July 26, 2017
Motortrivia Team (10069 articles)

Lyft เปิดแผนกพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 5


Posted by : AREA 54

 

●   Lyft Inc. หนึ่งในผู้ให้บริการ ridesharing ในระดับ Top 5 ของสหรัฐฯ ต้องการยืนด้วยขาของตัวเอง เตรียมเปิดแผนกพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ 100% ระดับ 5 เป็นของตัวเองโดยมีสำนักงานอยู่ในย่านซิลิคอน แวลลีย์ แม้ว่า Lyft จะเพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Google ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติร่วมกัน เมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมาก็ตาม

●   แผนก R&D ใหม่ของ Lyft ในแคลิฟอร์เนียนี้ ใช้ชื่ออย่างไม่อ้อมค้อมว่า “Level 5 Engineering Center” บ่งบอกว่างานหลักของแผนกนี้ก็คือการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ผ่าน มาตรฐานระดับ 5 ของ SAE International (Society of Automotive Engineers) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่มีการกำหนดเอาไว้อย่างเป็นทางการโดยสมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติ

●   ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติคลาสนี้คือระดับสูงสุดที่ SAE ตั้งข้อกำหนดเอาไว้ ตัวระบบไม่ต้องการการควบคุมใดๆ จากผู้ขับเลยในทุกกรณี ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของแบรนด์ผู้ผลิตใดๆ ไปถึงจุดนั้น หรือ ถึงมีก็ยังไม่สามารถนำมาวิ่งได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายบนถนนหลวง (อ่านรายละเอียดของระบบตั้งแต่ Level 1 – 5 เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้)

●   ยกตัวอย่าง ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ในระบบ AutoPilot ของเทสล่านั้น เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งถูกเรียกว่า “HW2” หรือ Hardware version 2 และเริ่มติดตั้งในรถเทสล่าเมื่อเดือนตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา ยังเป็นเพียงฮาร์ดแวร์ที่ “รองรับการอัพเกรดในอนาคต” เพื่อให้สามารถใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 5 ได้… ดังนั้นระบบ AutoPilot ของเทสล่าในปัจจุบันยังถูกจัดให้อยู่คลาสของ Level 3 เท่านั้นครับ

●   สำหรับแผนงานของ Lyft นั้น จุดประสงค์คือการสร้างเครือข่ายระบบการให้บริการของตัวเองเพื่อให้รองรับกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยผู้ใช้บริการยังคงสามารถเลือกรับบริการแบบเดิมๆ โดยอาศัยผู้ขับรถได้ ในขณะที่คนรุ่นใหม่หรือคนยุคต่อไปที่ไม่ยึดติดกับอะไรเดิมๆ สามารถเลือกใช้บริการแท๊กซี่สาธารณะแบบรถไร้คนขับได้ ทั้งนี้ Luc Vincent รองประธานแผนกวิศวกรรมของ Lyft ให้ความเห็นว่า Lyft นั้นมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการพัฒนารถไร้คนขับ เนื่องจาก Lyft มีข้อมูลมหาศาลอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของผู้ใช้บริการ พื้นที่ที่ให้บริการ และความต้องการของตลาด ridesharing ซึ่งแม้แต่กูเกิลเองก็ต้องการข้อมูลในส่วนนี้ จึงร้องขอความร่วมมือกับ Lyft.

●   ปัจจุบันตัวระบบพื้นฐานทั่วไปของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น ใช้งานเซนเซอร์ต่างๆ ร่วมกับซอฟท์แวร์ในการสร้างแผนที่ 3 มิติ เพื่อระบุตำแหน่งตัวรถ วัตถุ และภูมิประเทศรอบข้าง โดยการทำงานของทีมวิศวกร Lyft ก็คือการต่อยอดเทคโนโลยีเหล่านี้นั่นเอง แม้จะยังไม่ระบุกรอบเวลาในการใช้งานจริง แต่ Lyft ก็มั่นใจว่า หากแผนงานนี้สำเร็จตามเป้าหมาย การเดินทางด้วยรถไร้คนขับจะมีราคาไม่แพงอย่างที่คิด   ●