2019 Lamborghini Urus เตรียมจำหน่ายในยุโรปและสหรัฐฯ
เรื่อง : AREA 54
● เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เราๆ ติดตามข่าวกันมาอย่างยาวนาน หลังจากที่ต้นแบบเปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2012… เผลอนิดเดียวผ่านไปแล้วเกือบ 5 ปี ในที่สุด SUV พลังแรง Lamborghini Urus ของแลมบอร์กินีก็เตรียมขึ้นสายการผลิตในปีหน้า (2018) พร้อมยืนยันสเปคบางส่วนโดยไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไป
● Lamborghini Urus เปิดตัวเวอร์ชั่นต้นแบบครั้งแรกในงาน 2012 Beijing Auto Show โดยชื่อ “Urus” (อูรุส) นี้แลมบอร์กินีได้จดทะเบียนทางการค้าเป็นครั้งแรกในปี 2008 แน่นอนว่าชื่อนี้หมายถึงวัวกระทิงเช่นเคย เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ชื่อวัวชนที่เป็นนักสู้แบบรุ่นอื่นๆ แต่เป็นคำเฉพาะที่นำมาจากชื่อสายพันธุ์วัวป่า “Aurochs” (ออรอช หรือ aurochsen, aurochses, urus, ure) วัวป่ายุคดึกดำบรรพ์ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของวัวกระทิงนักสู้ของสเปนในยุคปัจจุบัน (หรือสายพันธุ์อื่นๆ) นั่นเอง โดยจากการคำนวณนั้นซากที่เก่าแก่ที่สุดของ Aurochs คาดว่ามีอายุประมาณ 250,000 ปี
● คันจริงของ Lamborghini Urus จะผลิตขึ้นที่โรงงานในประเทศอิตาลี โดยอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มโฟล์คสวาเก้นและออดี้ในการลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 3.7 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงสายการผลิต
● เงินลงทุนจำนวนนี้แบ่งเป็นการขยายพื้นที่โรงงานจากเดิม 8 หมื่นตารางเมตร เป็น 1.5 แสนตารางเมตร พร้อมก่อสร้างอาคารสำหรับตั้งไลน์ผลิตใหม่ โกดังเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ รวมทั้งขยายแผนก R&D และมีการจ้างงานใหม่ 500 อัตรา โดยโรงงานนี้จะมีกำลังการผลิตสูงสุดต่อปีประมาณ 5,000 – 6,000 คัน (นับรวม Lamborghini Huracan และ Lamborghini Aventador ที่ผลิตอยู่ก่อนหน้า โดย Urus ลอทแรกระบุว่าจะผลิตไม่เกิน 1,000 คัน)
● คันจริงของ Urus น่าจะมีขนาดไม่ต่างจากตัวต้นแบบนัก ความยาวรวม 4,990 มม. กว้าง 1,990 มม. สูง 1,660 มม. ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม Volkswagen Group MLB ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มเดียวกับ Audi Q7, Bentley Bentayga, Porsche Cayenne และ Volkswagen Touareg
● และหลังจากที่มีการคาดเดากันมานาน ที่สุดแล้วแลมบอร์กินีก็ยืนยันว่า Urus จะไม่ใช้งานเครื่องยนต์เบนซิน V10 หรือ V12 อย่างแน่นอน แต่จะใช้เครื่องยนต์ V8 สูบความจุ 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จเพียงรุ่นเดียว โดยเครื่องยนต์บล็อคนี้จะเป็นบล็อคใหม่ที่แลมบอร์กินีพัฒนาขึ้นมาใช้งานเฉพาะรุ่น ในขณะที่กำลังสูงสุดที่ว่าอย่างต่ำๆ จะมีให้ใช้งาน 600+ แรงม้านั้น CEO ของแลมบอร์กินี Stefano Domenicali ให้ข้อมูลกับ Automotive News Europe ว่า ตัวเลขกำลังสุทธิจะอยู่ที่ 650 แรงม้า (HP)
● ส่วนช่วงเวลาในการจำหน่าย ในยุโรประบุว่าจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ราคาจำหน่ายเริ่มต้นต่ำกว่า 2 แสนยูโร หรือต่ำกว่า 7.7 ล้านบาท จากนั้นจะเป็นคิวของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ราคาจำหน่ายเริ่มต้นต่ำกว่า 2 แสนดอลลาร์ หรือต่ำกว่า 6.9 ล้านบาท ส่วนรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริดนั้นจะมีการผลิตตามออกมาแน่นอนหลังการจำหน่ายรุ่นพื้นฐานผ่านไประยะหนึ่งครับ ●
หมายเหตุ : ภาพประกอบ 2012 Lamborghini Urus Concept