BMW ประเทศไทย เปิดสายการประกอบรถ plug-in hybrid ที่ระยอง
ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่
● บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (BMW Group Manufacturing Thailand) เริ่มเดินสายการประกอบรถ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ในโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยในเบื้องต้นโรงงานแห่งนี้จะรับหน้าที่ประกอบรถ PHEV ของบีเอ็มดับเบิลยู 2 รุ่น ได้แก่ BMW 330e Luxury และ BMW X5 xDrive40e M Sport
● ภายในงาน มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร และ มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้เผยรายละเอียดต่างๆ ของแผนงานในอนาคต และได้รับเกียรติจาก ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมแสดงความยินดีกับอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างอนาคตแห่งความยั่งยืน
● ปัจจุบันโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นโรงงานแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่สามารถผลิตรถในเครือได้ครบทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ BMW, MINI และ BMW Motorrad และนับเป็นโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่มีความสำคัญในตลาดภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาศักยภาพในการเดินสายการประกอบรถยนต์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด โดยจะเริ่มที่รถ 2 รุ่นก่อน
● โรงงานแห่งนี้เพิ่งฉลองความสำเร็จในการประกอบรถ 19 รุ่นภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ BMW Motorrad ครบ 70,000 คัน ในช่วงกลางปี 2559 ที่ผ่านมา
มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต (Stefan Teuchert) ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
● “การพัฒนาศักยภาพในการเดินหน้าสายการประกอบรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จอีกก้าวของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยในการดำเนินพันธกิจตามวิสัยทัศน์แห่งการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญที่โรงงานที่จังหวัดระยอง และประเทศไทย มีต่อการดำเนินธุรกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอาเซียน” มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต (Stefan Teuchert) ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว
● “เราเชื่อมั่นว่าโรงงานที่จังหวัดระยอง จะสามารถพัฒนานวัตกรรมและขยายการบริการของเราให้กับลูกค้าและผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างความสำเร็จที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนต่อไปในอนาคต”
มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ และประธานบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
● มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน (Jeffrey Gaudiano) กรรมการผู้จัดการ และประธานบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความสามารถของทีมงานทุกคนที่โรงงานในประเทศไทยแห่งนี้ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถขยายประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการผลิตได้อย่างไม่หยุดยั้ง”
● “นอกจากโรงงานของเราในประเทศไทยแห่งนี้จะเป็นที่แรกและที่เดียวในโลกที่ประกอบได้ทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ภายใต้หลังคาเดียวกันแล้ว เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้พัฒนาศักยภาพในการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในรุ่น BMW 330e Luxury และ BMW X5 xDrive40e M Sport และเชื่อมั่นว่าการขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ณ โรงงานที่ระยองแห่งนี้จะช่วยเสริมสร้างรากฐานให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาค และสนับสนุนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่ความยั่งยืนในอนาคต”
ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
● ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมแสดงความยินดีและกล่าวถึงความสำเร็จ ครั้งนี้ว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมและบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีโอกาสทำงานร่วมกันในการขยายการดำเนินงานและพัฒนาธุรกิจของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศไทยมายาวนาน เรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการฉลองความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูในการขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ในครั้งนี้ และมีความยินดีที่ได้เห็นบีเอ็มดับเบิลยูให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ อันเป็นเครื่องสะท้อนถึงความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะนำประเทศไทยนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน”
คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
● BMW 330e Luxury และ BMW X5 xDrive40e M Sport เป็นรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มที่ใช้ เทคโนโลยี iPerformance โดยในปัจจุบันนั้น รถในกลุ่ม iPerformance จะถูกแยกออกมาจาก BMW i ซึ่งเป็นซับ-แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (BEV : battery electric vehicle)
● เทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริดของบีเอ็มดับเบิลยู คือรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ทว่าสามารถรีชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงผ่านซอคเกทด้วยสายเคเบิลได้ ชุดระบบประกอบด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo, เกียร์อัตโนมัติสเต็ปทรอนิก 8 สปีด ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี BMW eDrive ได้แก่มอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่แพค และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง
● ทั้ง BMW 330e Luxury และ BMW X5 xDrive40e M Sport มีการบริหารจัดการพลังงานที่ชาญฉลาด การใช้งานในเมืองที่ไม่ต้องการพลังอย่างเต็มระบบ สามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบได้โดยปราศจากการปล่อยมลภาวะ ในขณะที่หากผู้ขับต้องการใช้พลังอย่างเต็มสมรรถนะ โหมดไฮบริดก็สามารถให้ความประหยัดเชื้อเพลิงโดยยังคงไว้ซึ่ง DNA ความสปอร์ตในการขับตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ●
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
● บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 โดยตั้งอยู่ ณ ชายฝั่งตะวันออก ของประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ (จังหวัดระยอง) ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 115 กม. มีพื้นที่ทั้งหมด 75,000 ตารางเมตร ปัจจุบันนับเป็นโรงงานแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่สามารถผลิตรถในเครือครบทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ BMW, MINI และ BMW Motorrad
● บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ใช้งบประมาณในการลงทุนมากกว่า 2.6 พันล้านบาท นับตั้งแต่เริ่มการก่อตั้ง และในปี พ.ศ. 2558 ได้เพิ่มการลงทุนอีก 1.1 พันล้านบาท สำหรับการขยายโรงงาน รวมทั้งมีการเปิดศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา พร้อมอุปกรณ์การเรียนการสอนแบบครบครัน สำหรับการฝึกอบรมด้านเมคคาทรอนิกส์ให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษา ระดับ ปวส.
● ในปี พ.ศ. 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย รับหน้าที่ประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประกอบด้วย BMW 1 Series, BMW 3 Series, BMW 3 Series Gran Turismo, BMW 5 Series, BMW 7 Series, BMW X1, BMW X3, BMW X5 และ MINI Countryman ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ BMW F 800 R, BMW F 800 GS, BMW F 700 GS, BMW R 1200 GS, BMW R 1200 GS Adventure, BMW F 800 GT, BMW S 1000 R และ BMW S 1000 RR ●
BMW Group Manufacturing Thailand