March 20, 2017
Motortrivia Team (10069 articles)

2017 Lexus LC ได้คิวเดินทางกลับไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น


Posted by : AREA 54

 

●   เลกซัสเตรียมนำสปอร์ตหรูขับเคลื่อนล้อหลัง Lexus LC กลับไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่เริ่มทำตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรปไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแบรนด์หรูของโตโยต้าได้แบ่งการจำหน่ายเป็น 2 ทางเลือกหลัก ประกอบด้วย Lexus LC 500 เครื่องยนต์ V8 และ Lexus LC 500h เครื่องยนต์ V6 + มอเตอร์ไฟฟ้า

●   Lexus LC เป็นหนึ่งในรถรุ่นสำคัญของเลกซัสที่ประธานโตโยต้าคนปัจจุบัน อากิโอะ โตโยดะ ถึงกับกล่าวว่า LC คือรถรุ่นสำคัญสำหรับเขาเป็นการส่วนตัว โดยมันเป็นรถสปอร์ตที่เด่นที่สุดในกลุ่มรถสมรรถนะสูงที่เป็นรองเพียงการเปิดตัวซูเปอร์คาร์อย่าง Lexus LFA เท่านั้น ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ GA-L platform หรือ Global Architecture Luxury และเป็นรถรุ่นแรกที่ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่แบบ 10 จังหวะของ Aisin ขนาดเล็กกว่าและเบากว่าเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

●   LC ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ตัวถังและแชสซีส์เป็นชิ้นเดียวกัน แนวคิดในการพัฒนาคล้ายกับโครงสร้างแบบ Monocoque โตโยต้าให้ข้อมูลว่ามันมีความแข็งแรง รับแรงบิดได้ดี และมีความทนทานมากกว่าแชสซีส์คาร์บอนที่ใช้อยู่ใน Lexus LFA

●   ในรุ่นพื้นฐาน LC 500 เลกซัสติดตั้งเครื่องยนต์ V8 สูบ รหัส 2UR-GSE ความจุ 5.0 ลิตร N/A บล็อคเดียวกับที่ใช้ใน Lexus RC F เลย์เอาท์เครื่องยนต์เป็นแบบเครื่องวางหน้า ร่นตำแหน่งมาทางด้านหลัง ขับเคลื่อนล้อหลัง (Front-Midship Engine) กำลังสูงสุดผลิตได้ 467 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 53.7 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที เรดไลน์ 7,300 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 10 จังหวะ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 4.5 วินาที

●   ส่วนรุ่นไฮบริด LC 500h ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบ รหัส 8GR-FXS ความจุ 3.5 ลิตร 295 แรงม้า (HP) จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 59 แรงม้า เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟใน 1 ชม. เท่ากับ 44.6 กิโลวัตต์-ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 4 จังหวะ (Multi Stage Hybrid) กำลังรวมทั้งระบบ 354 แรงม้า โดยชุดระบบไฮบริดนี้ เป็นระบบใหม่ที่โตโยต้าเรียกว่า Multi Stage Hybrid System ออกแบบโดยเน้นความสมดุลย์ระหว่างพละกำลังและการใช้เชื้อเพลิง อาทิ ในการใช้งานด้วยโหมด Eco ระบบจะสตาร์ทการทำงานของรถด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน พร้อมตัดการทำงานของ 2 เกียร์แรก ส่วนโหมด Sport และ Sport+ จะใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์อย่างเต็มที่เพื่อความกระฉับกระเฉง โดยระบบจะเลือกใช้อัตราทดเกียร์ที่สอดคล้องกับการทำงานของรอบเครื่องยนต์

●   จุดสำคัญคือการจัดวางชุดเกียร์ขนาดกะทัดรัดเอาไว้ด้านหลังชุดระบบส่งกำลัง แม้จะมีอัตราทดแบบฟิกซ์เอาไว้ที่ 4 ระดับ ทว่าผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบ 10 จังหวะด้วยแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัย 3 เกียร์แรกจะถูกแบ่งออกเป็น 3×3 จังหวะ จากความสามารถในการแปรผันอัตราทดของเกียร์ CVT (ในที่นี้นับเป็น 9 จังหวะ) ในขณะที่เกียร์ฟิกซ์อัตราทดสุดท้าย หรือจังหวะที่ 4 จะทำหน้าที่ในลักษณะ Overdrive สำหรับโหมด Sport

●   ในญี่ปุ่นเลกซัสจะจำหน่าย LC 500 และ LC 500h รุ่นละ 3 เกรด (รวม 6 รุ่นย่อย) แบ่งเป็นรุ่นพื้นฐานเปลือยๆ รุ่นเพิ่มออปชั่น S package และ L package โดยรุ่นพื้นฐาน LC 500 เริ่มต้นที่ 13 ล้านเยน หรือประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนรุ่นท๊อป S package จบที่ 14 ล้านเยน หรือราว 4.4 ล้านบาท ด้านรุ่นไฮบริดรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 13.5 ล้านเยน หรือราว 4.2 ล้านบาท รุ่นท๊อป S package จบที่ 14.5 ล้านเยน หรือราว 4.5 ล้านบาทครับ   ●


2017 Lexus LC 500 and 500h Japanese Version