May 17, 2017
Motortrivia Team (10196 articles)

TATA เตรียมเพิ่มการจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ในไทยให้ครบทุกประเภท


ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

 

●   บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งผลการดำเนินธุรกิจสำหรับปีงบประมาณที่ผ่านมา หรือในช่วงตั้งแต่ 1 เมษายน 2559 ถึง 31 มีนาคม 2560 โดยสามารถสร้างยอดจำหน่ายเป็นที่พอใจ ทั้งยอดจำหน่ายในประเทศและส่งออก โดยในปีงบประมาณที่แล้วทาทามียอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นมากขึ้นกว่าในปีงบประมาณก่อนหน้า 19% ถึงแม้ว่าสภาวะตลาดโดยรวมของประเทศจะค่อนข้างทรงตัวก็ตาม

●   TATA Xenon เป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดโดยมียอดจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 38% ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 17% ยอดรวมทั้งหมด 1,398 คัน ซึ่งเป็นผลจากการเปิดตัว TATA Xenon 150N-Series หลายรุ่น คือ รุ่น 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ 150NX-PLORE 4WD, รุ่น 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ 150NX-TREME และ 150NX-PERT ซึ่งเป็นกระบะตอนเดียวเพื่อการบรรทุก และกระบะตอนเดียวเพลาเฮฟวี่ดิวตี้

●   TATA Super Ace Mint มียอดจำหน่ายลดลง โดยมียอดจำหน่ายรวม 240 คัน น้อยกว่าในปีงบประมาณที่แล้ว 25% ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งมอบรถจากอินเดียมาที่บริษัทฯ มีจำนวนจำกัดในช่วง 3 เดือนของปีงบประมาณ อย่างไรก็ดี เมื่อสินค้ามาถึงพร้อมจำหน่าย ทาทาได้กระตุ้นยอดขายด้วยการปรับราคาลงมาที่ 365,000 บาท และเพิ่มรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ทำให้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเห็นได้จากยอดขายที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ

●   สำหรับกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ทาทาได้ทำการเปิดตัวรถบรรทุกขนาดกลาง 6 ล้อ TATA Ultra โดยได้รับการตอบรับทั้งในเขตกรุงเทพปริมณฑล และพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นอย่างดี

●   เป้าหมายในปีงบประมาณ 2560 – 2561 (1 เมษายน 2560 ถึง 31 มีนาคม 2561) ทาทาตั้งเป้าการเติบโตที่ 83% แม้ว่าตลาดโดยรวมในประเทศจะเติบโตเพียง 5-6% ก็ตาม เนื่องจากทาทายังมีฐานยอดการจำหน่ายที่ไม่สูงนัก จึงทำให้มีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก

●   สำหรับเป้าหมายการจำหน่ายแต่ละรุ่น แบ่งเป็น TATA Xenon ยอดจำหน่ายในประเทศและส่งออกรวมกันที่ 2,100 คัน แบ่งเป็น 1,800 คัน ในประเทศ และส่งออกจำนวน 300 คัน TATA Super Ace Mint เป้าหมายการจำหน่ายที่ 500 คัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% สำหรับกลุ่มรถประเภทนี้ กลุ่มรถบรรทุกขนาดกลาง TATA Ultra จำนวน 300 คัน และกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ TATA Daewoo และ TATA Prima จำนวน 100 คัน

●   นายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเราจะมีการประกอบรถกระบะ ทาทา ซีนอน รุ่นใหม่ ที่จะใช้แชสซีส์แบบไฮโดรฟอร์ม เกียร์อัตโนมัติ และพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น และยังมีการประกอบรถ ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ ในประเทศไทย ประมาณเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่ารถรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่น ที่ประกอบในประเทศไทยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเรา ทั้งในเรื่องของคุณลักษณะการใช้งาน คุณภาพ และ ราคาที่คุ้มค่า”

●   นอกจากรถกระบะที่จะประกอบในประเทศไทยทั้ง 2 รุ่นนี้แล้ว TATA Ultra จะมีการเติมรุ่นย่อยเข้ามาอีก 3 รุ่นให้ครบภายในเดือนกันยายน 2560 นี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าสามารถนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น และในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทาทาจะเปิดตัวรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถหัวลากในตระกูล TATA Prima แบบ 10 ล้อ และ 12 ล้อ มีกำลัง 280 แรงม้า และ 380 แรงม้า ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่มีกำลังเครื่องยนต์ที่เหมาะสมตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า

●   ในส่วนของแผนการย้ายสถานที่ประกอบรถยนต์ทาทา จากที่เดิมไปยังโรงงานของ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ในเขตมีนบุรี ได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยบริษัทฯ กำลังขนย้ายเครื่องจักรเพื่อไปติดตั้ง ณ โรงงานแห่งใหม่ และใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุง ยกระดับ คุณภาพ และความสามารถในการประกอบ TATA Xenon รุ่นปรับโฉมด้วย

●   การลงทุนสำหรับไลน์การประกอบรถ TATA Super Ace Mint ซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงประมาณเดือนกันยายน 2560 ก็จะเป็นไลน์การประกอบที่สามารถประกอบได้ทั้งแบบ พวงมาลัยขวา (RHD) และพวงมาลัยซ้าย (LHD)

●   นายซานเจย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าผลประกอบการในปีงบประมาณ 2559 ที่ผ่านมา จะต่ำกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามจากยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นกว่าปีงบประมาณ 2558 ถึง 19% เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เราได้ปรับปรุงแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้นในทุกๆ ด้าน และเราก็พร้อมที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขายอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า โดยเป้าหมายของเราคือ การเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์แบบครบวงจร (Full Range Trucking Solution Provider) และเราจะเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่มีกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ครบในทุกเซกเมนต์ ทำให้เรามั่นใจว่า ในปีงบประมาณใหม่นี้ ด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ จะทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งขึ้นในตลาดประเทศไทย และจะประสบความสำเร็จในตลาดมากยิ่งขึ้นในปีนี้ และในอนาคต”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.tatamotors.co.th   ●