March 15, 2017
Motortrivia Team (10167 articles)

All New Honda CR-V i-DTEC AWD ลองขับดีเซลรุ่นแรกของฮอนด้าไทยในสนามบุรีรัมย์


เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : ฮอนด้า ประเทศไทย

 

●   ฮอนด้า ซีอาร์-วี เริ่มทำตลาดครั้งแรกในปี 1996 มีจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายรวมกว่า 8.3 ล้านคัน โฉมใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 5 เตรียมเปิดตัวในไทย 24 มีนาคม 2560 นี้ ก่อนถึงกำหนดเปิดตัว บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็เผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ และจัดให้สื่อมวลชนทดลองขับกันที่สนามแข่งมาตรฐานระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

●   ซีอาร์-วี โฉมล่าสุด เน้นจุดแข็งเรื่องความเอนกประสงค์ ซึ่งมีในซีอาร์-วี ตั้งแต่รุ่นแรก เพิ่มเติมในเรื่องของ Dynamic เพื่อให้มีสมรรถนะดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน และมีความหรูหราจากการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพดี ภายนอกคงเอกลักษณ์ของซีอาร์-วี ไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะไฟท้ายทรงตั้งที่เพิ่มลูกเล่นขึ้นอีก ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟท้าย LED ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบทั้งจังหวะเปิดและปิด สามารถตั้งได้ว่าให้เปิดกว้างได้แค่ไหน ด้วยการปรับฝาท้ายด้วยมือและกดสวิตช์เปิด-ปิดที่ฝาท้ายค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะมีเสียงสัญญาณสั้นๆ 2 ครั้ง เพื่อยืนยันว่าเสร็จสิ้นการปรับตั้ง

●   ภายในแบบ 7 ที่นั่ง เน้นความหรูหราของผิวพื้นวัสดุ การตกแต่งเน้นความโฉบเฉี่ยวและสะดวกสบาย ผสมผสานความสปอร์ตและมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตามสไตล์รถ ชุดมาตรวัดแบ่งโซนชัดเจนเพื่อให้อ่านค่าต่างๆ ได้รวดเร็ว ระบบเกียร์ Shift by Wire แทนที่คันเกียร์ด้วยปุ่มกดเลือกตำแหน่งเกียร์ เพิ่มพื้นที่ใช้สอย โดยปุ่มกดยังคงอยู่ในตำแหน่งที่คุ้นเคย ใช้กดปุ่มเพื่อเลือกโหมดเดินหน้า D หรือโหมดสปอร์ต S ถ้าจะถอยหลังก็ดันปุ่มถอยหลัง R คอนโซลเกียร์มีสวิตช์เปิด-ปิดระบบ Auto Start/Stop ระบบ ECON เบรกมือไฟฟ้า และ BRAKE HOLD

●   การตกแต่งทำได้ดีทั้งในด้านความประณีตและคุณภาพวัสดุ เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้าพร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า เบาะแถว 2 และ 3 ปรับได้ด้วยระบบกลไก เบาะแถว 2 มีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ พนักพิงแยกพับได้ 60:40 และปรับเอนได้ เลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้เล็กน้อย สามารถพับพนักพิงแนบกับเบาะนั่ง แล้วกระดกทั้งชุดมาแนบกับด้านหลังของพนักพิงเบาะหน้าได้ มีตะขอเกี่ยวไว้กับเสากลางป้องกันเบาะพับลงไปโดยไม่ตั้งใจ กระดกเบาะแถว 2 ขึ้นเพื่อเปิดทางให้ผู้โดยสารเข้า-ออกเบาะแถว 3 ได้สะดวกขึ้น พนักพิงเบาะแถว 3 สามารถพับราบแนบกับเบาะนั่ง เสมือนเป็นรถ 5 ที่นั่ง พร้อมที่เก็บสัมภาระด้านท้าย เบาะแถว 3 มีช่องแอร์และสวิตช์ปรับความแรงลม ด้านข้างมีที่วางแก้วแบบพับเก็บได้

●   ทดลองเรื่องความกว้างขวางโดยให้ผู้ขับที่มีความสูง 180 เซนติเมตร ปรับให้นั่งได้ถนัด ผู้โดยสารเบาะแถว 2 มีความสูง 170 เซนติเมตร นั่งแล้วหัวเข่าเฉี่ยวๆ กับด้านหลังของพนักพิงเบาะผู้ขับ ส่วนเบาะแถว 3 มีผู้โดยสารที่มีความสูงระดับ 170 เซนติเมตรอีกคน นั่งแล้วบอกว่าพอนั่งได้ ถ้าเป็นเด็กหรือคนตัวเล็ก ก็น่าจะนั่งสบายกว่านี้

●   เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของซีอาร์-วี รุ่นใหม่นี้ พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) เป็นแบบดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1,600 ซีซี เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ปรับตั้งแรงบูสต์ของเทอร์โบไว้ที่ 2 บาร์ หรือ 29.4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร หรือ 35.66 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนหรือ NVH ด้วยเพลาถ่วงสมดุลและฝาครอบแบบดูดซับเสียง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย รุ่น 2WD 18.9 กิโลเมตรต่อลิตร คาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 141 กรัมต่อกิโลเมตร รุ่น 4WD 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร และ 149 กรัมต่อกิโลเมตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5

