2016 Suzuki Ignis ครอสโอเวอร์ไซส์เล็กเตรียมจำหน่ายในยุโรป

377views

Posted by : AREA 54

• ได้เวลาเปิดตัวในยุโรป สำหรับครอสโอเวอร์ขนาดมินิรุ่นใหม่ Suzuki Ignis การจัดแสดงจะมีขึ้นที่ภายในงาน 2016 Paris Motor Show ระหว่างวันที่ 1 – 16 ตุลาคมนี้ ส่วนการจำหน่ายจริงมีขึ้นแล้วในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2016 ที่ผ่านมา

• Ignis ใหม่นับเป็นการนำชื่อของ Kei Car ชื่อเดียวกันกลับมาใช้อีกครั้ง รุ่นแรกจำหน่ายในชื่อ Suzuki Swift (ก่อนที่ Swift และ Ignis จะแยกตัวออกมาจนถึงปัจจุบัน) ตั้งแต่ช่วงปี 2000 รุ่นที่ 2 มีการแยกแบรนด์แบบรีแบดจ์จำหน่ายเป็น Chevrolet Cruze, Holden Cruze และ Subaru G3X Justy ทั้งหมดยังคงเป็นรถ SUV ขนาดเล็ก รูปแบบตัวถังคือแฮทช์แบค 5 ประตูเช่นเดียวกัน ส่วน Ignis รุ่นล่าสุด เผยโฉมเป็นครั้งแรก ในช่วงปลายปี 2015

• Ignis เป็นรถครอสโอเวอร์ที่มีขนาดกะทัดรัด และน่าจะใช้งานในแบบกึ่งลุยได้นิดๆ ตามสไตล์รถครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ความยาวตัวรถเพียง 3,700 มม. กว้าง 1,660 มม. สูง 1,595 มม. ฐานล้อ 2,435 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 180 มม. ในญี่ปุ่นแบ่งการจำหน่ายเป็น 3 เกรด MG, MX และ MZ รุ่นพื้นฐานในแต่ละเกรดจะเป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ all-wheel drive ให้เลือกเพิ่มเติมในทุกรุ่นย่อย

• ทุกเกรดใช้งานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตรรหัส K12C ตระกูล DualJet วาล์วแปรผัน VVT กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (ps) แรงบิดสูงสุด 12 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT จุดเด่นในทุกรุ่นย่อยคือมีระบบ mild hybrid ที่ซูซูกิเรียกว่าระบบ SHVS หรือ Smart Hybrid Vehicle by Suzuki ติดตั้งมาให้ด้วย ตัวระบบใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยสนับสนุนการทำงานของเครื่องยนต์ในขณะเร่งความเร็ว โดยในรุ่นย่อยพื้นฐาน MG 2WD จะมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 28.8 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น ทั้งนี้ระบบ SHVS นั้นได้ใช้งานอยู่ก่อนหน้าในรถเล็กอย่าง Suzuki Baleno.

• ระบบ SHVS นี้ จริงๆ แล้วเป็นการนำระบบย่อยหลายๆ ระบบมาทำงานร่วมกัน อาทิ การเก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาดเล็ก และมีการนำระบบ ISG หรือ integrated starter generator ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยลดการทำงานของเครื่องยนต์ในขณะเร่งความเร็ว ควบรวมมอเตอร์และเจนเนอเรเตอร์เข้าไว้ด้วยกันมาใช้งาน… หากยังจำกันได้ ISG เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ “Suzuki Green Technology” ที่ซูซูกิเปิดตัวในช่วงเผยโฉม Suzuki Alto เจนเนอเรชั่นที่ 8 ทั้งนี้ ISG จะทำหน้าที่ชาร์จไฟกลับขณะยกคันเร่ง รีสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากระบบ idle-stop ทำงาน รวมทั้งลดโหลดเครื่องยนต์เป็นเวลา 30 วินาทีในขณะกดคันเร่งเพื่อเรียกอัตราเร่ง เมื่อรวมกับการทำงานของเครื่องยนต์ DualJet ที่ให้แรงบิดในรอบต่ำ ก็จะช่วยให้มีการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

• กำหนดการจำหน่ายและราคาในยุโรปยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้ครับ ส่วนราคาในญี่ปุ่นนั้นเปิดออกมาได้น่าประทับใจมาก รุ่นพื้นฐานเกรด MG 2WD เริ่มต้นที่ 1.38 ล้านเยน หรือประมาณ 4.7 แสนบาทเท่านั้น ส่วนรุ่นท๊อป MZ 4WD เริ่มต้นที่ 1.77 ล้านเยน หรือราว 6 แสนบาท •