NIO EP9 ไฮเปอร์คาร์พลังไฟฟ้า 1,360 แรงม้าจากประเทศจีน

729views

เรื่อง : AREA 54

● NextEV อีกหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพหัวก้าวหน้าจากจีน เปิดตัวซับ-โกลบอลแบรนด์ใหม่ในชื่อ “NIO” เพื่อให้มีความเรียบง่ายและช่วยสร้างการจดจำที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับการเปลี่ยนชื่อในการทำตลาดของ Atieva ที่เปลี่ยนชื่อแบรนด์ไปเป็น Lucid Motors โดยไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของนีโอคือ NIO EP9 จะมากับพละกำลังที่มากถึง 1,360 แรงม้า ยังผลให้ในบรรดา 3 ดาวรุ่งแบรนด์น้องใหม่ที่น่าจับตาในแวดวงสตาร์ทอัพอันประกอบด้วย Atieva, Faraday Future และ NextEV นั้น ไฮเปอร์คาร์ NIO EP9 ดูมีราศีที่สุดในกลุ่ม

● NIO หรือนีโอ (หรือออกเสียงประมาณ “เนี่ยว”) ตามข้อมูลเป็นคำในภาษาจีนที่ประกอบด้วยวลี “เว่ยหลาย” มีความหมายโดยรวมว่า “Blue Sky Coming” สื่อถึงยุคใหม่ที่ท้องฟ้าอันสดใสกำลังจะกลับคืนมาด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ามลพิษศูนย์นั่นเอง

● นีโอเผยภาพสเกทช์แรกของ EP9 ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2016 ที่ผ่านมา ข่าวการพัฒนาตัวรถมีขึ้นเป็นระยะๆ ตั้งแต่ช่วง 2 ปีก่อน การเปิดตัวชื่อ “NextEV” มีขึ้นพร้อมๆ กับการเปิดตัวรายการ Formula E ฤดูกาลแรก 2014 – 2015 ในนามทีม NEXTEV TCR Formula E Team (TCR หมายถึง Team China Racing) ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวที่สร้างความฮือฮาได้มากพอสมควร ฤดูกาลแรกมีคะแนนสะสมประเภททีมในอันดับสูงสุดลำดับที่ 4

● ผลงานใน Formula E ที่เป็นรูปธรรม ทำให้โฆษกของเทสล่า มอเตอร์ส Ricardo Reyes ให้ความเห็นในช่วงปลายปี 2015 ว่า NextEV เป็นคู่แข่งที่น่าจับตาทีเดียว “เรามีความสุขนะที่คนอื่นๆ ใช้ Model S และโมเดลธุรกิจของเราเป็นเบนช์มาร์ค ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือบริษัทสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนก็ตาม”

● William Li ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ NextEV เจ้าของเว็บไซท์ BitAuto.com ผู้ให้บริการออนไลน์คอนเทนท์และดิจิทัล มาร์เกทติ้งยักษ์ใหญ่ในจีน มีแนวคิดในการผลิตรถที่ค่อนข้างแตกต่างจากแบรนด์ผู้ผลิตสตาร์ทอัพอื่นๆ ที่มักจะเน้นการมองหาโนว์ฮาวและความร่วมมือจากบุคลากรในแวดวงยานยนต์เป็นหลัก เขาเลือกระดมความคิดจากบริษัท R&D และนักออกแบบทั่วโลกโดยไม่จำเป็นจะต้องเจาะจงลงไปที่กลุ่มบุคลากรในสายยานยนต์เพียงอย่างเดียว

● ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแผนงานสร้างแบรนด์นีโอมีอาทิ Dr. Martin Leach อดีตผู้บริหารมาเซราติและฟอร์ด ยุโรป, Xiang Li นักลงทุนจีนเจ้าของเว็บไซท์ autohome.com.cn และ Padmasree Warrior อดีตหัวหน้าแผนกเทคนิคของโมโตโรล่าผู้มาพร้อมกับแนวคิดว่า ยังมีที่ว่างสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันนีโอมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ และมีสาขาย่อยในต่างประเทศ 3 แห่ง คือ ลอนดอน, มิวนิค และซาน โฮเซ่

● เบื้องต้น NIO EP9 จะใช้เซ็ทอัพระบบขับเคลื่อนที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แต่ละตัวจะมีชุดเกียร์บ๊อกซ์ส่งกำลังขนาดเล็กเป็นของตัวเองเพื่อทำหน้าที่กระจายแรงบิด ขับเคลื่อนแบบ all-wheel drive กำลังสูงสุดผลิตได้ 1 เมกาวัทท์ หรือเทียบเท่า 1,360 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวอยู่ที่ 150.8 กก.-ม. แรงบิดรวมทั้งระบบมีตัวเลขที่บ้าเลือดถึง 645 กก.-ม. ตั้งแต่ 0 – 7,500 รอบ/นาที (ตามทฤษฎี) อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดเอาไว้ที่ 313 กม./ชม.

