September 4, 2017
Motortrivia Team (10071 articles)

Eau Rouge@Spa-Francorchamps โค้งของลูกผู้ชาย


Posted by : Panda Trueno

 

●   คนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของแวดวงมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะจากฝั่งยุโรป น่าจะคุ้นหูกับคำว่า Eau Rouge (โอรูจ) กันมาบ้างไม่มากก็น้อย หรือใครที่เคยผ่านคอร์สภาษาฝรั่งเศสมาบ้างอาจจะพอรู้ความหมาย… ว่าแต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับมอเตอร์สปอร์ตล่ะนี่?

●   ถ้าให้บอกชื่อของโค้งที่เป็นขวัญใจของบรรดานักแข่ง โดยเฉพาะพวก F1 แน่นนอว่า Eau Rouge น่าจะเป็นชื่อในอันดับต้นๆ ที่นักแข่งเหล่านี้คิดถึงอย่างแน่นอน Eau Rouge เป็นโค้งหนึ่งของสนาม Spa-Francorchamps และแม้ว่าตรงช่วงสั้นๆ ของโค้งจะประกอบไปด้วยโค้งย่อย 3 โค้งรวมกัน และเรียกกันอย่างเป็นทางการว่า Raidillon/Eau Rouge (ราดิยง/โอรูจ) แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเรียกสั้นๆ ว่า Eau Rouge ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสที่หมายถึง “น้ำสีแดง”

●   แน่นอนว่า ตรงนี้คนตั้งชื่อคงไม่ได้หมายถึงเลือดเพื่อให้นักแข่งได้เสียวเล่น หรือสื่อให้เห็นว่าใครเข้ามาแล้วโอกาสรอดยาก แต่ Eau Rouge เป็นชื่อของลำธารที่มีความยาว 15 กิโลเมตรในเมืองลิแอช ประเทศเบลเยี่ยม และไหลพาดผ่านบางส่วนของตัวสนาม Spa-Francorchamps ด้วย นั่นก็เลยเป็นที่มาของการยืมชื่อนี้มาใช้ในการตั้งเป็นชื่อโค้ง เพื่อสื่อให้เห็นถึงความคดเคี้ยวของโค้งที่เหมือนกับลำธาร


เลย์เอาท์ของสนาม Spa-Francorchamps


●   อย่างที่บอกว่า Eau Rogue เป็นโค้งที่ต่อเนื่องรวมกัน 3 โค้ง โดยหลังจากออกสตาร์ท และผ่านโค้งหักศอก หรือ Hair Pin ที่ชื่อว่า La Source ซึ่งเป็นโค้งแรกของสนาม ตัวเส้นทางจะมีลักษณะคล้ายๆ ไต่ขึ้นเนิน พร้อมกับเจอโค้งที่ 2 ของสนาม และจากนั้นก็จะเข้าสู่กระแสลำธารของ Raidillon/Eau Rouge ซึ่งเป็นโค้งเกือบๆ ตัว S ที่ใช้ความเร็วสูงในลักษณะ ซ้าย-ขวา-ซ้าย โดยสามารถใช้ความเร็วในระดับสูงเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงสำหรับรถแข่ง F1 หรือในระดับ 160-180 กิโลเมตร/ชั่วโมงสำหรับทัวริงคาร์

●   สิ่งที่น่ากลัวและทำให้อะดรีนารีนของนักแข่งสูบฉีดอย่างรวดเร็วเวลาแล่นอยู่ในโค้งนี้ นอกจากความเร็วที่สามารถใช้ได้ค่อนข้างสูงแล้ว คือ มุมบอดของโค้ง เพราะด้วยลักษณะของการไต่ขึ้นเนินทำให้บางครั้งมองไม่เห็นว่าจะเจออะไรอยู่ข้างหน้า จากนั้นก็จะเข้าสู่ทางตรง Kemmel Straight เพื่อมุ่งหน้าสู่โค้งตัว S ที่ชื่อ Les Combres

●   “เร่งความเร็วเพื่อขึ้นเนินและเข้าสู่โค้ง จากนั้นต้องหักพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนทิศทางกะทันหันแบบไปมา เมื่อนั่งอยู่ในค็อกพิตของรถแข่งแล้ว คุณไม่สามารถมองเห็นทางออกของโค้งเลย และไม่มีทางรู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไร อย่างไรก็ตาม โค้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการทำเวลาในการแข่งขัน เพราะถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ทุกอย่างก็จบลง และในมุมมองของนักแข่งที่มีต่อโค้งแล้ว นี่คือโค้งที่ยอดเยี่ยมมาก”  เฟอร์นันโด อลองโซ่ แชมป์โลก 2 สมัยกล่าวถึง Eau Rouge ในสนาม Spa-Francorchamps

●   ความน่ากลัวของ Eau Rouge ทำให้นักแข่งหลายรายสังเวยความผิดพลาดด้วยอุบัติเหตุที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ฌาคส์ วิลล์เนิฟ, อเล็กซ์ ซานาร์ดี้, ริคาร์โด ซอนต้า ต่างก็เคยประสบอุบัติเหตุที่นี่มาแล้ว ซึ่งในการแข่งขันปี 1994 หลังการเสียชีวิตของ ไอร์ตัน เซนน่า และ โรแลนด์ รัทเซนเบอร์เกอร์ ทำให้ FIA กำหนดให้ทางสนามแข่งนำสิ่งกีดขวางมาวางเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ แต่ในปีต่อมาก็ไม่มีการทำเช่นนี้ และ Eau Rouge ก็ออกมาท้าทายความสามารถของนักแข่งอย่างเต็มรูปแบบเช่นเดิม ก่อนที่ในปี 2002 จะมีการปรับปรุงตัวโค้งใหม่ แต่ทว่าก็คงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน

●   โหดแต่ไหน? น่ากลัวในระดับใด? ดูได้จากวีดิโอออนบอร์ดทางด้านล่างครับ   ●