September 23, 2017
Motortrivia Team (10076 articles)

2018 Genesis G70 สปอร์ต entry-level คู่แข่ง BMW 3 Series

เรื่อง : AREA 54

●   ในที่สุดสปอร์ตหรู entry-level รุ่นเล็กสุดภายใต้ซับ-แบรนด์ “เจเนซิส” ของฮุนได Genesis G70 คู่แข่งโดยตรงของสปอร์ตขนาดคอมแพคท์ BMW 3 Series ก็เผยโฉมออกมาเป็นที่เรียบร้อย ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มเดียวกับ KIA Stinger เบื้องต้นงานออกแบบของ G70 แสดงให้เห็นว่า หากเค้นความสามารถของทีมออกแบบชนิดเอาเป็นเอาตาย ทีมออกแบบของฮุนไดก็สามารถคลี่คลายรูปแบบกระจังหน้า 6 เหลี่ยม Hexagonal grille ให้มีความแตกต่างจากรถรุ่นเดิมๆ ได้ และ G70 ก็น่าจะเป็นรถรุ่นแรกของฝั่งฮุนไดที่มีงานออกแบบเฉียบคมไม่แพ้รถรุ่นใดๆ ของฝั่งเกีย

●   ก็เป็นอันว่าครบไลน์อัพเสียทีครับ สำหรับการเปิดตัวซับ-แบรนด์เจเนซิส ซึ่งในเบื้องต้นประกอบด้วยรุ่น entry-level สปอร์ตคอมแพคท์ Genesis G70, สปอร์ตหรูขนาดกลาง Genesis G80 และซีดานหรูฟูลไซส์ Genesis G90.

●   ด้านงานออกแบบ แน่นอนว่าผู้ที่ได้เครดิตนี้ไปเต็มๆ ก็คือหนึ่งในวิศวกรและนักออกแบบระดับโลกอย่าง Peter Schreyer ผู้ให้กำเนิดกระจังหน้า Tiger Nose อันแสนโดดเด่นของเกีย ซึ่งเขาเคยกล่าวเอาไว้ในปี 2007 ว่า “ที่ผ่านมา รถเกียนั้นธรรมดาเอามากๆ เวลาที่คุณเห็นมันวิ่งบนถนน คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นรถเกาหลีหรือญี่ปุ่นกันแน่ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การสร้างความจดจำให้กับรถของเกียในทันทีที่แรกเห็น”

●   และในที่สุด Hexagonal grille ของฮุนได ก็สามารถแยกตัวออกมาเป็นเอกเทศได้เสียที ด้วยการเติมเขี้ยวสปอยเลอร์ทรงสปลิทเตอร์ทางหน้าทั้ง 2 ฝั่ง เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงตั้งที่หลบมุมเว้าเข้าไปด้านใน ซึ่งช่วยให้ด้านหน้าของ G70 ดุดันขึ้นมาทันตาเห็นเมื่อเทียบกับ G80 และ G90 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า

●   สำหรับ G70 นั้น ตัวรถอยู่ในรูปโฉมของสปอร์ตซีดานขนาดคอมแพคท์ ตัวถัง 4 ประตู เลย์เอาท์เครื่องยนต์แบบวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลังหรือ 4 ล้อ all-wheel drive เทียบกับ BMW 3 Series รุ่นปัจจุบัน ตัวถังซีดานรหัส F30 ขนาดตัวมากับความยาว 4,685 มม. (+61 มม.) กว้าง 1,850 มม. (+39 มม.) สูง 1,400 มม. (-29 มม.) ตัวถังวางอยู่บนฐานล้อขนาด 2,835 มม. (+25 มม.) โดยรวมแล้วห้องโดยสารน่าจะกว้างขวางกว่า 3 Series นิดหน่อย

●   เบื้องต้นเจเนซิสจะมี 3 ทางเลือกรุ่นเครื่องยนต์ ประกอบด้วยเบนซินตระกูล Theta II แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ (GDI) กำลังสูงสุด 252 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 36 กก.-ม. ต่อด้วยเบนซินตระกูล Lambda II แบบ V6 สูบ ความจุ 3.3 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง พร้อมระบบอัดอากาศแบบทวิน-เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 370 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 52 กก.-ม. ทั้งคู่ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ปิดท้ายด้วยฝั่งดีเซลกับเครื่องยนต์ตระกูล R engine แบบ 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 45 กก.-ม.

