
Toyota Land Cruiser FJ45LV คืนชีพให้จอมลุยรุ่นคลาสสิค
Posted by : AREA 54
• ใครที่ยังหลงใหลรูปทรงอันแสนคลาสสิคของไอคอนอย่าง Toyota Land Cruiser น่าจะตื่นเต้นกับภาพชุดนี้ครับ นี่คือ Toyota Land Cruiser ฐานล้อยาวรหัส J45 ผลงานของบริษัท FJ Company แห่งไมอามี่ที่สมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วน โดยคันจริงที่ FJ Company บูรณะเรียบร้อยแล้วจะได้รับการจัดแสดงต่อสาธารณชน ก่อนส่งมอบให้กับเจ้าของไม่ปรากฏนามในดูไบ
• Toyota Land Cruiser Station Wagon หรือ FJ45LV (หรือบางทีก็เรียกกันว่า VL) เป็นรถเอนกประสงค์ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นไปทำตลาดอเมริกาเหนือในช่วงปี 1963 – 1967 โดยเป็นรูปแบบตัวถังที่ 4 ต่อจาก J40 รุ่นคลาสสิค 2 ประตูซอฟท์ทอป, 2 ประตูฮาร์ดทอป, 2 ประตูปิคอัพ และรุ่นที่เห็นนี้คือ 4 ประตูสเตชั่นแวกอน ฐานล้อยาว ซึ่ง J40 นั้นจะมีฐานล้อขนาด 90 นิ้ว ในขณะที่ J45LV จะมีความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นเป็น 116 นิ้ว และทำตลาดในช่วงสั้นๆ ก่อนถูกแทนที่ด้วย FJ55 ซึ่งมีรูปทรงที่ทันสมัยกว่า และนับเป็นการสิ้นสุดของยุค 40 Series

รุ่นสำเร็จรูปที่ FJ Company มีจำหน่ายในปัจจุบัน
• ปัจจุบันบริษัท FJ Company มี Land Cruiser ที่ใหม่เอี่ยมราวกับหลุดออกมาจากโรงงานหมาดๆ จำหน่ายแบบสำเร็จรูปอยู่ 3 รุ่น แบ่งเป็นรุ่น Classic บูรณะขึ้นบนพื้นฐานของ FJ40 หรือ FJ43 (ฐานล้อเพิ่มจาก 90 เป็น 95.7 นิ้ว) ตัวถัง 2 ประตู หลังคาซอฟท์ทอปเหมือนกัน เครื่องยนต์ 6 สูบ 4.2 ลิตร คาร์บิวเรทเตอร์ 135 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา 4 จังหวะเดิมๆ แต่มีการปรับปรุงความสะดวกและความปลอดภัยให้ผู้ขับด้วยการติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์, โรลล์เคจ, ชุดช๊อคฯ Old Man Emu และดิสค์เบรคหน้า ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 55,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านบาท
• รุ่น California ใช้พิ้นฐานของ FJ40 หรือ FJ43 ตามความต้องการเช่นกัน แต่จะตกแต่งแบบเรโทรในทุกๆ ส่วน เครื่องยนต์ เกียร์ เลือกได้ว่าต้องการแบบเดิมๆ หรือจะขยับขึ้นไปใช้ 6 สูบ 4.5 ลิตร หัวฉีด 212 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายมีตั้งแต่กระจกประตูแบบเต็มบาน, เครื่องเสียง, ระบบปรับอากาศ หรือมาตรวัดแบบดิจิตอลพร้อมหน่วยไมล์/ชม. ราคาเริ่มต้นสูงขึ้นเป็น 65,000 ดอลลาร์ หรือราว 2.2 ล้านบาท
• รถสำเร็จรูปรุ่นสุดท้ายในกลุ่มคือ Sport ยังคงใช้พิ้นฐานของ FJ40 หรือ FJ43 เช่นกัน เครื่องยนต์ เกียร์ เลือกได้ตั้งแต่ธรรมดา 4-5 จังหวะไปจนถึงอัตโนมัติ ช่วงล่างอัพเกรดไปอีกขั้นกับแหนบ Old Man Emu จับคู่ช๊อคฯ FOX พร้อมลุยด้วยวินช์ Warn, สปอร์ทไลท์ PIAA หน้า-หลัง, หัวบอลลากเทรลเลอร์ และ Air Lockers ของ ARB นอกจากนี้ยังมีบริการติดตั้งเครื่องเสียงพรีเมี่ยม, เบาะ Recaro หรือเข็มขัดนิรภัย 4 จุดของ Sparco ด้วย ทว่าราคาเริ่มต้นจะถูกดันขึ้นไปดึง 75,000 ดอลลาร์ หรือราว 2.6 ล้านบาท ไม่รวมอุปกรณ์พิเศษต่างๆ ข้างต้น
• อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 รุ่นสำเร็จรูปนี้ สามารถเลือกหลังคาเป็นแบบฮาร์ดทอปได้ถ้าต้องการ… อีกอย่าง ผู้แปลลองใช้ฟังก์ชั่นสั่งเพิ่มออปชั่นแบบครบทุกชิ้นบนเว็บ ปรากฏว่าราคาทะลุไปที่ 117,080 ดอลลาร์ หรือราว 4 ล้านบาทเลยครับ

