2018 Mercedes-AMG GT R เครื่อง 4.0 ทวินเทอร์โบ 577 ม้า V8
• ในปีถัดไปเมอร์เซเดสจะเพิ่มรุ่นพื้นฐานของ GT ในตลาดอเมริกาควบคู่ไปกับ GT S ฉะนั้นเราลองมายลโฉมเจ้า AMG GT R ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เวิร์ล ในบรูคแลนด์ กันก่อนครับ
• สิ่งแรกที่เตะตาเราคือ สี มันถูกเรียกว่า เอเอ็มจี กรีนเฮลล์ แม็กโน่ ซึ่งสื่อถึง นูเบิร์กริง นอร์ดชไลเฟ่อ สถานที่ซึ่งใช้พัฒนารถคันนี้
• รหัส R ยังคงใช้บริการเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ V8 เช่นเดียวกับตระกูล GT อื่นๆ มันให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์ฟุต ซึ่งให้กำลังเพิ่มจาก 503 แรงม้า และแรงบิด 479 ปอนด์ฟุต ใน GT S และ 456 แรงม้า กับ 443 ปอนด์ฟุต ใน GT กำลังที่เพิ่มขึ้นของ GT R นั้นมาจากการผสมผสานหลายอย่าง ทั้งเทอร์โบใหม่ การโมดิฟายซอฟต์แวร์ แก้ไขรูปร่างพอร์ตไอเสีย และอัตราส่วนกำลังอัดที่แตกต่าง บูสสูงสุดนั้นขึ้นไปถึง 19.6 psi
• การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นมีการปรับปรุงดีขึ้นเช่นกันจากการใช้ล้อตุนกำลังแบบมวลคู่ที่มีน้ำหนักเบากว่าใน GT S อยู่ 1.5 ปอนด์ เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบ เอเอ็มจี สปีดชิฟต์ ถูกโมดิฟายสำหรับรุ่น R มันมีช่วงเกียร์ 1 ที่ยาว แต่มีอัตราส่วน 7 เกียร์ และเฟืองท้ายสั้นลง ระบบหล่อเย็นชุดเกียร์มีการอัพเกรดขึ้น และเพื่อส่งต่อกำลังเครื่องยนต์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น GT S ได้ใช้เพลาล้อหลังคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนัก 30 ปอนด์ ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าอะลูมิเนียม 40 เปอร์เซ็นต์ นั่นทำให้ GT R สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ได้ใน 3.5 วินาที เร็วกว่า GT S อยู่ 0.2 วินาที
• สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก โมเดล R มีความแตกต่างจาก GT รุ่นอื่นหลายอย่างทีเดียว กันชนหน้าและหลังมีความกว้างมากกว่า เพื่อรองรับฐานล้อที่กว้างกว่า กันชนหน้านั้นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกับหลังคา แต่คุณอาจจะมองไม่เห็นเนื่องจากมันเป็นสีเดียวกับตัวถัง ด้านหลังเห็นเด่นชัดด้วยท่อไอเสียขนาดใหญ่ตรงกลางรถ ซึ่งโผล่ออกมาจากดิฟฟิวเซอร์
• ภายใต้ตัวถังที่เรามองไม่เห็นจากภายนอกนั้นก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน มันมีชิ้นส่วนแอคทีฟแอโรด้านหน้าน้ำหนัก 4.4 ปอนด์ ซึ่งจะทำงานในเรซโหมดที่ความเร็วสูงกว่า 50 ไมล์/ชั่วโมง เพื่อดึงให้รถยึดติดกับพื้นถนน มันยังมีบานพับกระจังหน้าแบบเปิด-ปิดได้ ซึ่งจะเปิดเมื่อเครื่องยนต์ต้องการการระบายความร้อน แอโรพาร์ทที่อัพเกรดมานั้นจะช่วยสร้างแรงกดเพิ่มขึ้น 342 ปอนด์ จากรุ่น GT นอกจากนั้นมันยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงลากที่ต่ำกว่า
• ทางด้านของช่วงล่างก็ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับ GT R ซึ่งเปลี่ยนวัสดุไปเป็นอะลูมิเนียมฟอร์จ มันมีคอยล์ปรับค่าได้ซึ่งเอาไว้ใช้ปรับระดับความสูงพื้นรถ มันยังมีระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังซึ่งเป็นของเล่นใหม่ใน AMG มันจะช่วยปรับค่ามุมโทได้ถึง 1.5 องศา ที่ความเร็วต่ำกว่า 62 ไมล์/ชั่วโมง ล้อหลังจะถูกเลี้ยวในด้านตรงข้ามกับทิศทางการเลี้ยวซึ่งจะช่วยให้รถเข้าโค้งได้ในรัศมีแคบลง ในขณะที่เมื่อรถทำความเร็วมากกว่า 62 ไมล์/ชั่วโมง ล้อหลังจะถูกบังคับไปยังทิศทางเดียวกันกับล้อหน้าซึ่งมันจะช่วยให้รถมีเสถียรภาพในขณะเข้าโค้ง
• ยางมิชลิน ไพลอท สปอร์ต คัพ ทู ได้ถูกเลือกให้มาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน GT R ล้อหน้าจะมีขนาดขอบ 19 นิ้ว ส่วนล้อหลังมีขนาดขอบ 20 นิ้ว เบรกขนาดใหญ่นั้นเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถอัพเกรดไปเป็นดิสก์เบรกเซรามิคได้
• GT R จะได้รับการโปรแกรมน็อบพิเศษภายใน เพื่อควบคุมระดับการสลิปในเพลาหลัง มันมีเซตติ้งทั้งหมด 9 แบบ โดยเซตติ้งแรกนั้นเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญซึ่งจะเหมาะกับการขับลุยฝน ในขณะที่เซตติ้งสุดท้ายเน้นความสนุกแบบดิบๆ สำหรับคนที่ชอบสไลด์ท้ายเล่น เรียกได้ว่ามันคือ แทร็คชั่นคอนโทรลของ AMG และมันจะทำงานก็ต่อเมื่อระบบ ESP ถูกปิด •
2018 Mercedes-AMG GT R