●   ทั้งนี้เฉพาะรุ่นเบนซิน 2.0 เจนเนซิสจะมีออปชั่น Sports package ให้ติดตั้งเพิ่มเติม โดยจะเพิ่มกำลังให้เป็น 255 แรงม้า

●   ชุดระบบอำนวยความสะดวกในห้องโดยสาร ประกอบด้วยระบบจดจำตำแหน่งผู้ขับ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งการปรับเบาะ พวงมาลัย หรือแม้แต่ตำแหน่งของจอ heads-up display ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ทำงานผ่านจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งแบบลอยตัว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยฟังก์ชั่น Android Auto, Apple CarPlay หรือ MirrorLink ส่วนชุดระบบผู้ช่วยอัจฉริยะที่รองรับคำสั่งด้วยเสียง เจเนซิสได้พัฒนาระบบเฉพาะกิจร่วมกับบริษัท Kakao Corporation ของเกาหลีใต้ ใช้แพลทฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท Kakao ในชื่อ “Kakao I” เป็นพื้นฐานในการพัฒนา (ประมาณ Google Assistant หรือ Samsung Bixby) ด้านเครื่องเสียงใช้บริการซุดระบบเซอร์ราวด์ซาวด์ของ Lexicon ซึ่งเป็นคู่ค้าดั้งเดิมของเจนเนซิสมาตั้งแต่ยังไม่แยกแบรนด์ออกมาจากฮุนได

●   อุปกรณ์ช่วยขับแบบพื้นฐานในทุกรุ่นย่อยมีระบบ Launch Control สำหรับช่วยในการออกตัว, ระบบ R-MDPS หรือ rack-mounted motor driven power steering system ซึ่งเป็นระบบควบคุมพวงมาลัยรุ่นใหม่ล่าสุดที่ฮุนไดเริ่มใช้งานในฮอทแฮทช์พลังแรง Hyundai i30 N, ระบบ Dynamic torque vectoring system ช่วยกระจายแรงบิดในขณะเข้าโค้ง และลิมิเต็ดสลิป M-LSD หรือ Mechanical limited slip differential ซึ่งเจเจซิสระบุว่าจะช่วยให้ผู้ขับมั่นใจได้ในทุกสภาพพื้นผิวถนน ไม่ว่าจะเป็นฝน หิมะ หรือแม้แต่น้ำแข็ง (แน่นอนว่าต้องใช้ยางสโนว์ร่วมด้วยนะครับ)

●   สำหรับแพคเกจระบบความปลอดภัยที่เดิมเรียกว่า Genesis Smart Sense เจนเนซิสได้ประกาศใช้ชื่อทางการค้าใหม่ว่า “Genesis Active Safety Control” ประกอบด้วย ฝากระโปรงหน้าแบบแอคทีฟ มีการยกตัวซับแรงปะทะในกรณีที่อาจชนคนเดินถนน, ระบบ Forward Collision-Avoidance Assist แจ้งเตือนในกรณีที่อาจเกิดการชนทางด้านหน้า พร้อมฟังก์ชั่นช่วยหยุดรถอัตโนมัติ, ระบบ Blind spot Collision Warning เตือนมุมอับสายตา, ระบบ Driver Awareness Warning ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับ ปิดท้ายด้วย ระบบช่วยขับแบบกึ่งอัตโนมัติ Highway Driving Assist ช่วยรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลนโดยอัตโนมัติ

●   การเปิดตัวเป็นทางการมีขึ้นในเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา เจเนซิส (หรือฮุนได) ได้จัดแสดง G70 ที่ Olympic Park ในกรุงโซล ภายใต้ธีมงาน “G70 Seoul 2017” โดยมีนักร้องดัง Gwen Stefani อดีตนักร้องนำวง No Doubt และนักร้อง/นักแต่งเพลงผิวสีอย่าง Andra Day มาร่วมเฉลิมฉลองการเปิดตัวซับ-แบรนด์เจเนซิสในเกาหลีใต้ด้วย

●   ราคาจำหน่ายยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้ครับ ปัจจุบัน Genesis G80 ซึ่งเป็นรุ่นกลางของแบรนด์ รุ่นพื้นฐานราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 46,550 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท ส่วน Genesis G90 ในฐานะรถธงของแบรนด์ ราคาเริ่มต้นที่ 71,825 ดอลลาร์ หรือราว 2.3 ล้านบาท ดังนั้น Genesis G70 ในฐานะรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ น่าจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่เบาที่สุดในกลุ่มครับ   ●


2018 Genesis G70