●   ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ หรือ 2-Stage Turbocharger ใช้เทอร์โบ 2 ขนาดรวมเป็นชุดเดียวกัน ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในรอบต่ำเทอร์โบขนาดเล็กจะทำงาน และเมื่อรอบสูงขึ้นเทอร์โบขนาดใหญ่ที่เป็นแบบแปรผันหรือ Variable Geometry Turbocharger จะรับช่วงต่อ เทคโนโลยีนี้ช่วยลดอาการ Turbo Lag ในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดีตั้งแต่รอบต่ำ ต่อเนื่องตลอดถึงรอบสูง มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ติดตั้งหน้าซุ้มล้อฝั่งผู้โดยสาร ลดความร้อนของไอดีก่อนเข้าห้องเผาไหม้ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมมอนเรล แรงดัน 1,600 บาร์ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยควบคุมแรงดันในรางให้เหมาะสม ด้วยการคำนวณรอบเครื่อง ปริมาณการฉีดน้ำมัน อุณหภูมิ และไอเสีย ทำให้การฉีดน้ำมันจากหัวฉีดทุกตัวมีความเสถียร และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ

●   หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหลายจุด หรือ Multi Injection ทำงานแปรผันเพื่อให้เหมาะสมกับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยจะคำนวณปริมาณและจังหวะในการฉีดน้ำมัน กับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ จึงใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และลดการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ มาพร้อมระบบ Idle Stop System ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่ง และจะกลับมาทำงานอีกครั้ง เมื่อปล่อยเบรกหรือเหยียบคันเร่งในกรณีที่ระบบ Brake Hold ทำงาน

●   ติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสีย Exhaust Gas Recirculation System หรือ EGR ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นำไอเสียบางส่วนหมุนเวียนกลับมาใช้เผาไหม้อีกครั้ง เพื่อให้ไอดีมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการจุดระเบิด ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการปล่อยมลพิษ มาพร้อมตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล Diesel Particulate Filter หรือ DPF ทำหน้าที่ดักจับเขม่าของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปะปนออกมากับไอเสีย

●   ระบบส่งกำลังแบบใหม่ อัตโนมัติ 9 จังหวะ อัตราทดชิด ให้การตอบสนองที่ดี เงียบ และประหยัดเชื้อเพลิง เมื่อต้องการเร่งแซงผู้ขับเพียงแค่กดคันเร่งเพื่อคิ๊กดาวน์ ชุดควบคุมเกียร์จะคำนวณอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบก้าวกระโดดจากเกียร์ 9 ลงมายังเกียร์ 5 หรือจากเกียร์ 7 ลงมาเกียร์ 4 โดยไม่ต้องไล่ลงทีละเกียร์ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำครั้งละ 2 จังหวะ

●   ระบบ Real Time AWD ปรับปรุงระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ และ Real Differential EDPS สำหรับล้อหลัง ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า แบ่งแรงบิดไปล้อหลังมากขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล ปรับปรุงระบบการควบคุมการหมุนฟรีของล้อ ชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ มีน้ำหนักเบาลง และมีแรงเสียดทานลดลง และมีไฟแสดงสถานการณ์แบ่งกำลังบนชุดมาตรวัด

●   ซีอาร์-วี มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ถังน้ำมันออกแบบให้แบนและบางเพื่อประหยัดพื้นที่ ซับเฟรมแบบลอยตัว บูชช่วงล่างทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบมีของเหลวบรรจุ ช่วยลดเสียงจากพื้นถนน ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์แบบ E-Type พัฒนาให้มีความสมดุลระหว่างการควบคุมที่ฉับไวแม่นยำ และความสะดวกสบายในการบังคับควบคุมรถ

●   ระบบบังคับเลี้ยวออกแบบเพื่อให้มีการทำงานที่สม่ำเสมอต่อเนื่องและแม่นยำ เพิ่มความแข็งแรงและมั่นคงด้วยการเปลี่ยนแกนพวงมาลัยใหญ่ขึ้นจากเดิม 8 มิลลิเมตร เป็น 30 มิลลิเมตร และเพิ่มความแข็งแรงให้จุดยึดชุดเฟืองพวงมาลัย เพิ่มการตอบสนองที่ฉับไวขึ้นด้วยการใช้ระบบอัตราทดแปรผัน Variable Steering Ratio หรือ VGR ปรับอัตราทดพวงมาลัยให้น้อยลงเป็น 2.2 รอบหมุนสุด ลดลง 0.9 รอบ

