January 18, 2017
Motortrivia Team (11371 articles)

Volvo เชื่อตลาดรถบรรทุกปี 60 ฟื้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง


ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

 

●   บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกแกร่งสายพันธุ์สวีเดน วอลโว่ ทรัคส์ และรถบรรทุกสัญชาติญี่ปุ่น ยูดี ทรัคส์ เชื่อมั่นตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่ในประเทศไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่ 2 หลังจากที่ตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่องถึง 2 ปี

●   นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 7% เทียบกับปี 2558 ที่ตลาดหดตัวมากกว่า 20% ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นจากภาครัฐในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงภาวะภัยแล้งที่ประเทศไทยประสบจากวิกฤติการณ์เอลนีโญมาหลายปีติดต่อกัน ได้เริ่มคลี่คลายเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้ตามปกติ ในขณะที่พืชผลทางการเกษตรที่อิงกับราคาเชื้อเพลิง เช่นยางพารา เป็นต้น เริ่มกระเตื้องตามภาวะราคาน้ำมันดิบ ขณะเดียวกันปีที่แล้ว ถือเป็นปีที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซี่ยนหรือ AEC ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าข้ามแดน

●   นอกจากนี้ รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการประชารัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เช่นโครงการการเบิกจ่ายเงินลง 74,655 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ หมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท ตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐประจำปีงบประมาณ 2560 และโครงการเติมเงินลงทุนจังหวัดและกองทุนหมู่บ้าน 1 แสนล้านบาท โดยการกระตุ้นเหล่านี้ กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่าจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2560 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4% จากปัจจุบัน 3%

●   “เราได้เล็งเห็นสิ่งเหล่านี้และที่สำคัญคือการเดินหน้าเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีอัตราเติบโตตามแรงกระตุ้น ซึ่งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจ ได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจของไทย เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถใหญ่ น่าจะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นทางภาครัฐด้วย”  นายกำลาภ กล่าว

●   นายกำลาภ กล่าวว่า ภาคธุรกิจที่จะมีส่วนต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ได้แก่ภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และปีนี้ จะยังคงมีบทบาทต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถใหญ่ ทั้งนี้เพราะการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐบาล ประกอบกับภาคการขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูงเช่นวัตถุอันตรายและน้ำมันเชื้อเพลิง จะยังคงมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรถบรรทุกทั้งวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ สามารถตอบสนองตลาดกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี จึงน่าจะได้รับผลดีจากการเติบโตในปีนี้

●   สำหรับข้อกังวลในปี 2560 นายกำลาภ กล่าวว่าว่าปัจจัยที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี 2560 ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดการดังกล่าว จะมีส่วนส่งเสริมการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่น


นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด


●   ในขณะที่การเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลก เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของเศรษฐกิจหลักทั่วโลกและประเทศไทย โดยนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่หาเสียงไว้ มีนโยบายกีดกันทางการค้า หากเป็นเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบทางด้านลบต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริกา แต่ประเทศไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ประมาณ 10% ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบไม่มากนัก

●   “ราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็เป็นอีกปัจจัยที่เราต้องเฝ้าติดตาม เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังตลอดปีใหม่นี้”  นายกำลาภ กล่าว อย่างไรก็ตามขณะนี้ค่ายวอลโว่ กรุ๊ป กำลังพิจารณาการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด

●   ปีที่แล้ว วอลโว่ กรุ๊ป มียอดขายทั้งสิ้น 1,191 คัน เพิ่มขึ้น 17% โดยเป็นยอดขายจากวอลโว่ ทรัคส์ 391 คัน ในขณะที่ยอดขายยูดี ทรัคส์ 800 คัน เพิ่มขึ้น 56% จาก 512 คันในปี 2558 ซึ่งการเติบโตในส่วนของยูดี ทรัคส์ นั้น นอกจากจะมาจากการฟื้นตัวของตลาดที่เกิดจากการกระตุ้นของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว ยังเกิดจากการเข้าสู่ AEC ของประเทศไทย ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากธุรกิจ Logistics ที่ต้องจัดหารถบรรทุกเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

●   ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วอลโว่ กรุ๊ป ได้ทุ่มเงินลงทุนขยายเครือข่ายไปถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่ม AEC ได้ 1 ปี เพื่อรองรับกับตลาดที่จะฟื้นตัวและความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าผ่านแดนจากข้อตกลงของ AEC โดยประเทศไทยอยู่ในทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของ AEC

●   สรุปแผนการตลาดในปี 2560 : วอลโว่ ทรัคส์ นั้นถือเป็นสินค้าระดับพรีเมียม จึงวางกลยุทธ์ให้กับกลุ่มลูกค้าในเรื่องมุ่งเน้นให้คำปรึกษา แนะนำ และช่วยเหลือ รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น เน้นความเป็นผู้นำเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงและความปลอดภัย ส่วน ยูดี ทรัคส์ เป็นกลุ่มสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น จึงมีการจัดกิจกรรมเดินสายตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าง่ายขึ้น พร้อมกันนั้นยังมีการจัดโปรโมชั่น แคมเปญต่างๆ เอาใจลูกค้าด้วยการการันตีดูแลหลังการขาย 3 ปี หรือ ระยะทาง 360,000 กิโลเมตรทุกรุ่น

●   นอกจากนั้นทาง วอลโว่ กรุ๊ป ยังมีการทำสื่อ Digital Marketing ไม่เฉพาะเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่มีการนำความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งเผยแพร่ให้ลูกค้าได้ทราบอีกด้วย

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ www.volvotrucks.com/th-th และ www.udtrucks.com/th-th   ●