February 8, 2017
Motortrivia Team (10156 articles)

Toyota และ Suzuki ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยี


Posted by : AREA 54

 

●   ย้อนไปในช่วงเดือนตุลาคม 2016 มีข่าวว่า โตโยต้า และ ซูซูกิ เตรียมร่วมมือกันแบ่งปันความรู้และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่ง มร. อากิโอะ โตโยดะ ในฐานะประธานโตโยต้าถึงกับใช้คำว่า “เราจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพเพื่อตอบสนองกับความเปลี่ยนแปลงนั้นเพื่อความอยู่รอด”

●   ล่าสุด โตโยต้าและซูซูกิได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MoU) ในการเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต เบื้องต้นประกอบด้วย เทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับระบบความปลอดภัย, ระบบให้ข้อมูลข่าวสารในรถ, เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และการแชร์ชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องในลักษณะซัพพลายเออร์ร่วม รวมถึงอาจจะมีการผลิตรถรุ่นใหม่ร่วมกันเพิ่มเติมในลำดับต่อไป (ลักษณะเดียวกับแผนงาน NMKV ของมิตซูบิชิและนิสสันกับ Nissan Dayz และ Mitsubishi eK wagon)

●   ข้อตกลงนี้เริ่มขึ้นในช่วงปี 2016 หลังจากที่ซูซูกิได้ซื้อหุ้นจำนวน 20% คืนมาจากโฟล์คสวาเกน ซึ่งถือหุ้นแบบไม่มีอำนาจควบคุม (Non-controlling Shareholder) ในซูซูกิมาตั้งแต่ช่วงปี 2009 จนถึง 2015

●   “ภายใต้การนำของท่านประธาน อากิโอะ โตโยดะ ทางโตโยต้าได้แสดงความกระตือรือล้นตลอดเวลาระหว่างการหารือร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้ แม้ว่าซูซูกิจะมีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับแอดวานซ์ก็ตาม ณ เวลานี้ เรายืนอยู่ในจุดที่กำลังสร้างความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม”  มร. โอซามุ ซูซูกิ แชร์แมน ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว

●   ในตลาดโลก แม้ซูซูกิในนาม American Suzuki Motor Corporation หรือ ASMC จะเข้าสู่กระบวนล้มละลายตามมาตรา 11 หรือ Chapter 11 ในพระราชบัญญัติล้มละลายของสหรัฐอเมริกา และทำให้ซูซูกิต้องยุติการจำหน่ายรถในสหรัฐฯ ในช่วงปี 2012 แต่ในสหราชอาณาจักร, แคนาดา และอินเดีย ซูซูกิยังมีความแข็งแกร่งและยืดหยัดอยู่ได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์

●   ในญี่ปุ่นเองนั้น เรารู้กันอยู่แล้วว่าโตโยต้าคือยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ทว่าซูซูกิก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับยอดจำหน่ายในลำดับต้นๆ โดยเฉพาะรถในคลาส Kei Car ในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมานั้น ซูซูกิสามารถทำยอดจำหน่ายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 3 ด้วยตัวเลข 622,866 คัน เป็นรองเพียงโตโยต้า (1,528,173 คัน) และฮอนด้า (707,044 คัน) เท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่เหลือใน Top 10 ประกอบด้วย (4) Daihatsu (5) Nissan (6) Mazda (7) Subaru (8) Mitsubishi (9) Isuzu และ (10) Mercedes

●   นอกจากนี้ ในลิสท์ Top 10 ของยอดจำหน่ายรวมทั่วโลก ซูซูกิยังเอาตัวรอดได้ด้วยยอดจำหน่ายรวมสูงสุดเป็นอันดับที่ 9 โดยอันดับอื่นๆ ในปี 2015 (ปี 2016 ยังไม่มีตัวเลขเป็นทางการ) นั้นประกอบด้วย (1) Toyota : 10,083,831 คัน (2) Volkswagen : 9,872,424 คัน (3) Hyundai : 7,988,479 คัน (4) GM : 7,485,587 คัน (5) Ford : 6,396,369 คัน (6) Nissan : 5,170,074 คัน (7) Fiat Chrysler : 4,865,233 คัน (8) Honda : 4,543,838 คัน (9) Suzuki : 3,034,081 คัน และ (10) Renault : 3,032,652 คัน

●   อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับฝั่งซูซูกิไม่น้อย โดยเฉพาะการลดต้นทุนในด้าน R&D ในขณะที่ซูซูกิยังมีความเป็นเอกเทศในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่างเต็มตัว (อย่างน้อยก็ในเวลานี้) ต่างจากไดฮัทสุซึ่งถูกครอบครองโดยโตโยต้าแบบถือหุ้น 100% หรือมิตซูบิชิที่ถูกนิสสันถือหุ้นใหญ่ 34%   ●