October 21, 2017
Motortrivia Team (10185 articles)

Mitsubishi Electric EMIRAI 4 Concept มุมมองใหม่ของระบบอินโฟฯ


Posted by : AREA 54

 

●   มิตซูบิชิ อิเลคทริค คอร์เปอเรชั่น บริษัทในเครือของมิตซูบิชิที่ผลิตและพัฒนาสินค้าตั้งแต่ เครื่องปรับอากาศ, LCD TV ไปจนถึงเรดาห์ AESA สำหรับติดตั้งบนเครื่องบินขับไล่ Mitsubishi F-2 เตรียมเปิดพื้นที่ในงาน 2017 Tokyo Motor Show จัดแสดงรถสปอร์ตโรดสเตอร์ทรงล้ำ Mitsubishi Electric EMIRAI 4 Concept โดยเน้นไปที่แนวคิดของระบบประเภท ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบช่วยขับสำหรับรถยนต์ในอนาคต

●   ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ปัจจุบันชุดระบบ ADAS นั้นมีให้ใช้งานกันอยู่แล้วในรถยนต์ทั่วไปทุกแบรนด์ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามระดับราคาตัวรถ อาทิ Adaptive Cruise Control, เบรค ABS, Blind Spot Monitor, Forward Collision Warning, Hill descent control หรืออื่นๆ ที่เราเห็นกันในรถยุคใหม่ เหล่านี้คือหน่วยย่อยในชุดระบบ ADAS ทั้งสิ้น

●   ชุดระบบนำเสนอแนวคิดในรถต้นแบบ EMIRAI 4 จะเน้นไปที่อิสระในการเลือกของผู้ขับเป็นหลัก ชุดระบบจะทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนเท่านั้น โดยผู้ขับสามารถเลือกได้ว่าต้องการควบคุมรถเอง หรือใช้ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ 100% ชุดแสดงผลข้อมูลยังคงมีอยู่ใน 3 ตำแหน่งหลักเช่นเดิม (ยังไม่มีใครฉีกแนวออกไปได้ครับ) ประกอบด้วย จอ Head-up display เทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality ช่วยสร้างภาพเสมือน ทำงานร่วมอุปกรณ์ประเภท 3D mapping สำหรับคำนวณสภาพเส้นทางด้วยความละเอียด ซึ่งจะช่วยให้การขับในเวลากลางคืน หรือในสภาพอากาศปิด มีความปลอดภัยและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยการสร้างภาพเสมือนซ้อนลงไปบนเส้นทางจริงขณะใช้งาน เช่น วาดเส้นไกด์แบบเพอร์สเปคทีฟลงไปบนเส้นแบ่งเลนจริงเพื่อเพิ่มความชัดเจนให้วิสัยทัศน์ เป็นต้น

●   สำหรับจอ HUD เทคโนโลยี AR สำหรับแสดง (สร้าง) ภาพในระนาบเดียวกับมุมมองจริงนั้น น่าจะใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้วครับ ปัจจุบันหลายบริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้กันอย่างเต็มที่ เพื่อใช้ทดแทนวิธีการบอกข้อมูลในแบบเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น ระบบคอนเซปท์ Virtual Urban Windscreen + Follow-Me Ghost Car Navigation ของจากัวร์ หรือ จอ HUD/AR ของพานาโซนิค เป็นต้น

●   จอที่ 2 คือจอให้ข้อมูลขนาดใหญ่หลังวงพวงมาลัย จอนี้จะแสดงผลสภาพเส้นทางแบบ 3D หรือข้อมูลอื่นๆ รวมทั้งให้คำแนะนำที่จำเป็นสำหรับผู้ขับ การที่มิตซูบิชิ อิเลคทริค ให้ความสำคัญกับจอตัวนี้เป็นพิเศษ ก็เพื่อให้ผู้ขับมีการละสายตาออกจากท้องถนนให้น้อยที่สุด จากนั้นจอตัวที่ 3 บริเวณคอนโซลกลางซึ่งเป็นจอสำหรับแสดงผลชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ จะถูกลดความสำคัญลงไป (ในกรณีของผู้ขับ)

●   จอที่ 3 นี้ สำหรับผู้โดยสารจะเป็นจอข้อมูลความบันเทิงขนาดใหญ่ชนิดเต็มตา ขนาดของจอพอๆ กับจอเดสค์ท๊อปแนวตั้ง ทว่าสำหรับผู้ขับ มิตซูบิชิ อิเลคทริค ได้นำเสนอแนวคิดชุดควบคุมแบบโรเตอร์ที่เรียกว่า “knob-on-display” ตัวปุ่มควบคุมทรงกลมมีขนาดใหญ่พอดีมือ เมื่อผู้ขับกวาดมือลงไปก็จะสามารถหาตำแหน่งที่ติดตั้งของมันได้โดยง่าย ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน นอกจากนี้ ตัวปุ่มเองนอกจากจะสามารถ หมุน/กด ในแบบปกติแล้ว ยังสามารถสไลด์ตำแหน่งไป-มาบนจอได้ด้วย เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงฟังก์ชั่นการสั่งงานต่างๆ ของระบบอินโฟเทนเมนท์

●   ด้านการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนและรถ ภายในห้องโดยสารจะมีกล้องมุมมองกว้างและเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับอาการของทั้งผู้ขับและผู้โดยสารตลอดเวลา หลักๆ คือการตรวจจับความผิดปกติของตำแหน่งศีรษะและท่าทางในการนั่งนั่นเอง หากระบบตรวจพบว่าอาการหรือท่าทางของผู้ขับหรือโดยสารผิดไปจากปกติ และอาจส่งผลต่อการขับ ระบบจะมีการแจ้งเตือน และอาจจะเข้าควบคุมรถโดยอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน

●   ด้านตัวรถไม่มีข้อมูลอะไรมากนักครับ อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิ อิเลคทริค ยังคงเน้นไปที่ระบบความปลอดภัยอีกหนึ่งระบบ นั่นคือระบบชุดไฟอัจฉริยะ ทำงานอัตโนมัติเมื่อผู้ขับหรือผู้โดยสารเปิดประตูรถด้วยการฉายภาพลงไปบนพื้นถนนคล้ายๆ ไฟ welcome light ทว่าจุดประสงค์หลักคือ การแจ้งเตือนรถ คนเดินเท้า จักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ ว่ารถคันนั้นๆ กำลังมีการเปิดประตูรถ ช่วยลดความเสี่ยงในการพุ่งชนลงไปได้อีกเล็กน้อย (คือหากวิ่งมาเร็ว อย่างไรก็คงหยุดไม่ทันอยู่ดี ซัดเข้าไปพร้อมๆ กับระบบฉายภาพนั่นแหละครับ)

●   นับเป็นมุมมองใหม่ๆ ที่น่าสนใจจากเหล่าซัพพลายเออร์ผู้เชี่ยวชาญ นอกเหนือไปจากที่เราเห็นแนวคิดส่วนใหญ่มาจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลักๆ ครับ โดยในงานนี้ ทางฝั่งโตโยต้าในก็มีซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยดะ โกเซย์ มาจัดแสดงแนวคิดใหม่ๆ เช่นกัน โดย EMIRAI 4 นับเป็นต้นแบบชุดที่ 4 ต่อจาก EMIRAI 1 ในปี 2011, EMIRAI 2 ในปี 2013 และ EMIRAI 3 ในปี 2015

●   Tokyo Motor Show ปีนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2017 ที่ Tokyo Big Sight Exhibition Center ครับ   ●