●   ในการขับปกติ หมุนพวงมาลัยด้วยความนุ่มนวล ระบบ Agile Handling Assist หรือ AHA จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบังคับควบคุมรถ และในสถานการณ์คับขัน ต้องมีการหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเลนกะทันหัน หลบหลีกสิ่งกีดขวาง หรือขับบนทางคดเคี้ยว ระบบ VSA หรือ Vehicle Stability Control จะช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เสริมด้วยระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย Motion-Adaptive Electric Power Steering ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมทั้งในการเข้าโค้ง หรือทางลาดชัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะระบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้บางจังหวะขณะเข้าโค้ง รู้สึกว่าพวงมาลัยดึงๆ ดิ้นเบาๆ อยู่ในมือ

●   นอกจากนี้ยังเพิ่มขนาดยางจากเดิม 225/60R18 เป็น 235/60 R18 และจากเดิม 225/65 R17 เป็น 235/65 R17 เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน ใช้หม้อลมเบรกแบบไฟฟ้า เพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรกหน้า 19 มิลลิเมตร เป็น 315 มิลลิเมตร ด้านหลังเพิ่ม 5 มิลลิเมตร เป็น 310 มิลลิเมตร

●   ทดลองขับในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่มีความยาว 4.554 กิโลเมตร ได้ขับคนละ 2 รอบ เครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ ทำผลงานได้ดีเกินคาด แม้มีความจุแค่ 1,600 ซีซี แต่การขับก็ไม่รู้สึกว่าอืด ทั้งที่ขับในสนามแข่งที่โล่งและมีช่วงทางตรงที่ยาวสุดถึง 1,000 เมตร อัตราเร่งทันใจกว่าที่คิด แม้จะไม่ดึงหนักหน่วงสะใจ แต่ก็เร่งได้อย่างต่อเนื่อง เร่งออกจากโค้งด้วยความเร็วต่ำแค่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางไม่ไกลก็สามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะต้องเบรกเพื่อเข้าโค้ง เครื่องยนต์เร่งรอบได้ไหลลื่นจรด 4,000 รอบต่อนาที ก่อนจะเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง

●   เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ มีการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ลากรอบสูงจัด จะไม่รู้สึกเลยว่าเกียร์เปลี่ยนจังหวะขึ้นเกียร์สูง การคิ๊กดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำก็ทำได้อย่างฉับไวและนุ่มนวลไม่กระชาก ไล่เกียร์ลงได้อย่างเหมาะสมกับน้ำหนักเท้าที่กดคันเร่ง โดยรวมเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานสอดคล้องกันได้ดี เร่งทันใจพอสมควร เด่นเรื่องความนุ่มนวลและต่อเนื่อง

●   ช่วงล่างเซตมาได้อย่างสมดุล ขับในสนามได้อย่างมั่นใจ มีการหน่วงและจำกัดการโคลงของตัวรถได้ดี ส่วนเรื่องการซับแรงสะเทือนยังไม่ได้ทดลองเพราะขับในสนามที่พื้นผิวเรียบสนิท พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าให้การหมุนที่ราบเรียบต่อเนื่อง รวมทั้งแปรผันการผ่อนแรงได้เหมาะสมกับลักษณะการขับ หนืดหน่วงเมื่ออยู่ในโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้ควบคุมรถง่าย ไม่ต้องประคองพวงมาลัย ที่ความเร็วต่ำก็เบาแรงแต่ไม่ถึงกับเบาหวิว ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ สร้างแรงเบรกได้อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะเมื่อกดแป้นเบรกแบบเน้นๆ จะดึงลดความเร็วลงได้อย่างทันใจ ไม่มีอาการเบรกไหลให้หวาดเสียว

●   อีกจุดที่ฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมใหม่ทำได้ดี คือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ระหว่างที่รอคิวขับ สังเกตว่าเมื่ออยู่นอกรถจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดีเซลค่อนข้างชัด แต่เมื่อเข้าไปนั่งในรถแล้วเสียงเงียบลงไปมาก ลองขับด้วยความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ จะเริ่มได้ยินเสียงเครื่องยนต์เมื่อลากรอบสูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที และมีเสียงลมปะทะแผ่วๆ ที่ความเร็วประมาณ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

●   ฮอนด้า ซีอาร์-วี i-DTEC เครื่องยนต์ดีเซล ตอบสนองคันเร่งได้ดีตั้งแต่รอบต่ำ เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป และน่าจะได้เรื่องความประหยัดแถมมาด้วย เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ทำงานนุ่มนวลฉับไว ช่วงล่างปรับให้หนึบขึ้นบ้าง แต่ยังคงความนุ่มนวลตามแบบฉบับซีอาร์-วี เข้าโค้งในสนามแข่งได้ดีเกินคาด ขับใช้งานทั่วไปได้สบายๆ อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน รองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ไม่รู้สึกว่าขาด ยังติดค้างเรื่องการซับแรงสะเทือนและอัตราสิ้นเปลือง ที่ต้องลองกันอีกครั้งถ้ามีโอกาส ส่วนราคาต้องรอวันเปิดตัว 24 มีนาคม 2560 นี้   ●

ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการทดสอบ


2017 Honda CR-V i-DTEC AWD First Drive