2017 Toyota Prius Plug-in Hybrid ปรับสเปคสำหรับยุโรป

526views

Posted by : AREA 54

● โตโยต้าเตรียมส่งรถกรีน Toyota Prius Plug-in Hybrid รุ่นปี 2017 ไปทำตลาดในยุโรป โดยจะมีการปรับเปลี่ยนสเปคของอุปกรณ์ติดรถบางอย่าง ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนยังคงเดิม เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่

● เพื่อกันความสับสน Prius Plug-in Hybrid (PHV หรือ PHEV) รุ่นที่เห็นนี้เป็นรุ่นเดียวกับ Toyota Prius Prime ในญี่ปุ่น/สหรัฐฯ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ทว่าตัวรถเฉพาะรุ่น Plug-in Hybrid จะถูกนับเป็น เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในขณะที่ Prius ไฮบริด แบบไม่มีพอร์ทเสียบปลั๊กชาร์จจะถูกนับเป็น เจนเนอเรชั่นที่ 4 เนื่องจาก Prius Plug-in Hybrid เจนเนอเรชั่นแรกเพิ่งพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มของ Prius เจนเนอเรชั่นที่ 3 นั่นเอง

● ออปชั่นที่ต่างกันคือ เวอร์ชั่นยุโรปจะมีเพียงจอกลางขนาด 8 นิ้ว ใช้งานร่วมกับจอคู่ 4.2 นิ้วทางด้านบน ในขณะที่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีจอไซส์แท็บเลทขนาดยักษ์ 11.1 นิ้วให้ใช้งาน ยังผลให้การออกแบบช่องแอร์กลางแตกต่างกันด้วย ขณะเดียวกันเวอร์ชั่นยุโรปจะมีหลังคาโซลาร์สำหรับช่วยชาร์จกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ในขณะขับ สามารถเพิ่มระยะทางในการขับได้อีกราว 5 กม. โดยประมาณ

(ซ้าย : จอ 11.1 นิ้วของเวอร์ชั่นญี่ปุ่น/สหรัฐฯ ขวา : จอ 8 นิ้วเวอร์ชั่นยุโรป)

● นอกจากนี้ โตโยต้ายังระบุว่า Prius PHEV จะถูกนับเป็นรถรุ่นแรกของโตโยต้าที่มีการใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่าง CFRP (Carbon Fiber Reinforced Plastic) มาผลิตฝากระโปรงหลังในแบบเน้นปริมาณการผลิต (Mass Production) เพื่อการลดน้ำหนักด้วย

● สำหรับการลดค่า NVH (Noise, vibration and harshness) หรือการปรับปรุงเรื่องเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้างในห้องโดยสาร โตโยต้าได้ทำการเปลี่ยนวัสดุบุฝากระโปรงเพื่อลดเสียงเครื่องยนต์ในขณะเร่งความเร็ว โดยมีการแยกติดตั้งซุ้มล้อยูรีเธนแยกส่วนออกมาเพื่อหวังผลในแบบเดียวกัน, เฉพาะโซนของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าติดตั้งกระจกข้างทั้ง 2 ฝั่งแบบ Acoustic (กระจกที่มีหลายเลเยอร์ ออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงรบกวน) เพื่อเพิ่มความเงียบ ส่วนโซนผู้โดยสารทางด้านหลัง แม้จะเป็นกระจกธรรมดาแบบพื้นฐาน แต่จะมีการติดตั้งวัสดุซับเสียงในกรุกันโคลนซุ้มล้อให้เพิ่มเติม

● ชุดระบบไฮบริดคงเดิมครับ ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทำงานแบบ Atkinson Cycle ความจุ 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual motor generator drive system) ในลักษณะเดียวกับที่ใช้ใน Prius รุ่นพื้นฐาน มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังช่วยเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าในบางจังหวะ จัดสรรการทำงานระหว่างล้อคู่หน้า-หลังตามความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ เช่น เพิ่มแทรคชั่นบนพื้นถนนที่เปียกลื่น เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพค 8.8 กิโลวัตต์-ชม. (+ 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า) อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียจากโหมดไฮบริด 22 กรัม/กม.

● ราคาจำหน่ายในยุโรปยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้ครับ ส่วนเวอร์ชั่นสหรัฐฯ นั้น ราคาเริ่มต้นที่ 27,100 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.5 แสนบาท เมื่อรวมส่วนลดจากทางการราคาจะต่ำลงมาอีกเล็กน้อย ●