August 22, 2016
Motortrivia Team (10076 articles)

Mercedes Star Fest 2016 เปิดตัว 4 รถใหม่กลุ่ม Dream Car

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

  บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 4 รถใหม่ในกลุ่ม Dream Car ประกอบด้วย สปอร์ตโรดสเตอร์ Mercedes-Benz SLC 300 AMG Dynamic, โรดสเตอร์ขนาดคอมแพกต์แบบ 2 ที่นั่ง Mercedes-AMG SLC 43, โรดสเตอร์หรูรุ่นปรับโฉม Mercedes-Benz SL 400 และรถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง Mercedes-Benz S 500 Cabriolet โดยจะทำการจัดแสดงภายในงาน Star Fest 2016 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Central Court, Eden ระหว่างวันที่ 23 – 28 สิงหาคม 2559 นี้

  มร. ไมเคิล เกรเว่ (Michael Grewe) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า พร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงได้มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้สร้างสีสันครั้งใหม่ในวงการรถยนต์หรูอีกครั้ง ด้วยการจัดงานแสดงรถยนต์ สตาร์เฟส 2016 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Unleash your senses เปิดตัวยนตรกรรม 4 รุ่นในกลุ่ม Dream Car มาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์สปอร์ต และท้าทายได้เลือกสรรกันอย่างครบครัน”


จากซ้าย : มร. ไมเคิล เกรเว่, คุณอารยา เอ ฮาร์เก็ต แบรนด์แอมบาสเดอร์ และ มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์


  มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ (Frank Steinacher) รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “งานสตาร์เฟสในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car มากสุดในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น The new SLC 300 AMG Dynamic สปอร์ตโรดสเตอร์สุดโฉบเฉี่ยว Mercedes-AMG SLC 43 คอมแพกต์โรดสเตอร์แบบ 2 ที่นั่งจากค่ายเอเอ็มจี The new generation SL 400 โรดสเตอร์หรูระดับตำนานรุ่นปรับโฉมใหม่ และ The new S 500 Cabriolet รถยนต์เปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่ง สไตล์ S-Class โดยมีการให้ลูกค้าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ”

Mercedes-Benz SLC 300 AMG Dynamic

  SLC ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งในด้านงานออกแบบและเทคโนโลยี พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก SLK เป็น SLC สำหรับ SLC 300 AMG Dynamic ใหม่ยังคงมีฝากระโปรงหน้ายาว ห้องโดยสารเยื้องไปทางส่วนหลังของตัวรถ ด้านหลังรถสั้น และหลังคาโค้งเว้า กระจังหน้าแบบ Diamond grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตเฉพาะรุ่น ลดความสูงลง 10 มม. ปลายท่อไอเสีย 2 ท่อ ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน มาพร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์หน้า ล้ออัลลอย AMG แบบ multispoke ขนาด 18 นิ้ว แผงหลังคาฮาร์ดท็อปเปิด-ปิดได้ขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม.

  ภายในตกแต่งด้วยเบาะหุ้มหนัง Nappa ระบบอุ่นที่นั่งปรับระดับด้วยไฟฟ้า หน่วยความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่ง นาฬิกาแบบอนาล็อก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัด, กาบบันไดสเตนเลส สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เรืองแสง แผ่นกันลมแบบ plexiglass (AIRGUIDE) ไฟ Ambient Lighting มีให้เลือก 3 สี ระบบมัลติมีเดีย วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อม controller ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ระบบนำทาง (Pre-installation for SD-Card navigation)

  สะดวกด้วยกระจกมองข้างด้านผู้ขับและกระจกส่องหลังปรับแสงสะท้อนอัตโนมัติ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมกับระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System) ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light) และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)

  SLC 300 AMG Dynamic ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1,991 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 37.7 กก.-ม. ที่ 1,300-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9G-TRONIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

  SLC 300 AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษโปรแกรม mySTAR Special สิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือน 39,400 บาท หรือต่ำกว่า 1% ของราคารถ

Mercedes-AMG SLC 43

  โรดสเตอร์ขนาดคอมแพคท์แบบ 2 ที่นั่งจาก AMG ที่นับเป็นรถเครื่องยนต์ V6 รุ่นแรกที่ผลิตจากโรงงาน AMG ในเมืองอัฟฟาวเตอร์บาก (Affalterbach) งานออกแบบยังยึดกรอบของรถตระกูล SLC ด้วยกระจังหน้า Diamond grille หลังคาฮาร์ดท็อปเปิด-ปิดได้ขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ปลายท่อไอเสีย 2 ท่อแบบ 4-pipe look ดิสก์เบรกหน้ามีช่องระบายความร้อน ชุดแต่ง AMG bodystyling กันชนหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลังบนฝากระโปรงท้าย สัญลักษณ์ AMG บนคาลิปเปอร์ และล้ออัลลอย AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว

  ชุดระบบอำนวยความสะดวกเหมือนกับ SLC 300 คือไฟหน้า LED Intelligent Light System ระบบ ALS ระบบ Cornering light และระบบ Adaptive Highbeam Assist รวมถึงกระจกมองข้างด้านผู้ขับและกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ทว่าจะมีระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon Logic 7 พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบ Apple CarPlay ของฝั่ง iOS

  เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ประกอบด้วย ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP ระบบเบรก Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist ไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Lights) ระบบเบรก ABS ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ ATTENTION ASSIST ระบบรักษาความเร็ว Cruise Control และจำกัดความเร็ว Speedtronic ระบบเตือนเพื่อเอารถเข้าศูนย์บริการ Assyst Service interval indicator ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tyre pressure monitoring system เซ็นเซอร์ช่วยจอด Parktronic ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ Reversing camera

  นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมีระบบ Dynamic Select สามารถปรับโหมดการขับได้ 5 แบบ คือ Eco ระบบประหยัดน้ำมัน, Individual บันทึกรูปแบบการขับได้ตามที่กำหนด, Comfort ช่วยให้ผู้ขับรู้สึกผ่อนคลาย, Sport และ Sport+ เพิ่มความเร้าใจให้กับการขับ และสำหรับ AMG SLC 43 พวงมาลัยจะทำงานสอดคล้องกับอัตราทดเกียร์แบบคงที่ที่ 15.5 รอบเครื่องต่อ 1 รอบล้อหมุน เข้าโค้งได้แม่นยำ การตอบสนองของพวงมาลัยเป็นไปอย่างราบรื่น

  และนอกจากโหมดต่างๆ ของระบบ Dynamic Select แล้ว ผู้ขับสามารถกดปุ่ม M บนคอนโซลเพื่อเลือกใช้งานโหมดจำลองการทำงานของเกียร์ธรรมดาได้ โดยในโหมดนี้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เองตามต้องการด้วยคันเกียร์บริเวณคอพวงมาลัย รวมถึงยังสามารถตั้งค่าโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Electronic Stability Program ได้ตามต้องการ โดยปุ่มควบคุมระบบ ESP จะมีโหมดการทำงาน 3 โหมด ได้แก่:

–   On: ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ ตอบสนองรวดเร็ว เน้นการขับขี่ที่สะดวกสบาย
–   Sport Handling Mode : ระบบจะตอบสนองช้าลง ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น
–   Off : ปิดการทำงานของระบบ ESP ใช้ในกรณีที่ขับในสนามแข่ง

  พละกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 2,996 ซีซี เทอร์โบชาร์จคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9G-TRONIC กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 52.9 กก.-ม. ที่ 2,000 – 4,200 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

  Mercedes-AMG SLC 43 เปิดราคาจำหน่ายที่ 4,990,000 บาท

Mercedes-Benz SL 400

  สปอร์ตคูเป้รุ่นปรับโฉม ส่วนหน้าของตัวรถออกแบบใหม่ทั้งหมด แรงบันดาลใจจากตัวแข่ง 300 SL Panamerica กระจังหน้าแผ่กว้าง เพรียวบาง พาวเวอร์โดมรับอากาศ 2 ช่องบนฝากระโปรงหน้า สะท้อนเอกลักษณ์สำคัญของรถตระกูล SL นอกจากนี้ SL 400 ยังถูกนับว่าเป็นรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นจำหน่ายจริงรุ่นแรกที่ใช้ตัวถังอลูมิเนียมทั้งหมด ยังผลให้น้ำหนักตัวลดลงถึง 110 กก. ทนทาน ปลอดภัยยิ่งขึ้น และยังลดการสั่นสะเทือนในห้องโดยสารด้วย

  ชุดระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ลดความสูงลง 10 มม. ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ดิสก์เบรกมีช่องระบายความร้อน สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า ล้ออัลลอย AMG แบบ 7 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้ว หลังคาพาโนรามิคแบบ Magic Sky Control กระจกมองข้างด้านผู้ขับและกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ระบบ ALS – Active Light System ระบบ Cornering light และระบบ Adaptive Highbeam Assist

