July 6, 2017
Motortrivia Team (10069 articles)

Subaru ประกาศเพิ่มความสามารถ EyeSight ให้เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ


Posted by : AREA 54

 

●   แฟนๆ ซูบารุน่าจะคุ้นเคยกันดีกับชุดระบบความปลอดภัยที่ใช้ชื่อว่า EyeSight ในรถรุ่นใหม่ๆ กันแล้ว ล่าสุดวิศวกรของซูบารุเตรียมเพิ่มความสามารถให้กับ EyeSight โดยยกระดับให้เทียบเท่ากับ ระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (Semi-autonomous) ระดับที่ 3 ตามมาตรฐานของ SAE ด้วยการเติมฟังก์ชั่น “Touring Assist”

●   ปัจจุบัน ชุดระบบความปลอดภัย Subaru EyeSight ในรถรุ่นพื้นฐานที่ใช้อยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย ระบบ Pre-Collision Braking ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่อาจเกิดการชนทางด้านหน้า อาศัยความสามารถของกล้องหน้าที่ติดตั้งบนกระจกมองหลัง, ระบบ Adaptive Cruise Control รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Lane Departure and Sway Warning เตือนและรักษาตำแหน่งรถเมื่อออกนอกเลนของตัวเองโดยไม่ตั้งใจ, ระบบ Blind Spot Detection ตรวจจับรถในจุดบอดขณะเปลี่ยนเลน และระบบ Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยออกจากที่จอด

●   คุณผู้อ่านจะเห็นว่า ระบบเหล่านี้ก็เหมือนๆ กับชุดระบบของแบรนด์ผู้ผลิตอื่นๆ เพียงแต่ชื่อทางการค้าอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง อย่างไรก็ตามพื้นฐานการทำงานของระบบนั้นไม่แตกต่างกันครับ คือใช้ความสามารถของเซนเซอร์, กล้อง หรืออื่นๆ นั่นเอง แม้แต่ชุดระบบ AutoPilot ของเทสล่า ก็ใช้ความสามารถของระบบย่อยเหล่านี้มาประมวลผลนั่นแหละครับ ไม่ได้พิสดารหรือหรือมหัศจรรย์กว่าแบรนด์ผู้ผลิตอื่นๆ แต่อย่างใด… โดยรวมแล้วระบบเหล่านี้ก็คือ “เทคโนโลยีช่วยขับ” หรือ Driver Assist Technology ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ 100% ครับ (Autonomous System)

●   “พวกเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปที่การพัฒนารถไร้คนขับหรอกครับ สิ่งที่พวกเราพยายามทำก็คือ พัฒนาระบบช่วยขับให้ผู้คนมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม”  เททสึโอะ โอนุกิ ผู้จัดการทั่วไป Subaru Technical Research Center ให้ความเห็นถึงฟังก์ชั่น Touring Assist กับ รอยเตอร์.

●   จากวีดิโอทางด้านล่าง (ขออภัยผู้แปลฟังไม่ออกนะครับ สังเกตจากภาพเอา) จะเห็นว่า EyeSight ที่เพิ่มฟังก์ชั่น Touring Assist ยังคงใช้ฮาร์ดแวร์เดิมเป็นหลัก นั่นคือกล้องจับภาพ 3 มิติแบบ high-def หรือ Stereo camera บนกระจกบังลมหน้าเป็นหัวใจของการให้ข้อมูลกับ 4 ระบบหลักข้างต้น (Pre-Collision Braking, Pre-Collision Throttle Management, Adaptive Cruise Control และ Lane Departure and Sway Warning) โดยมีฟังก์ชั่นใหม่เพิ่มเติมเข้ามา นั่นคือ Steering Assist หรือระบบช่วยประคองพวงมาลัยให้ตัวรถอยู่ในเลนตลอดเวลา