● แบตเตอรี่แพคไม่ระบุความจุ รองรับฟังก์ชั่นการถอดเปลี่ยนได้ หากต้องการชาร์จเองจะสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 45 นาที วิ่งทำระยะทางด้วยความเร็วผสมได้ประมาณ 427 กม./รีชาร์จ น้ำหนักตัวรวม 1,735 กก. เทียบกับไฮเปอร์คาร์ในคลาสที่ใกล้เคียงกันอย่าง McLaren P1 และ Ferrari La Ferrari แล้ว EP9 จะมีน้ำหนักมากกว่าราว 200 กก. จากแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่า (P1 และ La Fer เป็นรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด จึงไม่ต้องการแบตเตอรี่ที่มีความจุมากเท่า BEV – battery electric vehicle แท้ๆ)

● เพื่อรองรับกับตัวเลขอันน่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้ EP9 จึงมีดิฟฟิวเซอร์จัดระเบียบอากาศที่ออกแบบเป็นพิเศษแบบเต็มพื้นที่ใต้ท้องรถสำหรับไล่รีดอากาศจากด้านหน้าไปยังด้านท้ายรถให้รวดเร็วที่สุด และมีปีกหลังแบบแอคทีฟที่ปรับระดับได้ 3 ตำแหน่ง แบ่งเป็นค่ามาตรฐาน 3 แบบคือ Park, Low Drag และ High Downforce ซึ่งนีโอระบุว่าที่ความเร็วสูงสุด แพคเกจแอร์โรไดนามิคของ EP9 สามารถสร้าง ดาวน์ฟอร์ซ ได้ถึง 24,000 นิวตัน หรือเทียบเท่า 2,447 กก. หรือคิดเป็น 2 เท่าของดาวน์ฟอร์ซในรถ Formula 1

● ล่าสุดนีโอนำ EP9 โปรโตไทป์ไปทดลองวิ่งจับเวลาที่ลูป Nurburgring ฝั่งเหนือ (Nordschleife) ในวันที่ 14 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา และทำเวลาได้ดีที่สุด 7.05.12 นาที โดยตัวเลขเวลานี้นับเป็นเวลาที่ดีที่สุดในคลาสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนแบบ BEV ทำลายสถิติของ Toyota TMG EV P002 ที่ทำไว้ 7.22.32 นาทีในปี 2012

● นอกจากนี้ หากนับเวลารวมแบบโอเวอร์ออล NIO EP9 สามารถทำเวลาได้เป็นอันดับที่ 5 ในประเภทรถโปรดัคชั่นที่วิ่งได้ถูกต้องตามกฏหมายบนถนนหลวง เป็นรองเพียง Radical SR8 LM (เวลา 6.48.00 นาที), Radical SR8, Porsche 918 Spyder และ Lamborghini Aventador SV ส่วนในประเภทรถโปรดัคชั่นหรือรถจำกัดจำนวนที่ต้องวิ่งในพื้นที่เฉพาะ (เช่น สนามแข่ง) EP9 ทำเวลาได้เป็นลำดับที่ 4 เป็นรองเพียง Pagani Zonda R (เวลา 6.47.50 นาที), Ferrari 599XX และ Dodge Viper ACR-X.

● ผู้ที่รับหน้าที่ขับทำสถิติ ผู้แปลไม่แน่ใจว่าเป็นใครระหว่าง Nelson Piquet, Jr. หรือ Oliver Turvey ทั้งคู่เป็นนักขับของ NextEV Formula E Team ในปัจจุบัน และร่วมลงขับทดสอบ NIO EP9 มาก่อนที่สนาม Circuit Paul Ricard ก่อนหน้าที่จะทำสถิติที่ Nurburgring… อย่างไรก็ตามผู้ขับทำสถิติคือ 1 ใน 2 คนนี้นั่นล่ะครับ

● William Li กล่าวว่า “วันนี้ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าของเราทำลายสถิติที่ลูปนอร์ดชไรเฟอได้สำเร็จ NIO EP9 เกิดมาเพื่อก้าวข้ามทุกขีดจำกัด และนี่คือก้าวแรกในการผลิตยานยนต์ของนีโอ มันคือตัวแทนของแถลงการณ์ในด้านวิสัยทัศน์, เทคโนโลยี และประสิทธิภาพในการผลิตของเรา นี่คือผลิตภัณฑ์ในแบบ best-in-class ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า”

● NIO EP9 เปิดตัวเป็นทางการที่ Saatchi Gallery กรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา กรอบเวลาการผลิตอยู่ในช่วงปี 2017 หากไม่มีอะไรผิดพลาด การผลิตจะมีขึ้นที่ประเทศจีน โดยใช้โรงงานของ JAC Motors ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักของนีโอในจีน ณ ปัจุจุบัน

● การจำหน่ายจะเริ่มขึ้นในจีนเป็นที่แรก จากนั้นจะเป็นคิวของยุโรป ส่วนสหรัฐฯ ต้องรอยืนยันอีกครั้ง (ผู้แปลคิดว่ามีคนสั่งก็คงไปทั่วโลกนั่นแหละครับ) เบื้องต้นการผลิตจริงมีขึ้นแล้ว 6 คัน ทุกคันถูกแจกจ่ายให้กับบริษัทที่ร่วมลงทุน 6 แห่ง ราคาจำหน่ายที่แน่นอนยังไม่ระบุในเวลานี้ ทว่ามีการประเมินกันคร่าวๆ ว่าต้นทุนในการผลิตต่อคันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 42.6 ล้านบาท ดังนั้นราคาจริงน่าจะสูงกว่านี้มากพอสมควรครับ ●