สภาพเดิมจากมอนทาน่าก่อนได้รับการบูรณะ
• สำหรับรุ่นที่เห็นในภาพชุดนี้ FJ Company เรียกมันว่า 1967 Toyota Land Cruiser FJ45LV ตรงตามตัว ในเว็บไซท์อย่างเป็นทางการถูกแปะป้ายว่า “ขายแล้ว” มันถูกบูรณะขึ้นบนแชสซีส์ของ FJ45 ที่ได้มาจากเจ้าของเดิมในมอนทาน่า VIN number เดิมๆ คือ FJ45-26319 นับเป็น 1 ในจำนวน 5,000 คันที่ผลิตระหว่างช่วงปี 1963 – 1967 (เฉพาะในสหรัฐฯ คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 1,000 คันเท่านั้น) ตัวรถใช้สีเดิมแบบทูโทน ฟ้า Capri Blue สลับขาว ภายในใช้โทนสีเทา บอดี้ยังคงรูปแบบเดิม 4 ประตู หลังคาฮาร์ดทอป ล้ออะไหล่แขวนเอาไว้ด้านข้างในส่วนสัมภาระ
• ระหว่างที่ผู้แปลไล่อ่านความเห็นในเว็บไซท์ carscoop มีผู้อ่านท่านหนึ่งตาดีสุดๆ ทิ้งความเห็นเอาไว้ว่า ทำไมเข็มมาตรวัดความร้อนไปอยู่ที่ตำแหน่ง H ล่ะ? FJ Company ถึงกับเข้าตอบข้อสงสัยให้เองเลยว่า การที่เข็มชี้ที่ตำแหน่ง H นั้น เป็นตำแหน่งปกติเมื่อดับเครื่อง… ผู้แปลเพิ่งทราบเหมือนกันครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเฉพาะคันนี้หรือเปล่า? เนื่องจากพอไปลองหาภาพจากที่อื่นๆ เข็มก็อยู่ที่ตำแหน่ง C ปกติดี

ภาพซ้าย เข็มความร้อนของ FJ Company อยู่ที่ H ส่วนด้านขวาเป็นภาพจาก FJ45LV รุ่นอื่น
• FJ45LV คันนี้ยังคงใช้บริการเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ความจุ 3.9 ลิตร คาร์บิวเรทเตอร์ ตระกูล F series แบบเดิมๆ จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะ ทว่าไม่มีข้อมูลการโมดิฟายช่วงล่าง หรืออื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้ ผู้แปลเข้าใจว่าลูกค้าน่าจะต้องการอะไรที่มันเดิมๆ ทุกส่วนครับ ยกเว้นบรรดานัท บุช หรืออื่นๆ ที่จำเป็นต้องเทียบหรือกลึงขึ้นรูปใหม่ ราคาจำหน่ายไม่ได้รับการเปิดเผย
• ก่อนจะเดินทางไปหาเจ้าของใหม่ที่ดูไบ 1967 Toyota Land Cruiser FJ45LV มีคิวจัดแสดงในปีนี้ 2 งานคือ Carmel-by-the-Sea Concours on the Avenue วันที่ 15 – 21 สิงหาคม 2016 ที่แคลิฟอร์เนีย ต่อด้วยงานใหญ่ประจำปีของชาวอาฟเตอร์มาร์เกท 2016 SEMA Show ระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2016 นี้ที่ลาส เวกัส
• ใครสนใจลองไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ของ FJ Company ครับ… สุดมาก •