  ภายในเพิ่มชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, กาบบันไดแบบสเตนเลส ระบบ COMAND Online เครื่องเล่น DVD แบบ 6 แผ่น ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon Logic 7 พร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay ส่วนชุดระบบความปลอดภัยเป็นชุดเดียวกับ Mercedes-AMG SLC 43

  SL 400 AMG Premium ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 2,996 ซีซี เทอร์โบชาร์จคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9G-TRONIC กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. ที่ 2,000 – 4,200 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

  Mercedes-Benz SL 400 ราคาจำหน่าย 9,490,000 บาท

Mercedes-Benz S 500 Cabriolet

  สปอร์ตเปิดประทุนรุ่นที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานของรถตระกูล S-Class นับเป็นรถเปิดประทุน 4 ที่นั่งรุ่นแรกของเมอร์เซเดสนับตั้งแต่ปี 1971 โดยรถรุ่นนี้เป็นผสมผสานความหรูหราของซาลูนตระกูล S-Class เข้ากับความสปอร์ตรถสไตล์ Coupe โครงสร้างตัวถังและพื้นห้องโดยสารส่วนหลังผลิตจากอลูมิเนียม ยังผลน้ำหนักตัวลดลงเทียบเท่า S-Class Coupe

  S 500 Cabriolet มีจุดเด่นที่หลังคาผ้าใบแบบเนื้อผ้า 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อย หลังคาสามารถเปิดหรือปิดได้ในเวลาเพียง 20 วินาที ที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. เมื่อหลังคากางออก แผงกั้นระหว่างห้องโดยสารกับพื้นที่เก็บสัมภาระจะเลื่อนลงไปด้านหลังตัวรถโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับเก็บหลังคา และเมื่อปิด หลังคาซอฟท์ท็อปจะเคลื่อนตัวไปเป็นส่วนหนึ่งกับท้ายรถ การสั่งการเปิด-ปิดสามารถทำได้ด้วยระบบกุญแจอัตโนมัติแม้จะอยู่ภายนอกรถ สีผ้าใบมีให้เลือก 4 สี คือ สีดำ, น้ำเงินเข้ม, เบจ และแดงเข้ม

  S 500 Cabriolet ติดตั้งกระจังหน้า Diamond grille เช่นกัน เพิ่มความสปอร์ตด้วยคิ้วโครเมียมบริเวณชายกันชนหน้า ชุดแต่ง AMG bodystyling ที่กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง ปลายท่อไอเสียคู่ ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ล้ออัลลอย AMG ลาย 5 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้ว… พิเศษไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) ตัวช่วยมีระบบ ALS, Cornering light และ Adaptive Highbeam Assist เหมือนรุ่นอื่นๆ

  ภายในเน้นความหรูด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Designo Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design ด้านบนของคอนโซลหน้าและด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง ไฟ ambient lighting รอบห้องโดยสารแบบ 7 สี ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต กาบบันไดสเตนเลสพร้อมสัญลักษณ์เรืองแสง ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ Thermotronic ฟังก์ชันกระจายลมอุ่นบริเวณต้นคอ Airscarf ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร Air Balance Package และมีระบบ COMAND online ทำงานร่วมกับระบบเครื่องเสียง Burmester high-end 3D surround sound system พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 23 ตำแหน่ง

  เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยเหมือนรุ่นอื่นๆ เสริมด้วยระบบ Magic Vision Control ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เพิ่มทัศนวิสัยขณะขับด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน โดยระบบจะฉีดน้ำไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด และระบบ Night View Assist Plus ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นคนเดินถนนหรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืด ด้วยความสามารถของแสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้-ไกล ช่วยลดอุบัติเหตุในที่มืด ปิดท้ายด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง

  S 500 Cabriolet มากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4,663 ซีซี เทอร์โบชาร์จคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9G-TRONIC กำลังสูงสุดมากที่สุดในกลุ่ม 455 แรงม้า ที่ 5,250 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม. เริ่มที่รอบต่ำเพียง 1,800 – 3,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ราคาจำหน่าย 16,290,000 บาท

  สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่งาน Star Fest 2016 เซ็นทรัลเวิลด์ 23 – 28 สิงหาคม 2559 หรือเว็บไซท์ www.mercedes-benz.co.th หรือติดตามข้อมูลข่าวสารของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ที่แฟนเพจ facebook.com/MercedesBenzThailand  

Mercedes Star Fest 2016 : Dream Cars