●   จากวีดิโออีกเช่นกัน เราจะเห็นว่าผู้ขับ “ยังคงต้องวางมือเอาไว้บนพวงมาลัย” แม้ว่าซูบารุจะแสดงภาพกราฟฟิคให้เห็นว่าตัวระบบจะช่วยประคองพวงมาลัยให้อยู่ในเลนตลอดเวลาก็ตาม เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องทางกฏหมายที่ระบุเอาไว้เรื่องความปลอดภัยครับ นั่นทำให้รถรุ่นใหม่ของซูบารุที่จะติดตั้งระบบนี้ จำกัดวงจำหน่ายเอาไว้เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น… นี่เป็นข้อจำกัดทางด้านกฏหมายเป็นหลักครับ เช่น ในสหรัฐฯ แม้ผู้ผลิตจะมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ 100% ก็ไม่สามารถนำไปวิ่งบนถนนหลวงในบางรัฐได้… หมายความว่าถึงผู้ผลิตจะมีเทคโนโลยีในมือ ก็ใช่ว่าจู่ๆ จะติดตั้งและจำหน่ายได้ทั่วโลก (บ้านเราผู้แปลไม่แน่ใจว่ามีกฏหมายระบุเอาไว้หรือไม่ในเรื่องนี้?)

●   เรื่องกฏข้อบังคับนี้ CEO ชั้นนำของโลกยานยนต์อย่าง Carlos Ghosn เคยแสดงความเห็นเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ถ้าไม่มีกฏหมายระบุเอาไว้อย่างชัดเจน เทคโนโลยีเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงให้แบรนด์ผู้ผลิตได้ ยกตัวอย่าง หากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับหรือระบบเป็นผู้ผิดกันแน่ และจะใช้ขั้นตอนในการตรวจสอบอย่างไร? ตรงนี้ควรจะมีกฏหมายที่ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งถ้ากฏหมายพร้อม เขาสามารถอนุมัติให้รถในเครือ Renault Nissan ใช้ระบบอัตโนมัติได้เลยภายในปี 2018 ซึ่งเขาให้ความเห็นนี้เอาไว้ในปี 2014 หมายความว่ามีเทคโนโลยีในมืออยู่แล้ว แต่ยังไม่ปล่อยออกมา และล่าสุด Nissan Leaf รุ่นต่อไปก็เพิ่งจะได้ใช้งานระบบกึ่งอัตโนมัติเท่านั้น.

●   สำหรับความสามารถของ EyeSight ใหม่ในซูบารุนั้น เหมือนกับระบบ ProPILOT ของนิสสันทุกประการครับ คือ เพิ่ม-ลดความเร็วจาก 0 – 120 กม./ชม. โดยอัตโนมัติตามสภาพการจราจร ผู้ขับไม่ต้องควบคุมแป้นคันเร่ง เบรค หรือพวงมาลัยเอง ทว่าตามกฏหมาย ผู้ขับต้องไม่ละมือจากพวงมาลัย (คือแค่จับ ไม่ต้องออกแรง) และระบบนี้จะจัดการให้ตัวรถวิ่งอยู่เฉพาะในเลนตัวเองเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนเลนหรือเร่งแซง หากต้องการเปลี่ยนเลนหรือเร่งแซง ผู้ขับจะต้องเทคโอเวอร์ระบบเองครับ… พูดให้ชัดๆ มันคือ Adaptive Cruise Control ที่ทำงานพร้อมกับ Lane Keeping Assist โดยที่ผู้ขับไม่ต้องหมุนพวงมาลัยเอง

●   ดังนั้นอีกนานครับ กว่ากฏหมายจะอนุญาตให้ผู้ขับละมือ ละสายตา ลงไปเล่นสมาร์ทโฟน (หรือทำกิจกรรมอื่นๆ) อย่างจริงจัง แม้ว่าตัวระบบในปัจจุบันจะค่อนข้างเอื้ออำนวยให้แล้วก็ตาม

●   Subaru Levorg และ Subaru WRX จะเป็นรถ 2 รุ่นแรกที่ติดตั้ง EyeSight ใหม่ครับ การจำหน่ายจะเริ่มขึ้นภายในช่วงปี 2017 นี้ เบื้องต้นมีให้เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น   ●