2017 Mercedes-AMG Project ONE Concept จาก F1 สู่ท้องถนน

632views

Posted by : AREA 54

● จากข่าวลือในช่วงปี 2016 สู่โปรโตไทป์ของคันจริง เมอร์เซเดสพร้อมเขย่าขวัญคู่แข่งในในกลุ่มไฮเปอร์คาร์พลังแรงด้วยการเผยโฉมต้นแบบ Mercedes-AMG Project ONE ในงาน 2017 Frankfurt Motor Show รถถนนรุ่นแรกของ Mercedes-AMG ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยตรงมาจากตัวแข่งของทีม Mercedes-AMG Petronas Motorsport ยุคปัจจุบัน Mercedes AMG F1 W08 EQ Power+ คู่แข่งโดยตรงก็คือ Aston Martin Valkyrie : AM-RB 001 ของแอสตัน มาร์ติน และ Red Bull Racing นั่นเอง

● Project One เป็นรถไฮเปอร์คาร์ ตัวถังคูเป้ 2 ที่นั่งที่ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีเดียวกันกับการผลิตรถ F1 ใช้โครงสร้างแบบโมโนคอค บอดี้ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ แพคเกจแอร์โรไดนามิคส์รอบคันเป็นแบบแอคทีฟ ทำงานอัตโนมัติตามความเร็วรถ ช่วงล่างแบบแอคทีฟ ชุดกันสะเทือนเป็นแบบก้านกระทุ้ง Pushrod ตามสไตล์รถแข่ง ล้ออลูมิเนียมนัทล็อคเดี่ยว ออกแบบก้านล้อเป็นพิเศษด้วยการติดตั้งแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ล้อมรอบ เพิ่มการรีดอากาศให้ไหลเวียนโดยรอบได้มากขึ้น ช่วยระบายความร้อนให้กับชุดเบรคคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อคู่หน้า-หลังเป็นแบบต่างขนาด ด้านหน้า 19 นิ้วสวมยางหน้ากว้าง 285/35 ด้านหลัง 20 นิ้ว 335/30 ทั้งหมดสวมยาง MICHELIN Pilot Sport Cup 2

● ห้องโดยสารออกแบบในสไตล์มินิมอล โดยรวมมีสภาพใกล้เคียงกับคอคพิคของรถแข่ง อาทิ พวงมาลัยเป็นทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้าขอบมน พร้อมจัดวางปุ่มควบคุมเอาไว้บนวงพวงมาลัยในลักษณะเดียวกัน ทว่ามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในแบบรถถนนมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศ, มาตรวัดดิจิทัลหลังวงพวงมาลัย แสดงผลผ่านจอขนาด 10 นิ้ว หรือชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ COMAND system ทำงานผ่อจอทัชสกรีนไซส์เดียวกัน ติดตั้งแบบลอยตัว

● ข้อมูลเรื่องต้นกำลังของ Project One นั้นตรงตามข่าวเดิมทุกประการ พละกำลังทั้งหมดจะมาจากชุดระบบไฮบริด ซึ่งประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว 2 ตัวแรกทำหน้าที่หมุนล้อคู่หน้า ตัวต่อมาพ่วงกับเพลาข้อเหวี่ยงสำหรับช่วยหมุนล้อคู่หลัง ตัวสุดท้ายควบรวมเข้ากับเทอร์โบชาร์จเพื่อให้มีการหมุนอยู่ตลอดเวลา, เครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 1.6 ลิตร หมุนล้อคู่หลัง (เครื่องยนต์รหัส PU106C บล็อคนี้จะได้รับการผลิตโดยตรงจากแผนก Mercedes AMG High Performance Powertrains เช่นเดียวกับรถ F1), ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ, ชุดระบบส่งกำลังแบบกึ่งอัตโนมัติ 8 จังหวะ ซิงเกิลคลัทช์, แบตเตอรี่แพคสำหรับเก็บประจุไฟฟ้า และชุดระบบ ERS สำหรับเพิ่มกำลัง

● สำหรับชุดระบบ ERS นี้จะประกอบด้วยหน่วยย่อย 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกเรียกว่า MGU-K หรือ Motor Generator Unit-Kinetic พ่วงกับเพลาขับ นำพลังงานที่สูญเปล่าจากการเบรคมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ช่วยเพิ่มกำลังพิเศษให้อีก 120 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 161 แรงม้า ส่วนที่ 2 เรียกว่า MGU-H หรือ Motor Generator Unit-Heat แปลงพลังงานความร้อนจากไอเสียไปเป็นพลังงานไฟฟ้า โดย MGU-H นี้จะช่วยเพิ่มกำลังให้กับ MGU-K หรืออาจจะนำส่วนเกินไปสำรองไว้ในแบตเตอรี่แพคในขณะที่ MGU-K จะสำรองพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่แพคโดยตรง

● เทียบกับตัวแข่ง F1 เฉพาะเครื่องยนต์จะมีกำลังสูงสุดประมาณ 758 แรงม้า (PS) รอบเดินเบาลดลงจาก 4,000 รอบ/นาที เหลือ 1,280 รอบ/นาที เพื่อความเหมาะสม เรดไลน์สุดที่ 11,000 รอบ/นาที (F1 ดันขึ้นไปถึง 13,500 รอบ/นาที) มอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวผลิตมีกำลังต่างกันนิดหน่อย ตัวที่พ่วงเทอร์โบชาร์จมีกำลังสูงสุด 80 กิโลวัทท์ (ราว 107 แรงม้า) 2 ตัวที่ทำหน้าที่หมุนล้อคู่หน้ามีกำลังสูงสุด 120 กิโลวัทท์ (ราว 161 แรงม้า) กำลังรวมทั้งระบบมากกว่า 1,000+ แรงม้า โดยชุดระบบจะหมุนล้อแบบ all-wheel drive ในขณะที่โหมดไฟฟ้าล้วนนั้นจะใช้เฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้าหมุนล้อคู่หน้า

● มาถึงตัวเลขที่หลายคนชื่นชอบ Project One สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ราว 350 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 2 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ต่ำกว่า 6 วินาที เร็วกว่า Bugatti Veyron, Porsche 918 เฉลี่ยรุ่นละ 1 วินาทีนิดๆ ในขณะที่โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 24 กม.

● เมอร์เซเดสจะเริ่มผลิต Project One คันจริงในช่วงปี 2019 เป็นต้นไป เบื้องต้นจำนวนการผลิตจำกัดเอาไว้ที่ 275 คัน โดยจะเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้ายทั้งหมด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,275,000 ยูโร หรือประมาณ 90 ล้านบาทครับ

● อย่างไรก็ตาม สารสำคัญของการเปิดตัวรถรุ่นนี้ก็คือ ในอนาคตเมอร์เซเดสระบุว่า เทคโนโลยีชุดระบบขับเคลื่อนจาก F1 ที่ใช้อยู่ใน Project One นั้น น่าจะมีการลดทอนความดุเดือดลงเพื่อให้สามารถใช้งานกับรถรุ่นอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ได้ และวันหนึ่งในอนาคต การลดตัวเลขกำลังเพื่อให้เหมาะสมกับรถถนนภายใต้สายการผลิตของเมอร์เซเดสเอง ก็ยังมีความเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน ●