Uber และความเคลื่อนไหวในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
Posted by : AREA 54
● Uber Technologies Inc. ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะประเภท Real-time ridesharing เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นตามเวลาจริง ประกาศระงับแผนการทดสอบ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและหาสาเหตุหลังจากเกิดอุบัติเหตุในอริโซนา
● อูเบอร์เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเข้าไปในการให้บริการเดิมตั้งแต่ช่วงปี 2015 โดยอาศัยแผนกวิทยาการหุ่นยนต์ของมหาวิทยาลัยคาเนกี้ เมลลอน รวมทั้งก่อตั้ง Uber’s Advanced Technologies Center ในพิทสเบิร์กเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และเริ่มโปรแกรมทดลองวิ่งเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2016 ที่พิทสเบิร์ก ตามมาด้วยซาน ฟรานซิสโก และอริโซนา โดยตัวรถนั้นใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับผู้พัฒนารายอื่นๆ อาทิ กล้อง, GPS, เลเซอร์, เรดาห์ และไลดาร์
● อุบัติเหตุครั้งล่าสุดซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน เกิดขึ้นกับ Volvo XC90 ที่ติดตั้ง ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยเว็บไซท์ Automotive News รายงานว่า สาเหตุในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นกับระบบโดยตรง แต่เป็นเพราะรถคู่กรณี “ไม่ยอมให้ทาง” รถของอูเบอร์ที่กำลังเลี้ยวซ้าย ซึ่งในกรณีนี้แม้ว่ารถของอูเบอร์จะมีผู้ขับเข้าเทคโอเวอร์ระบบเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า แต่ก็ไม่แน่ว่าผู้ขับจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีหรือไม่… โชคดีที่อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับความเจ็บรุนแรง
● อย่างไรก็ตาม การทดสอบระบบใหม่ๆ ในยุคเปลี่ยนผ่าน อุบัติเหตุต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ กูเกิลซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติก็เคยประสบเหตุกับรถ Lexus RX450h ที่ติดตั้งชุดระบบทดสอบชนเข้ากับรถโดยสารในแคลิฟอร์เนียช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2016 หรือหนักหน่อยก็ในกรณีของ Tesla Model S ที่ส่งผลให้ถึงกับมีผู้เสียชีวิต ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2016 ที่ผ่านมา
● โดยส่วนตัวผู้แปลไม่อยากให้อูเบอร์ หรือบริษัทใดๆ ก็ตามยกเลิกการทดสอบระบบครับ อย่างไรเสียยุคที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจะถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในก็ต้องมาถึงในวันใดวันหนึ่ง และข้อมูลจากการทดสอบในทุกๆ กรณีล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น
● สิ่งที่อูเบอร์ควรกังวลในเวลานี้ก็คือ “OTTO Files” ซึ่งเป็นกรณีที่ Waymo ยื่นฟ้องบริษัท OTTO หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่อูเบอร์ซื้อกิจการมา บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Anthony Levandowski อดีตทีมงานของ Google X (ก่อนจะมาเป็น Alphabet และกลายมาเป็นบริษัทลูก Waymo) ผู้ซึ่งถูก Waymo ฟ้องร้องว่าเป็นผู้ลักลอบนำข้อมูลลับออกไปมากกว่า 1.4 หมื่นไฟล์ก่อนที่เขาจะลาออก
● ความลับนี้ถูกเปิดเผยเนื่องจากช่วงปลายปี 2016 ซัพพลายเออร์ในส่วนไลดาร์เซนเซอร์รายหนึ่งได้ส่ง e-mail ผิดย้อนกลับไปยังทีมงานของ Waymo และพบว่าหนึ่งในไฟล์นั้นเป็นภาพบอร์ดของไลดาร์เซนเซอร์ที่เป็นสิทธิบัตรของ Waymo
● กรณี OTTO File นี้น่าจะสร้างความเสียหายให้ออทโทและอูเบอร์พอสมควรครับ โดยในขณะนี้คดีความกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ●
Update 1 : ศาลตัดสินสั่ง Uber คืนไฟล์ทั้งหมดให้ Waymo
17 May, 2017 AT 12:19 AM
● ดูเหมือนว่า Uber จะไม่สามารถรอดพ้นจากข้อกล่าวหาในกรณี OTTO Files ได้ เมื่อผู้พิพากษา William Alsup ในนามศาลเมืองซานฟรานซิสโก มีคำสั่งตัดสินให้ Uber คืนไฟล์ทั้งหมด 1.4 หมื่นไฟล์ให้กับ Waymo ซึ่งยืนยันว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้เป็นความจริง
● นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคำสั่งสำคัญคือการแบน Anthony Levandowski วิศวกรระบบและอดีตผู้ก่อตั้งบริษัท OTTO ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี LIDAR ในระหว่างนี้อย่างเด็ดขาด โดยคำตัดสินนี้ศาลฯ ได้พิจารณาจากหลักฐานของทางฝั่ง Waymo ซึ่งมีความชัดเจนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม Uber จะยังคงจ้าง Levandowski ให้ทำงานในส่วนอื่นๆ ต่อไป
● ส่วนทางด้าน Waymo ก็ได้มีการประกาศความร่วมมือกับ Lyft ในการพัฒนาและเก็บข้อมูลระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่ง ณ เวลานี้ Lyft นับเป็นผู้ให้บริการ ridesharing ในระดับ Top 5 ของสหรัฐฯ ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่นี้กลายเป็นการประกาศการศึกกับ Uber ไปโดยปริยาย
● ก่อนหน้านี้ Sherif Marakby รองประธานแผนก Global Vehicle Program อดีตผู้บริหารของฟอร์ดซึ่งเพิ่งร่วมงานกับ Uber ในปีที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในผู้ผลักดันโครงการทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber ในพิทท์สเบิร์ก ก็เพิ่งลาออกจากบริษัท ต้องบอกว่า Uber นั้นกำลังอยู่ในฐานะที่ยากลำบากมากพอสมควรในช่วงนี้ เนื่องจาก Uber กำลังสูญเสียผู้บริหารระดับสูงหลายๆ รายอย่างต่อเนื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ว่าจะเป็น Brian McClendon (หนึ่งในผู้พัฒนา Google Maps และ Google Street View) หรือแม้แต่ Jeff Jones ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงสุดในลำดับที่ 2 ของ Uber เอง
● อย่างไรก็ตาม Uber ได้ตัดสินใจเดินหน้าแผนงานพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติต่อไป โดยล่าสุดได้ทำการเปิดศูนย์ R&D ที่โตรอนโต ประเทศแคนาดาเพิ่มเติม โดยแต่งตั้งให้ Raquel Urtasun ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยโตรอนโตซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขา Machine Learning โดยเฉพาะ เป็นผู้ดูแลศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่นี้ ●
Uber Self Driving
