของพินินฟารินา และเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งนอกจากรถจิ๋วอย่าง e2o แล้ว มาฮินดรายังมีการลงทุนเพื่ออนาคตที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือการซัพพอร์ททีมแข่ง Formula E ในนามทีม Mahindra Racing Formula E Team

●   กล่าวได้ว่า ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ อยู่ที่ว่ามาฮินดราต้องการเปิดตัวรถในรูปแบบใด ซูเปอร์คาร์จำกัดจำนวน? หรือรถไฟฟ้าสำหรับบุคคลทั่วไปที่เน้นจำนวนการผลิตแบบลอทใหญ่? นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องติดตามกันต่อไป… แต่หากจะย้อนถามว่าทำไมคำว่าซูเปอร์คาร์จึงถูกยกมาเป็นหัวข้อหลัก นั่นเป็นเพราะต้นแบบรุ่นล่าสุดของพินินฟารินา H2 Speed concept เพิ่งเปิดตัวไปในงาน 2016 Geneva Motor Show เมื่อต้นปีนี้ครับ   ●

Update 1 : จีนและสหรัฐฯ คือเป้าหมายหลักในการทำตลาด

10 May, 2017 AT 9:29 AM

●   ระหว่างการเข้าร่วมงาน 2017 Seoul Motor Show ที่ประเทศเกาหลีใต้ Mr. Anand Mahindra หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของ Mahindra Group ได้ให้ข้อมูลกับ MarketWatch ว่า มาฮินดราเอาจริงกับแผนงานการเปิดตัวรถภายใต้แบรนด์พินินฟารินา

●   “ณ เวลานี้เรากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการผลิตซูเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าซึ่งจะมีการตีตราจำหน่ายภายใต้แบรนด์พินินฟารินา แน่นอนว่าเรากำลังมองหาลู่ทางการจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ”

●   นอกจากสหรัฐฯ แล้ว จีนยังเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากเรื่องที่จีนกำลังตื่นตัวเรื่องรถมลพิษศูนย์อย่างเต็มที่นั้น กำลังในการซื้อรถสปอร์ตราคาสูงยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แบรนด์ผู้ผลิตทั่วโลกต้องการจะเข้าไปขอส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่นับบรรดาสปอร์ต/ไฮเปอร์คาร์หัวก้าวหน้ารุ่นใหม่ๆ อย่าง Lucid, NIO หรือ Faraday Future ที่จะต้องเป็นคู่แข่งโดยตรงในคลาสเดียวกันกับรถซูเปอร์คาร์ไร้นามของมาฮินดราด้วย

●   อย่างไรก็ตาม Mr. Mahindra คาดว่าบริษัทจำเป็นจะต้องเพิ่มการลงทุนเฉพาะกิจในสหรัฐฯ เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดี Donald Trump นั้นไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจนอกพื้นที่เลย ทว่าในการทำตลาดสหรัฐฯ นั้น การใช้ชื่อมาฮินดราดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้นบริษัทจะทำการลงทุนผ่านทางบริษัทในเครืออย่างซันยอง ซึ่งข่าวนี้จะตรงกับข่าวที่ว่าซันยองเตรียมเข้าไปทำตลาดสหรัฐฯ ในปี 2019 ซึ่งนั่นจะทำให้พินินฟาริน่าสามารถเปิดตัวและจำหน่ายรถผ่านเครือข่ายของซันยองได้ง่ายกว่า

●   มาฮินดราเข้าครอบครองกิจการของพินินฟารินาตั้งแต่ช่วงปี 2015 โดยใช้วงเงินที่สูง 28.1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 975 ล้านบาท… แผนงานซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีในสหรัฐฯ หรือไม่นั้น? เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้แปลคิดว่าตลาดที่มีความสำคัญกว่าคือจีนครับ   ●


2016 Pininfarina H2 Speed concept