Renault, Qualcomm และ Vedecom เริ่มโปรเจคท์ถนนชาร์จไร้สาย
เรื่อง : AREA 54
● เรโนลท์, ควอลคอมม์ และสถาบัน R&D สัญชาติฝรั่งเศส เวเดคอม ร่วมมือกันพัฒนาโครงการถนนอัจฉริยะในฝรั่งเศส สามารถรีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ในขณะที่รถวิ่ง ใช้ชื่อระบบว่า DEVC หรือ Dynamic Electric Vehicle Charging ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งแผนงานที่ผู้ผลิตชิปเซ็ทยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟนอย่างควอลคอมม์เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่อจากการร่วมมือกับ กูเกิล และ พานาโซนิค ในการพัฒนาระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ แบบสแตนด์อโลน
● แผนงานนี้แบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เวเดคอม/ควอลคอมม์ จะทำหน้าที่พัฒนาโซลูชั่นสำหรับระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าบนถนน ซึ่งยังคงใช้เทคโนโลยีระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายแบบแม่เหล็กเหนี่ยวนำเช่นเดียวกับจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายส่วนบุคคลของผู้ผลิตอื่นๆ ทั่วโลก (ยกตัวอย่างระบบของ Evatran หรือ Toyota/WiTricity)
● ในขณะที่ส่วนที่ 2 นั้น เวเดคอม/เรโนลท์ จะรับหน้าที่ออกแบบและติดตั้งจุดรับกระแสไฟฟ้าที่ลดการสูญเสียพลังงานบางส่วนในระหว่างรับ-ส่งขณะรถวิ่งให้ได้มากที่สุด โดยระบบรับกระแสไฟฟ้าต้นแบบนี้จะติดตั้งเอาไว้ในรถพาณิชย์ขนาดเล็ก Renault Kangoo Z.E. ซึ่งเป็นหนึ่งในรถไฟฟ้ากลุ่ม Z.E. หรือ Zero Emission ของเรโนลท์
● เทคโนโลยี DEVC เริ่มทดลองใช้งานจริงแล้วผ่านโครงการ FABRIC project ย่อมาจาก FeAsiBility analysis and development of on-Road chargIng solutions for future electric vehiCles ซึ่งเป็นสนามทดสอบแบบปิดบนพื้นที่ของเวเดคอมที่เมืองแวร์ซายส์ โดยเงินลงทุนนั้นนอกจากทั้ง 3 บริษัทจะช่วยกันลงขันแล้ว ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ซึ่งหลังจากนี้ หากมีการพัฒนาจนสำเร็จจริง European Commission ก็จะมีบทบาทในการเสนอกฎหมายและดูแลงบประมาณการลงทุนโครงการจริงนั่นเอง… ย้ำอีกครั้ง หากโครงการนี้สำเร็จแบบใช้งานบนถนนสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงนะครับ
● แผนงานนี้ใช้งบวิจัยพัฒนาราว 9 ล้านยูโร หรือประมาณ 348 ล้านบาท การวางโครงสร้างระบบในสนามปิดเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2014 และสิ้นสุดโครงการระยะแรกในเดือนธันวาคม 2017 นี้ จากนั้นตามแผนงานระบบต้นแบบจะถูกกระจายไปยังพาร์ทเนอร์อีกราว 25 บริษัทในยุโรป แบ่งเป็นบริษัทรถยนต์, ซัพพลายเออร์, ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และองค์กรวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไร้สาย, รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยเฉพาะ
● ปัจจุบันโครงการ FABRIC ได้ขยายความร่วมมือไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยมีสนามทดสอบเฉพาะกิจเพิ่มอีก 2 แห่งในอิตาลี และสวีเดน ทว่าจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น แทร็คในอิตาลีจะมีความยาว 50 เมตร ส่วนในสวีเดนนั้นยาวสุด 435 เมตร ในขณะที่แทร็คหลักในฝรั่งเศสจะแบ่งเป็น 3 แทร็คย่อยต่างสถานการณ์ ประกอบด้วย Speed tracks : ทางตรงยาว 2 กม. ต่อด้วย Road track ความยาว 3.4 กม. มีโค้ง 13 โค้ง และ Val d’Or track ซึ่งเป็นทางลาด โดยส่วนทดสอบระบบรีชาร์จแบตเตอรี่จะมีฮาร์แวร์ระบบติดตั้งเอาไว้ในส่วนทางตรง ระยะทาง 100 เมตร
● ในเบื้องต้นระบบต้นแบบ DEVC สามารถรีชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้สูงสุด 2 คันบนเลนเดียวที่วิ่งตามกันบนเงื่อนไขในการใช้งานที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงบนถนนหลวง และสามารถรีชาร์จได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 0 จนถึงความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่มากพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยกระแสไฟฟ้าที่รับ-จ่ายในขณะใช้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 20 กิโลวัทท์
● อย่างไรก็ตาม กรอบเวลาในการติดตั้งระบบจริงบนท้องถนน น่าจะต้องรอกันไปอีกนานหลายปีครับ เนื่องจากเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่เหมาะสม กฏหมาย ไปจนถึงการติดตั้งระบบรับพลังงานบนรถยนต์ที่จำหน่ายจริง ยังคงต้องคุยกันอีกหลายชั้นและหลายภาคส่วน ●
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
• อังกฤษเผยแผนแบนเครื่องยนต์เบนซิน-ดีเซล 2040 ไม่รวมไฮบริดและ PHEV.
• อังกฤษตามฝรั่งเศส เตรียมแบนรถดีเซลเบนซินหลังปี 2040.
• ฝรั่งเศสเตรียมแบนการขายรถเบนซิน, ดีเซล ในปี 2040.
• แคนาดาเตรียมพัฒนากลยุทธ์รถไฟฟ้าแห่งชาติในปี 2018.
• ปารีส, มาดรีด, เม็กซิโกซิตี้ เตรียมยกเลิกรถดีเซลภายในปี 2025.
• รัฐบาลเยอรมันโหวตยกเลิกเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2030.
• อินเดียตั้งเป้าจำหน่ายแต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2030.
• จีนเตรียมออกมาตรการควบคุมบริษัทสตาร์ทอัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้า.
• Renault, Qualcomm และ Vedecom เริ่มโปรเจคท์ถนนชาร์จไร้สาย.
• ปี 2030 ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่ายานยนต์สันดาปภายใน.
• Toyota จับมือ Shell เปิดสถานีเติมไฮโดรเจนในแคลิฟอร์เนีย.
• แบรนด์รถยนต์ร่วมพัฒนาระบบชาร์จแบบ Ultra-Fast ในยุโรป.
