F1 Austrian GP 2017 Preview : สนามที่สวยงามท่ามกลางความร้อนระอุในการแข่ง
Posted by : Fascinator.
● ออสเตรียนกรังด์ปรีซ์ รายการที่ 9 ของการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวันประจำฤดูกาล 2017 จะยังคงถูกจัดกันที่สนามเรดบูลล์ริง แห่งเมืองสปีลเบิร์ก เช่นเดิม และแน่นอนว่าทุกฝ่ายจับตาไปยังความร้อนระอุในการต่อสู้ระหว่าง ลูวอิส แฮมิลตัน และ เซบาสเตียน เวทเทล
● สนามเรดบูลล์ริง เดิมชื่อ อูสเตอร์ไรช์ริง (Österreichring) ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 เพื่อใช้งานแทน สนาม เซลต์วีก แอร์ฟิลด์ (Zeltweg Airfield circuit) ตัวสนามเดิมนั้นอยู่ท่ามกลางหุบเขาสไตเรียนที่มีการไล่ระดับสูงต่ำแตกต่างกันถึง 65 เมตร และถือว่าเป็นสนามที่ทำความเร็วได้สูงมากตลอดระยะทาง 6 กิโลเมตร มันทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 255 กิโลเมตร/ขั่วโมง ซึ่งเป็นรองเพียง สนามซิลเวอร์สโตน เก่าเท่านั้น
● จากการที่มันทำความเร็วได้สูงมากและไม่มีรันออฟแอเรีย มันจึงถูกปรับปรุงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ฟอร์มูล่าวันกลับมาจัดการแข่งขันที่นี่อีกครั้งในปี 1997 หลังจากที่ห่างหายไปตั้งแต่จบปี 1987 ในคราวนี้ความยาวสนามถูกลดลงเหลือ 4.3 กิโลเมตร และมันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เอวันริง (A1-Ring)
● หลังจบปี 2003 ฟอร์มูล่าวันก็เลิกจัดการแข่งขันที่นี่และตัวสนามถูกทิ้งร้างไม่ใช้งานมานาน จนกระทั่งในปี 2008 เรดบูลล์ โดย ดีทริช มาเตชิตซ์ (Dietrich Mateschitz) ได้ลงทุน 70 ล้านยูโร บูรณะสนามขึ้นมาใหม่ และเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันอีกครั้ง ฟอร์มูล่าวันจึงได้กลับมาจัดการแข่งขันที่นี่อีกครั้งในปี 2014 และจัดมาจนถึงปัจจุบันภายใต้ชื่อสนามใหม่ เรดบูลล์ริง
ใครมีโอกาสชนะมากที่สุด?
● ผังสนามเรดบูลล์ริงที่ถูก เฮอร์มัน ทิลเก้ โมดิฟายใหม่นั้น จะเป็นทางตรงสลับกับโค้งความเร็วต่ำถึงปานกลาง นั่นจึงทำให้สนามนี้เป็นพาวเวอร์แทร็คเช่นเดียวกับที่ บากู และ แคนาดา เครื่องยนต์จึงมีส่วนสำคัญมากกว่าหลักอากาศพลศาสตร์ และนั่นทำให้บรรดารถที่ใช้เครื่องยนต์เมอร์เซเดสได้เปรียบในจุดนี้
● สำหรับอากาศพลศาสตร์นั้นจะเน้นไปที่การลดแรงลากลง ซึ่งในจุดนี้นั้นเมอร์เซเดสก็ดูจะทำได้ดีกว่าเฟอร์รารีอยู่เล็กน้อย ในขณะที่เรดบูลล์มีปัญหาแน่ๆ กับการลดแรงลาก
● ในส่วนของยางนั้นไม่ค่อยจะเป็นปัญหาเรื่องการสึกหรอมากนัก เพราะสนามแห่งนี้พึ่งจะผ่านการใช้งานมาอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ และอุณหภูมิสภาพอากาศที่เย็นตลอดเวลา ปัญหาจะไปอยู่ในส่วนของการทำความร้อนให้กับยางมากกว่า ซึ่งรถเฟอร์รารีทำได้ดีกว่าเมอร์เซเดสในจุดนี้
● จากข้อมูลทั้งหมดรวมทั้งสถานการณ์การแข่งขันในขณะนี้ ลูวอิส แฮมิลตัน น่าจะเฉือน เซบาสเตียน เวทเทล ไปได้ในสนามนี้ ในขณะที่ คิมี ไรค์โคเนน ก็อาจจะมีโอกาสมาปะทะกับ วาลท์เทรี บ็อตตาส อีกครั้ง
● แต่ถ้าหากว่าเรดบูลล์ทำผลงานได้ดี นั่นแปลว่าเครื่องยนต์เรโนลต์ของพวกเขาปรับปรุงขึ้นมามากทีเดียว
บันทึกความทรงจำ
● เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตกับการปะทะกันบนแทร็คของคู่หูศรเงินในปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดประกายความร้อนระอุในการต่อสู้กันของทั้งสองไปตลอดฤดูกาลเลยทีเดียว ●
รายละเอียดสนามเพิ่มเติม
• สสนาม : เรดบูลล์ริง
• ความยาวสนามต่อรอบ : 4.318 กิโลเมตร
• จำนวนรอบการแข่งขัน : 71 รอบ
• เปิดใช้งานครั้งแรก : ปี 1970
• ความเร็วสูงสุด : 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง
• แรง G สูงสุด : 3.6
• การใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ : 56%
• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : ปานกลาง (1.48 กิโลกรัม/รอบ)
• อัตราสิ้นเปลืองเบรก : สูง
• อัตราสิ้นเปลืองยาง : ต่ำ
• ต้องการดาวน์ฟอร์ซ : ปานกลาง
• จุดแซงสำคัญ : โค้ง 4
• จุดสำคัญของสนาม : โค้ง 1, 4
• ยางที่สามารถใช้ได้ : อุลตร้าซอฟต์, ซุปเปอร์ซอฟต์, ซอฟต์
• DRS Zone : โซนคู่ โซนแรกอยู่ที่ 85 เมตร หลังผ่านโค้ง 2 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 360 เมตร ก่อนเข้าโค้ง 2
• โซนที่ 2 อยู่ที่ 110 เมตร หลังผ่านโค้ง 9 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 10 เมตร หลังผ่านโค้ง 8
• ผู้ชนะคนล่าสุด : ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลคนล่าสุด : ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ชนะมากที่สุดในสนามนี้บนกริด : ลูวอิส แฮมิลตัน (2016)
• สถิติสนาม : มิคาเอล ชูมัคเกอร์ – เฟอร์รารี – 1.08.337 – 2003
• เวลาเร็วที่สุดของสนาม : ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.06.228 – 2016 (Q2)
ที่มา :
• espnf1.com.
• f1fanatic.co.uk.
• en.wikipedia.org.