September 7, 2016
Motortrivia Team (10156 articles)

F1 Italian GP 2016 : รอสเบิร์กฉกตำแหน่งผู้นำสตาร์ทชิงคว้าถ้วย


Posted by : Fascinator 

 

   นิโค รอสเบิร์ก นักแข่งสังกัดเมอร์เซเดส คว้าชัยชนะต่อเนื่องเป็นสนามที่ 2 หลังจากฉกตำแหน่งผู้นำไปได้ตั้งแต่ตอนสตาร์ทขึ้นนำเดี่ยวจนกระทั่งเข้าเส้นชัย ร่นระยะห่างคะแนนจากผู้นำฝูง ลูอิส แฮมิลตัน เหลือเพียง 2 แต้ม โดยนับเป็นชัยชนะที่สบายๆ สนามที่ 2 ติดต่อกันของ รอสเบิร์ก เมื่อ แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมออกตัวเป๋จากตำแหน่งโพล ทำให้นักขับผิวสีหลุดลงไปถึงอันดับ 6 ในรอบแรก เขาพยายามไล่ทำอันดับกลับขึ้นมาแต่ก็ทำได้เต็มที่เพียงอันดับ 2 เท่านั้น เพราะผู้นำอย่าง รอสเบิร์ก ฉีกหนีไปไกลและเข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก ส่วนอันดับ 3 เป็นการกลับมาขึ้นโพเดียมอีกครั้งของม้าลำพอง โดย เซบาสเตียน เวทเทล เอาโพเดียมมาฝากแฟนๆ เจ้าบ้านได้สำเร็จ

   ก่อนการแข่งขันมีนักแข่ง 2 คน ถูกปรับลดกริดสตาร์ท โรมัง โกรส์ฌอง จากฮาสเอฟวัน และ เอสเตบัน โอคอน จากมานอร์ ถูกปรับลดกันไปคนละ 5 กริด จากการที่ทั้งคู่ต้องเปลี่ยนชุดเกียร์ก่อนกำหนด

   การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นโดยดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้กันโดยตรงระหว่างคู่หูเมอร์เซเดส แต่ แฮมิลตัน นั้นพบปัญหาเกี่ยวกับคลัชทำให้สตาร์ทได้ไม่ดีและหล่นไปถึงอันดับ 6 ในรอบแรกในขณะที่ รอสเบิร์ก ชิงขึ้นนำไปได้

   กลุ่มหลังเกิดอุบัติเหตุขึ้นเล็กน้อยในรอบที่ 2 เฟลิเป้ นาสเซอร์ จากเซาเบอร์ ไปเบียดกับ โจลีออน พาลเมอร์ จากเรโนลต์ ทั้งคู่เสียหายเกินกว่าที่จะวิ่งจนจบการแข่งขัน นาสเซอร์ นั้นโดนลงโทษบวกเวลา 5 วินาที ไปด้วย จากการที่สจ๊วตเห็นว่านักขับบราซิเลียนมีส่วนผิดในการไม่เปิดพื้นที่ให้เพียงพอต่อการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

   สนามนี้ไม่ค่อยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายเหมือนสนามที่สปา รอสเบิร์ก นำยาวจนกระทั่งเข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก ตามมาด้วยคู่หูอย่าง แฮมิลตัน ในขณะที่ เวทเทล เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 เรียกขวัญและกำลังใจกลับมาให้แฟนๆ ม้าลำพองได้อยู่บ้าง ส่วน คิมี ไรค์โคเนน เพื่อนร่วมทีมของ เวทเทล เข้าเส้นชัยในอันดับ 4

   แดเนียล ริคคิอาร์โด จากเรดบูลล์ และ วาลท์เทรี บ็อตตาส จากวิลเลียมส์ มีการแย่งชิงอันดับ 5 ที่พอจะตื่นเต้นอยู่บ้าง ริคคิอาร์โด สร้างความฮือฮาด้วยการแซง บ็อตตาส จากระยะไกลที่โค้งแรก นักแข่งออสเตรเลียนดึงรถให้อยู่บนแทร็คไว้ได้และไม่เกิดการปะทะกับนักแข่งฟินน์ นั่นทำให้เขาชิงอันดับ 5 มาจาก บ็อตตาส ได้สำเร็จถึงแม้จะมีกำลังเครื่องยนต์ด้อยกว่าก็ตาม ริคคิอาร์โด จบการแข่งขันในอันดับ 5 ส่วน บ็อตตาส ตามมาเป็นอันดับ 6

   แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น คู่หูของ ริคคิอาร์โด ก็ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ยางไล่ทำอันดับในช่วงท้ายขึ้นมาได้เช่นกัน โดย เวอร์สแท็พเพ่น แซง เซอร์จิโอ้ เปเรซ จากฟอร์ซอินเดีย ขึ้นไปรับธงตราหมากรุกในอันดับ 7 เปเรซตามมาเป็นอันดับ 8

   2 คันสุดท้ายที่มีคะแนนในวันนี้ตกเป็นของ เฟลิเป้ มาสซ่า จากวิลเลียมส์ และ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก จากฟอร์ซอินเดีย โดยนักแข่งบราซิเลียนเข้าเส้นชัยในอันดับ 9 เหนือกว่านักแข่งเยอรมัน

   ฮาสเอฟวันและแม็คลาเรนหลุดจากตำแหน่งที่มีคะแนนไปในวันนี้ โรมัง โกรส์ฌอง และ เอสเตบัน กูเตร์เรซ จากฮาสเอฟวัน เข้าเส้นชัยในอันดับ 11 และ 13 ส่วนแม็คลาเรน เจนสัน บัตตัน และ เฟอร์นันโด อลองโซ เข้าเส้นชัยในอันดับ 12 และ 14 อย่างไรก็ตาม อลองโซ ได้เข้าไปเปลี่ยนยางในช่วงท้ายการแข่งขันและสามารถกดเวลาต่อรอบเร็วที่สุดของการแข่งขันออกมาได้ นับว่าเครื่องยนต์ฮอนด้าปรับปรุงขึ้นมามากทีเดียว

   คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ ยังคงพารถโทโรรอสโซผ่านเส้นชัยได้แม้จะหล่นไปถึงอันดับ 15 ก็ตาม จากการที่เครื่องยนต์ของพวกเขาเป็นเครื่องยนต์ปีเก่า อันดับของเขายังคงเหนือกว่า มาร์คุส อิริคส์สัน จากเซาเบอร์ ที่ใช้เครื่องยนต์เฟอร์รารีตัวใหม่ และ เควิน แม็กนุสเซน ทีมโรงงานเรโนลต์ ซึ่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 16 และ 17 เอสเตบัน โอคอน จากมานอร์ เป็นคนสุดท้ายที่ขับรถผ่านธงตราหมากรุกได้ในสนามนี้  

สรุปผลการแข่งขัน
01. นิโค รอสเบิร์ก – เมอร์เซเดส – 1.17.28.089 – กริด 2
02. ลูอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – +15.070 – กริด 1
03. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +20.990 – กริด 3
04. คิมี ไรค์โคเนน – เฟอร์รารี – +27.561 – กริด 4
05. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรดบูลล์ แท็กฮอยเออร์ – +45.295 – กริด 6
06. วาลท์เทรี บ็อตตาส – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +51.015 – กริด 5
07. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ แท็กฮอยเออร์ – +54.236 – กริด 7
08. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – ฟอร์ซอินเดีย เมอร์เซเดส – +1.04.954 – กริด 8
09. เฟลิเป้ มาสซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +1.05.617 – กริด 11
10. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – ฟอร์ซอินเดีย เมอร์เซเดส – +1.18.656 – กริด 9
11. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 17
12. เจนสัน บัตตัน – แม็คลาเรน ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 14
13. เอสเตบัน กูเตร์เรซ – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 10
14. เฟอร์นันโด อลองโซ – แม็คลาเรน ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 12
15. คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ – โทโรรอสโซ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 15
16. มาร์คุส อิริคส์สัน – เซาเบอร์ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 19
17. เควิน แม็กนุสเซน – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 21
18. เอสเตบัน โอคอน – มานอร์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 22
DNF – ดานีล คีฟยาต – โทโรรอสโซ เฟอร์รารี – รอบที่ 36 – แบตเตอรี – กริด 16
DNF – ปาสคาล เวหร์ไลน์ – มานอร์ เมอร์เซเดส – รอบที่ 26 –แรงดันน้ำมัน – กริด 13
DNF – โจลีออน พาลเมอร์ – เรโนลต์ – รอบที่ 7 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 20
DNF – เฟลิเป้ นาสเซอร์ – เซาเบอร์ เฟอร์รารี – รอบที่ 6 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 18
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – เฟอร์นันโด อลองโซ – แม็คลาเรน ฮอนด้า – 1.25.340 – รอบที่ 51


คะแนนสะสมประเภทนักขับ
01. ลูอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 250
02. นิโค รอสเบิร์ก – เมอร์เซเดส – 248
03. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรดบูลล์ แท็กฮอยเออร์ – 161
04. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 143
05. คิมี ไรค์โคเนน – เฟอร์รารี – 136
06. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ แท็กฮอยเออร์ – 121
07. วาลท์เทรี บ็อตตาส – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 70
08. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – ฟอร์ซอินเดีย เมอร์เซเดส – 62
09. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – ฟอร์ซอินเดีย เมอร์เซเดส – 46
10. เฟลิเป้ มาสซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 41
11. เฟอร์นันโด อลองโซ – แม็คลาเรน ฮอนด้า – 30
12. คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ – โทโรรอสโซ เฟอร์รารี – 30
13. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 28
14. ดานีล คีฟยาต – โทโรรอสโซ เฟอร์รารี – 23
15. เจนสัน บัตตัน – แม็คลาเรน ฮอนด้า – 17
16. เควิน แม็กนุสเซน – เรโนลต์ – 6
17. ปาสคาล เวหร์ไลน์ – มานอร์ เมอร์เซเดส – 1
18. สตอฟเฟล ฟานดัวเน – แม็คลาเรน ฮอนด้า – 1
19. เอสเตบัน กูเตร์เรซ – ฮาส เฟอร์รารี
20. โจลีออน พาลเมอร์ – เรโนลต์
21. มาร์คุส อิริคส์สัน – เซาเบอร์ เฟอร์รารี
22. เฟลิเป้ นาสเซอร์ – เซาเบอร์ เฟอร์รารี
23. ริโอ ฮารีอันโต – มานอร์ เมอร์เซเดส
24. เอสเตบัน โอคอน – มานอร์ เมอร์เซเดส


คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
01. เมอร์เซเดส – 498
02. เรดบูลล์ แท็กฮอยเออร์ – 290
03. เฟอร์รารี – 279
04. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 111
05. ฟอร์ซอินเดีย เมอร์เซเดส – 108
06. แม็คลาเรน ฮอนด้า – 48
07. โทโรรอสโซ เฟอร์รารี – 45
08. ฮาส เฟอร์รารี – 28
09. เรโนลต์ – 6
10. มานอร์ เมอร์เซเดส – 1
11. เซาเบอร์ เฟอร์รารี


ที่มา :
•  espnf1.com.
•  autosport.com.


ผลการแข่งขันฤดูกาล 2016

•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Italian GP : รอสเบิร์กฉกตำแหน่งผู้นำตอนสตาร์ท ชิงคว้าถ้วยไปในวันนี้.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Belgian GP : รอสเบิร์กชิงแต้มจากแฮมิลตันกลางดราม่าเทกระจาด.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 German GP : แฮมิลตันชิงถ้วยรางวัลจากเจ้าถิ่นรอสเบิร์ก.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Hungarian GP : แฮมิลตันเชือดรอสเบิร์กขึ้นนำฝูงคะแนนสะสม.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 British GP : แฮมิลตันซิวชัยในบ้านเกิด รอสเบิร์กถูกลงโทษอันดับหล่นไปที่ 3.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Austrian GP : แฮมิลตันชนะหลังจากชนกับรอสเบิร์กในรอบสุดท้าย.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 European GP : รอสเบิร์กนำเดี่ยวคว้าแกรนด์สแลม.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Canadian GP : แฮมิลตันเบียดรอสเบิร์กรั้งเวทเทลซิวชัย.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Monaco GP : เรดบูลล์ทำพิทพลาดส่งแชมป์ให้ศรเงิน.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Spanish GP : ศรเงินสอยกันเองส่งแชมป์ให้เวอร์สแท็พเพ่น.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Russian GP : รอสเบิร์กนำม้วนเดียวจบ.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Chinese GP : รอสเบิร์กคว้าชัยหลังเฟอร์รารีปะทะโค้งแรก.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Bahrain GP : รอสเบิร์กซิวชัยต่อเนื่อง โกรส์ฌองเก็บแต้มติดต่อกัน.
•   ผลการแข่งขัน : F1-2016 Australian GP : รอสเบิร์กซิวชัยเปิดฤดูกาล ทีมน้องใหม่สร้างประวัติศาสตร์.