May 17, 2017
Motortrivia Team (10067 articles)

Waymo และ Lyft ร่วมมือกันเก็บข้อมูลพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

Posted by : AREA 54

 

●   การจับคู่เพื่อกรุยทางไปสู่อนาคตยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแวดวงการพัฒนา AI และ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งนับจากช่วงปี 2016 เป็นต้นมา บริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ต่างก็เปิดตัวพาร์ทเนอร์กันให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Ford-Argo AI หรือ GM-Cruise Automation ในนาม GM Cruise LLC หรือ Renault-Nissan-Microsoft หรือ Daimler-Uber หรือ Toyota-Volvo-NVIDIA เป็นต้น

●   ล่าสุด Google ในนาม Waymo ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการ ridesharing ในระดับ Top 5 ของสหรัฐฯ อย่าง Lyft Inc. เพิ่มเติม หลังจากที่เคย ประกาศความร่วมมือกับฮอนด้า มาก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2016 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจชนกับ Uber ในกรณี OTTO Files หรือไม่ งานนี้ก็เหมือนกับเป็นการประกาศศึกกลายๆ อยู่ดี

●   อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้แปลไม่คิดว่า Waymo จะมานั่งคิดอะไรหยุมหยิมตามข่าวสักเท่าไหร่ ผลประโยชน์ในการร่วมมือกับ Lyft นั้นมีค่าต่อโครงการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Waymo เป็นอย่างมาก นั่นคือข้อมูลการให้บริการของ Lyft นั่นเอง ซึ่งหากจะให้ Waymo ลงทุนเปิดบริการ ridesharing เพื่อเก็บข้อมูลเองนั้น น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายนักแม้ว่ากูเกิลจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทุนหนาก็ตาม

●   ข้อมูลที่ Waymo ต้องการคือ พฤติกรรมการใช้งานจริงของผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่ความหนาแน่นของช่วงเวลาในการเรียกใช้บริการ, ระยะทางเฉลี่ยในแต่ละครั้ง, เพศและช่วงอายุของผู้ใช้บริการ, อัตราค่าบริการ และที่สำคัญคือพื้นที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเรียกใช้บริการ รวมทั้งความต้องการอื่นๆ ในเชิงการเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ให้กับ AI เพื่อประเมินเส้นทางการวิ่ง เช่น ผู้ใช้บริการบางประเภทอาจต้องการหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ต้องมีการจ่ายค่าผ่านทางเพิ่มเติม หรือผู้ใช้บริการที่เป็นนักท่องเที่ยวอาจอยากให้มีการใช้เส้นทางอ้อมที่มีการผ่านแลนด์มาร์คบางจุดโดยไม่สนเรื่องอัตราค่าบริการนัก

●   ปัจจุบัน Lyft มีสาขาทั้งหมดกระจายอยู่ใน 300 เมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ โดยในปี 2016 ที่ผ่านมา Lyft ระบุว่ามีผู้ขับที่ลงทะเบียนใช้แอพฯ ของ Lyft ถึง 700,000 คน… นั่นเป็นข้อมูลการใช้งานจริงที่อยู่ในระดับมหาศาลมากหากรถในเครือ Lyft ส่วนหนึ่งมีการติดตั้งระบบทดสอบของ Waymo ลงไป… ซึ่งคำว่าส่วนหนึ่งนั้น ผู้แปลหมายความว่าหลัก 100 คันก็พอแล้วครับ (ในกรณีที่ความร่วมมือเป็นไปด้วยดีและไปถึงจุดนั้น) นั่นเพราะในความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่ Waymo จะติดตั้งระบบลงไปในรถทั้งหมด เนื่องจากบางรัฐฯ บางเมือง ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติก็ไม่สามารถวิ่งได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย

●   สำหรับ Lyft การได้ร่วมมือกูเกิลในฐานะพาร์ทเนอร์หลัก และ “อาจจะ” ได้ใช้เทคโนโลยีของ Waymo ในอนาคต มีแต่ได้กับได้สถานเดียวครับ

●   ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในการทำงานร่วมกันที่แน่ชัดในเวลานี้ นักวิเคราะห์คาดว่าในเบื้องต้น Waymo น่าจะขอความร่วมมือจากผู้ขับของ Lyft ให้ช่วยติดตั้งเซนเซอร์บางอย่างเพิ่มเติม และสร้างเครือข่ายเส้นทางขนาดยักษ์สำหรับเก็บ/วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เห็นพฤติกรรมของผู้ใช้บริการโดยรวมก่อนเป็นอันดับแรก โดยการจะติดตั้งระบบทดสอบจริงนั้น อาจจะกินเวลาในอีกหลายปีข้างหน้า หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็เป็นได้ เนื่องจาก Waymo น่าจะต้องการใช้รถและคนของตัวเองในการทดสอบระบบโดยไม่พึ่งพาคนขับของ Lyft (ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไป) เพื่อเพิ่มความเสี่ยง

●   อย่างไรก็ตาม Reuters มีรายงานว่า การทดลองให้บริการด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจริง น่าจะมีขึ้นในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เป็นระยะทางสั้นๆ ซึ่งผู้แปลยังเดาว่า Waymo น่าจะใช้รถและคนของตัวเองผ่านแอพฯ ของ Lyft มากกว่าจะใช้คนขับของ Lyft

●   ปัจจุบันในสหรัฐฯ นั้น (ข้อมูลอัพเดทเดือนเมษายนปี 2017) พื้นที่ที่มีการอนุญาตให้รถทดสอบที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำการวิ่งเก็บข้อมูลบนถนนสาธารณะได้ มีเพียงรัฐแคลิฟอร์เนีย, เนวาดา, แอริโซนา, ยูทาห์, นอร์ธ ดาโกทา, อาร์คานซอส์, ลุยเซียนา, มิชิแกน, เทนเนสซี, ฟลอริดา, เวอร์จิเนีย, เพนซิลเวเนีย และแมสซาจูเซทท์ เท่านั้น… นอกเหนือไปจากนี้ผิดกฏหมายครับ ไม่มีบริษัทใดสามารถนำรถไปวิ่งทดสอบได้ ยกเว้นในสนามปิด   ●


Waymo 2016 Chrysler Pacifica self-driving