March 3, 2017
Motortrivia Team (10167 articles)

MG GS 1.5 Turbo X เครื่องยนต์ใหม่ ไม่ผิดหวังเรื่องความแรง


เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : เอ็มจี ประเทศไทย

 

●   MG GS เอสยูวีขนาดคอมแพกต์ เปิดตัวในเมืองไทยครั้งแรกด้วยรุ่น 2.0 เทอร์โบ เมื่อเดือนมีนาคม 2559 จากนั้นในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันจึงเพิ่มรุ่น 1.5 เทอร์โบ เปิดตัวในมอเตอร์ เอ็กซ์โป ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์บล็อกใหม่เบนซิน 4 สูบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ รองรับ E85 และระบบส่งกำลังใหม่ทวินคลัตช์ 7 จังหวะ ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังร่วมกับ MG5 แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย 1.5T 2WD รุ่น D ราคา 890,000 บาท และรุ่น 1.5T 2WD รุ่น X ราคา 990,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นที่บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดให้ทดสอบแบบกลุ่มบนเส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น พร้อมกิจกรรมขับประหยัดระยะทางสั้นๆ 100 กิโลเมตร และเยี่ยมชมศูนย์บริการครบวงจรที่จังหวัดชัยภูมิและอุดรธานี

 

เครื่องยนต์ใหม่ 1,500 ซีซี เทอร์โบ 167 แรงม้า

●   MG GS มาพร้อม 4 องค์ประกอบสำคัญ คือ ดีไซน์ที่ทันสมัย ออกแบบสไตล์ DiamondFlow, สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม, เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง จุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ แบบไดเร็คอินเจ็คชั่นเทอร์โบ 4 สูบ 1,490 ซีซี เทอร์โบบูสต์ 0.9-1.4 บาร์ หรือ 13-20 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 25.47 กก.-ม. มาแบบ Flat Torque ที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที รองรับ E85 ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ Twin Clutch Sportronic Transmission หรือ TST แบบ 7 จังหวะ เคลมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 9.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อทดสอบด้วยแก๊สโซฮอล์ 95

●   มิติตัวถังรุ่น 1.5T 2WD X มีความยาว 4,500 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,689 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1,460 กิโลกรัม ใช้ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17

●   เริ่มทดสอบช่วงแรกจากโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ถึงร้านอาหาร บ้านไม้ชายน้ำ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ วงแหวนรอบนอก เข้าถนนพหลโยธินต่อเนื่องถนนมิตรภาพ และแยกซ้ายออกอำเภอปากช่อง ขับตามสภาพการจราจรที่ค่อนข้างโล่งตลอดทาง รถยนต์รุ่นนี้มีจุดเด่นที่อัตราเร่งทันใจ โดยไม่จำเป็นต้องลากรอบสูง เร่งได้ต่อเนื่องตั้งแต่ความเร็วต่ำไปถึงประมาณ 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงจะเริ่มแผ่ว เกียร์อัตโนมัติแบบทวินคลัตช์เน้นการทำงานที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อาจทำให้รู้สึกว่าบางจังหวะเกียร์ตอบสนองไม่ทันใจนัก คล้ายเกียร์ธรรมดาที่มีจังหวะเลี้ยงคลัตช์

●   ระบบกันสะเทือนรูปแบบเดียวกับรุ่น 2.0 ที่เป็นแบบอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ได้รับการปรับปรุงเพิ่มความนุ่มนวลด้วยการเปลี่ยนสปริงและช็อคฯ ต่างจากรุ่น 2.0 เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยจะรู้สึกว่าช่วงล่างหนึบแน่น และมีอาการโยนตัวไม่มากนัก ใช้ความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ มาพร้อมตัวช่วยครบๆ ทั้ง SCS ควบคุมการทรงตัว, CBC ควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, TCS ป้องกันล้อหมุนฟรี และ HAS ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

●   พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีการทำงานที่ราบเรียบตลอดการหมุน และมีการผ่อนแรงที่พอเหมาะ ที่ความเร็วต่ำไม่หนักมาก และหนืดขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ช่วงแรกรู้สึกว่าเหยียบแล้วเบรกแข็งไปนิด ปรับตัวไม่นานก็ชินและควบคุมการเบรกได้ง่าย ให้แรงเบรกเหลือเฟือ เบรกได้มั่นใจไม่มีอาการเบรกด้านหรือเบรกไหล ถึงร้านอาหารกลางวันด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.6 กิโลเมตรต่อลิตร

MG ชัยภูมิ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชัยภูมิ

●   จากนั้นมุ่งหน้าสู่โชว์รูม MG จังหวัดชัยภูมิ แวะพักดื่มกาแฟและมีผู้บริหารโชว์รูม คุณพัฒน์พงษ์ สัมพันธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ เอ็มจี ชัยภูมิ ให้การต้อนรับพร้อมเล่าความเป็นมาของโชว์รูมแห่งนี้ว่า มีความชอบและความหลงใหลในรถยนต์มาตั้งแต่เด็ก และได้มีการปรึกษากับ คุณวัชระ บำรุงศ์วงศ์ ถึงแนวทางและความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจรถยนต์ให้ประสบผลสำเร็จ จึงตัดสินใจก่อตั้งโชว์รูมแห่งนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2559 มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจแบบเชิงรุก เน้นคุณภาพ และการสร้างเอกลักษณ์ โดยเลือกเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี เพราะทั้งคู่มีความมั่นใจในรถยนต์ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และเอ็มจีในประเทศไทยยังได้กลุ่มธุรกิจรายใหญ่อย่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและในระดับสากลมาร่วมทุนอีกด้วย

●   เอ็มจี ชัยภูมิ จัดจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่น ด้วยทีมที่ปรึกษาด้านการขายและการบริการที่มีความชำนาญ พร้อมด้วยการให้บริการพื้นฐานแบบครบวงจรภายใต้นโยบายการทำงานแบบเชิงรุก ที่มุ่งเน้นการสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าเป็นหลัก พนักงานทุกคนพิถีพิถันในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการให้บริการ พร้อมให้บริการอย่างรวดเร็วเมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และพยายามทำให้ เอ็มจี ชัยภูมิ เป็นศูนย์บริการแบบ One Stop Service ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครบวงจร รวมทั้งมีแผนงานที่จะสร้าง เอ็มจี ชัยภูมิ ให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญในอนาคตของอำเภอเมืองชัยภูมิ ด้วยการเพิ่มบริการร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาร์แคร์ เพื่อให้บริการด้านการดูแลรักษารถยนต์แก่ชาวชัยภูมิทั้งที่เป็นลูกค้า เอ็มจี และที่ยังไม่ได้เป็น และยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมการโปรโมทแบรนด์ เอ็มจี ให้เป็นที่รู้จักของชาวชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น

2 ช่วงสุดท้าย รีดสมรรถนะแบบเต็มๆ

●   ก่อนจะเดินทางต่อไปยังที่พัก โรงแรมอวานี จังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 2 ช่วงสุดท้ายประมาณ 300 กิโลเมตร มีหลายช่วงที่เป็นถนน 2 เลนสวน ต้องเร่งแซงบ่อยครั้ง สังเกตว่ารถพุ่งตามน้ำหนักเท้าที่กดคันเร่ง ช่วงล่างรองรับได้ดี ลองย้ายไปนั่งเบาะหลังพบว่าเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ ช่วงล่างหลังจะดีดตัวเร็วไปนิด ทำให้นั่งไม่ค่อยสบาย แต่ก็คุ้มเมื่อแลกกับการยึดเกาะถนนที่ดีในความเร็วสูง เข้าโค้งกว้างๆ ด้วยความเร็ว 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้โดยไม่มีอาการท้ายเหวี่ยง เกาะจิกโค้งไปได้แบบคมๆ ทั้งที่เป็นรถทรงสูง

●   ลองย้ายไปนั่งเบาะหน้าคู่ผู้ขับ พบว่านุ่มนวลกว่าเบาะหลังอย่างเห็นได้ชัด ด้านพื้นที่ใช้สอยถือว่าทำได้ดี เบาะหลังมีที่วางขากว้างพอสมควร พื้นที่เหนือศีรษะเหลือๆ สำหรับความสูง 170 เซนติเมตร พนักพิงเบาะหลังปรับได้ 14 องศา ติอยู่เรื่องเดียว คือ ไม่มีช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ต้องอาศัยใช้ช่องจ่ายไฟฟ้าตรงพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง ถ้าสายชาร์จไม่ยาวพอก็จะชาร์จพร้อมกับใช้งานไปด้วยไม่ได้

●   เส้นทาง 2 ช่วงสุดท้าย มีทั้งถนน 2 เลนสวนและทางขึ้นเขา อัตราสิ้นเปลืองลดลงตามสัดส่วน ป้วนเปี้ยนแถว 9-9.5 กิโลเมตรต่อลิตร ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสว่างขึ้นก่อนถึงที่พักในจังหวัดขอนแก่นเล็กน้อย เมื่อจอดรถเรียบร้อยกดดูข้อมูลการขับพบว่า ระยะทางที่ขับได้ด้วยน้ำมันที่เหลืออยู่คือ 0 กิโลเมตร เพื่อนอีกคันเหลือ 1 กิโลเมตร แต่ก็ไม่กังวลนัก เพราะปั๊มน้ำมันอยู่ใกล้ๆ กับที่พัก

ขับประหยัดแบบสนุกๆ

●   วันรุ่งขึ้นเดินทางไปยังโชว์รูม เอ็มจีจังหวัดอุดรธานี ระยะทางประมาณ 114 กิโลเมตร แก้เหงาระหว่างเดินทางด้วยกิจกรรมขับประหยัดแบบสนุกๆ ไม่จริงจังนัก MG GS 1.5T ทุกคันเติมน้ำมัน E20 พร้อมหยอดน้ำมันเพิ่มให้เต็มถึงคอถัง แล้วเริ่มออกเดินทางช่วงแรกติดไฟแดงหลายครั้ง ต้องฝ่าการจราจรในช่วงเช้าที่สับสนไม่แพ้กรุงเทพฯ ความวุ่นวายค่อยๆ คลี่คลายตามลำดับเมื่อออกนอกเมือง สามารถทำความเร็วคงที่ได้ จุดหมายอยู่ที่ปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่เยื้องๆ กับโชว์รูม ให้เวลาขับที่เหมาะสม ไม่นานเกินไป ทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วต่ำได้ ต้องขับด้วยความเร็วใกล้เคียงกับการใช้งานปกติ 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าไปถึงจุดหมายช้ากว่าเวลาที่กำหนดก็ฟาล์ว

●   เมื่อถึงปั๊มก็เติมน้ำมันเพิ่มให้เต็ม แต่ไม่ได้เติมหยอดจนเต็มถึงคอถังเหมือนเดิมเพราะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา เนื่องจากมีรถทดสอบถึง 8 คัน จึงใช้วิธีเติมแค่หัวจ่ายตัด และเติมเพิ่มให้ค่าน้ำมันเป็นจำนวนเต็ม สำหรับคันที่นั่งมาเติมน้ำมันเพิ่ม 6.17 ลิตร เป็นเงิน 160 บาท กับระยะทางบนหน้าปัด 110.3 กิโลเมตร คิดเป็นค่าใช้จ่ายกิโลเมตรละ 1.45 บาท อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนชุดมาตรวัด 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร เรื่องความประหยัดจึงไม่ใช่จุดเด่นของรถรุ่นนี้ เติมน้ำมันเสร็จแล้วกลับรถไปจอดที่โชว์รูมอุดรธานี มอบรางวัลแก่ผู้ชนะในการขับประหยัด มีผู้บริหารของโชว์รูม คุณวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์ กรรมการผู้จัดการ ให้การต้อนรับ

MG อุดรธานี ให้ความสำคัญและสร้างความพึงพอใจ

●   เอ็มจี อุดรธานี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 โดย คุณชาญ เต็งรังสรรค์ ซึ่งเป็นคุณพ่อของ คุณวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์ ที่มองว่าธุรกิจรถยนต์เป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินงานสืบต่อกันไปได้อีกอย่างยาวนาน เพราะด้วยลักษณะของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และรูปลักษณ์การดีไซน์ต่างๆ ของรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจรถยนต์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกวัน ประกอบกับ เอ็มจี เป็นรถยนต์แบรนด์ใหม่ และยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดอุดรธานี ทำให้ไม่ต้องไปแย่งกับใคร

●   เอ็มจี อุดรธานี จัดจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่น ให้บริการพื้นฐานแบบครบวงจร จากพนักงานคุณภาพที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ครบครันด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและอะไหล่แท้ นอกจากนี้ยังมีแผนงานที่จะขยายการบริการด้านการซ่อมสีและตัวถัง เพื่อสามารถให้การบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังตั้งเป้าที่จะเตรียมความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ อาคาร และบุคลากร เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการด้านต่างๆ อย่างพอเพียง โดยให้สามารถรองรับปริมาณความต้องการของลูกค้าในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงที่กำลังเพิ่มขึ้น ได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย   ●

ขอบคุณ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

Specification: MG GS 1.5T X

–   แบบตัวถัง เอสยูวี 5 ประตู
–   ยาว x กว้าง x สูง 4,500 x 1,855 x 1,689 มิลลิเมตร
–   ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,574/1,593 มิลลิเมตร
–   ระยะต่ำสุด 174 มิลลิเมตร
–   ฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
–   น้ำหนัก 1,460 กิโลกรัม
–   แบบเครื่องยนต์ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ TGI-TECH
–   ความจุ 1,490 ซีซี
–   กระบอกสูบ x ช่วงชัก 74 x 86.6 มิลลิเมตร
–   อัตราส่วนการอัด 10.0:1
–   กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที
–   แรงบิดสูงสุด 25.47 กก.-ม. ที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที
–   ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 7 จังหวะ Twin Clutch Sportronic Transmission
–   ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
–   ระบบบังคับเลี้ยว แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS
–   ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง
–   ระบบกันสะเทือนหลัง อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
–   ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดิสก์ พร้อม ABS, EBD และ EBA
–   ผู้จำหน่าย บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
–   โทรศัพท์ MG Call Center โทรศัพท์บ้าน 1-800-999-988 มือถือ 1-401-999-988
–   เวบไซต์ www.mgcars.com.


2017 MG GS 1.5 Turbo X