2018 DS 7 Crossback รถรุ่นแรกที่ไม่ได้รีแบดจ์จาก Citroen
Posted by : AREA 54
● DS Automobiles ซับ-แบรนด์หรูของซีตรอง เปิดตัวรถรุ่นแรกที่ออกแบบและผลิตภายใต้แบรนด์ “DS” (หรือ Different Spirit หรือ Distinctive Series) เพียวๆ โดยไม่ได้รีแบดจ์มาจากรถรุ่นเดิมของซีตรอง เช่น DS 3, DS 4 หรือ DS 5 ที่เคยจำหน่ายภายใต้ชื่อ Citroen DS มาก่อนหน้า และเริ่มตีตราจำหน่ายใหม่ในชื่อแบรนด์ DS หลังปี 2015 เป็นต้นมา
● อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง DS 7 Crossback นั้น DS เคยมีรถรุ่นเฉพาะกิจที่ไม่ได้จำหน่ายภายใต้แบรนด์ซีตรองมาก่อน 1 รุ่น นั่นคือ SUV ขนาดคอมแพคท์ DS 6 ทว่ามันเป็นรุ่นรถที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน ใช้แพลทฟอร์ม PSA PF2 ของ Groupe PSA (เดิมคือ PSA Peugeot Citroen) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มที่ใช้อยู่ใน Citroen C4 หรือ Peugeot 3008 ดังนั้น DS 7 Crossback จึงถูกนับเป็นรถรุ่นแรกที่ออกแบบและผลิตเพื่อทำตลาดโลก (โดยเฉพาะในยุโรป) ภายใต้ตราสัญลักษณ์ DS
● DS 7 Crossback เป็นรถครอสโอเวอร์ SUV แบบตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่งในกลุ่ม D segment ความยาวตัวรถ 4,570 มม. กว้าง 1,890 มม. สูง 1,620 มม. ขนาดตัวพอๆ กับคู่ต่อสู้หลักในกลุ่มรถหรูอย่าง Volvo XC60 งานออกแบบ และวัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่ง Mr. Thierry Metroz ผู้อำนวยการฝ่ายงานตกแต่งระบุว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากโลกของโอกูตูร์ (Haute Couture แวดวงแฟชั่นชั่นสูง) ซึ่งลูกค้าจะสามารถสัมผัสได้ถึงความหรูหราที่แตกต่างแม้แต่ในดีเทลที่เล็กที่สุด โดยเฉพาะงานตกแต่งภายในห้องโดยสาร
● นอกจากนี้ DS 7 Crossback ยังเป็นรถรุ่นแรกของแบรนด์ DS ที่เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวด้วยระบบขับเคลื่อนใหม่แบบ plug-in hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 200 แรงม้า (HP) จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (109 แรงม้า x2) เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 13 กิโลวัทท์-ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ หมุนล้อทั้ง 4 แบบ all-wheel drive โดย DS ใช้ชื่อระบบขับเคลื่อนชุดนี้ว่า “E-TENSE” ซึ่ง DS นำชื่อนี้มาจากระบบขับเคลื่อนสาธิตที่ติดตั้งในรถต้นแบบ DS E-Tense Concept รุ่นปี 2016… อย่างไรก็ตามระบบขับเคลื่อนชุดนี้จะเริ่มใช้งานจริงใน DS 7 รุ่นปี 2019 ครับ
● อีกหนึ่งของใหม่คือ ชุดช่วงล่าง “Active Scan Suspension” ปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพถนน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้กล้องหน้าที่ติดตั้งเอาไว้ด้านหลังของกระจกหน้า ทำงานร่วมกับเซนเซอร์วัดการทรงตัว 4 ตัว (Attitude Sensors) และอุปกรณ์วัดความเร่งการเคลื่อนที่ของวัตถุ 3 ตัว (Accelerometer)
● ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดในเบื้องต้น เป็นเครื่องยนต์กลุ่มใหม่ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6.2 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่นใหม่ EAT8 (ย่อมาจาก Efficient Automatic Transmission with 8-speeds) แบ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร THP 225 S&S กำลังสูงสุด 225 แรงม้าตามรหัสเครื่อง คาย CO2 ราว 137 กรัม/กม. และเครื่องยนต์ THP 180 S&S กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ PureTech 130 S&S กำลังสูงสุด 130 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
● หมายเหตุ : รหัส THP หมายถึง Turbo Haute Pression (หรือเทอร์โบชาร์จกำลังอัดสูง High Pressure Turbo ในภาษาอังกฤษ) ส่วนรหัส S&S หมายถึงระบบ Stop/Start ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติขณะหยุดนิ่ง
● ฝั่งเครื่องยนต์ดีเซลมี 2 รุ่น ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร BlueHDi 180 เกียร์ EAT8 กำลังสูงสุด 180 แรงม้าตามรหัสเครื่องเช่นกัน คาย CO2 เพียง 128 กรัม/กม. และ BlueHDi 130 S&S เกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ กำลังสูงสุด 130 แรงม้า
● DS จะเริ่มจำหน่าย DS 7 Crossback ภายในปี 2017 นี้ คู่แข่งในกลุ่มเดียวกันคือ Audi Q5, BMW X3, Lexus NX หรือ Volvo XC60 ราคาจำหน่ายรุ่นท๊อปฝั่งเบนซินเริ่มต้นที่ 53,400 ยูโร หรือประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนรุ่นท๊อปฝั่งดีเซล 54,900 ยูโร หรือราว 2.1 ล้านบาทครับ ●