เมืองมหาวิทยาลัย Oxford ประกาศห้ามวิ่งรถเชื้อเพลิงเบนซินและดีเซล

Posted by : Man from the Past

●   ในบรรดาประเทศที่เอาจริงเรื่องลดมลพิษในเมืองด้วยวิธีกีดกันรถยนต์ คงไม่มีแห่งไหนเกินสหราชอาณาจักร หลายปีแล้วที่ กรุงลอนดอน หนึ่งในเมืองหลวงสำคัญของโลกได้ดำเนินมาตรการหลายด้านเพื่อไม่ให้รถยนต์วิ่งเข้าไปในย่านใจกลางบริเวณที่เป็นศูนย์การค้าและธุรกิจสำคัญ เบื้องต้นมาตรการที่ใช้ก็คือ การกำหนดพื้นที่ๆ รถยนต์ไม่อาจเข้าไปในชั่วโมงเร่งด่วนจอแจ ขณะเดียวกันลอนดอนยังกำลังเตรียมกำหนดเขตที่จะถูกเรียกว่า Ultra Low Emission Zone หรือเขตปล่อยมลพิษสุดต่ำ โดยตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป เมื่อมาตรการมีผลบังคับใช้ ยวดยานทุกชนิดที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินและดีเซล ต้องจ่ายค่าวิ่งผ่านหากต้องการจะเข้าไปในพื้นที่

●   ล่าสุดเมืองในสหราชอาณาจักรที่เป็นข่าวเอาจริงเรื่องมลพิษอีกแห่งก็คือ อ๊อกซ์ฟอร์ด ที่รู้จักกันดีทั่วโลกในฐานะที่ตั้งมหาวิทยาลัยชื่อเดียวกับเมือง โดยเมืองนี้จะมีมาตรการเช่นเดียวกับเมืองหลวง นั่นคือกำหนดเขตมลพิษต่ำที่จะถูกเรียก Zero Emission Zone หรือเขตปลอดมลพิษในบริเวณใจกลางเมือง โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงปี 2020 เช่นเดียวกัน

●   ทว่าแทนที่จะเก็บค่าผ่านทางเหมือนกรุงลอนดอน เมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดกลับ “ห้าม” ไปเลยอย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆ คือห้ามยวดยานที่ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้าไปวิ่งในทุกกรณี… ตามข่าวช็อคกันมากกับการใช้มาตรการนี้ เพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีพื้นที่ไหนในประเทศสุดเสรีแห่งนี้ประกาศมาตรการเช่นนี้ออกมา ซึ่งผลพวงต่อเนื่องยังน่าจะกระจายไปอย่างกว้างขวาง หากเมืองนี้และประเทศนี้ทำแบบนี้ได้ มีหรือที่เมืองอื่นประเทศอื่นจะไม่ทำตาม

●   อย่างไรก็ตาม อังกฤษได้ประกาศออกมาแล้วว่า จะห้ามซื้อขายรถเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลในอีก 23 ปีข้างหน้า ดังนั้นการ “ทดลอง” ออกมาตรการห้ามวิ่งจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น

●   อังกฤษประกาศข่าวการแบนเบนซิน/ดีเซล ตามหลังประเทศฝรั่งเศส ไล่ๆ กับที่ กรุงปารีส กรุงเม็กซิโก และกรุงเอเธนส์ได้พร้อมใจกันห้ามรถดีเซลเดินทางเข้าใจกลางเมื่อถึงปี 2025 หรืออีก 8 ปีข้างหน้าเช่นกัน

●   มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถดีเซลตรงนี้ หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเมืองต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะยุโรป แต่เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องทั่วโลก ว่าอาจจะมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อบริษัทรถโฟลค์สวาเก็นแห่งเยอรมนีได้สารภาพต่อทางการสหรัฐอเมริกาว่า ได้ติดตั้งอุปกรณ์แจ้งข้อมูลเท็จภายในเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจวัดปริมาณการปล่อยมลพิษ ทันทีที่ข่าวนี้ปรากฏ กระแสต่อต้านรถมลพิษสูงก็อุบัติขึ้นทั่วโลก จนนักการเมืองท้องถิ่นต่างต้องหันมามองปัญหาและหาทางจัดการกันอย่างจริงจัง

●   สำหรับแผนงานระยะแรกของเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดนั้น จะมีการห้ามรถทุกชนิดที่ปล่อยมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถใช้งานเพื่อการพาณิชย์ รวมไปถึงรถโดยสารประจำทางด้วย โดยจะไม่ให้เข้าไปวิ่งบนถนน 6 สายที่อยู่ใจกลางเมือง

●   ทั้งนี้ หลังการประกาศห้ามเริ่มต้นขึ้น จะมีการเพิ่มจำนวนถนนและประเภทรถที่จะห้ามออกไปอีกจนกระทั่งถึงปี 2035 รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทุกประเภทจะถูกห้ามวิ่งอย่างสิ้นเชิง ส่วนการร่างแผนงานระยะต่อไป จะเริ่มหลังการประชุมหารือในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2017

●   เมื่อเห็นแผนห้ามรถปล่อยมลพิษของเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดแล้ว คงจะต้องพูดถึงพูดถึงรถที่ปลอดมลพิษกันบ้าง… ทางฝั่งรถสายกรีนนี้ นอกจากจะอนุญาติให้เดินทางเข้าออกอย่างสะดวกแล้ว ยังมีการเตรียมการสนับสนุนอีกหลายอย่าง เช่น ตั้งแต่ระยะแรกของแผนงาน อ๊อกซ์ฟอร์ดจะไม่เก็บค่าจอดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในที่นี้จะรวมถึงรถส่วนตัวและรถรับจ้างสาธารณะด้วย

●   ผมกำลังนึกถึงรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่ไทยกำลังมุ่งพัฒนา ใครจะรู้ นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับชาวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีก็ได้ สัปดาห์หน้าเรามาต่อกันเรื่องตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าด้วยกัน   ●

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
–   เมืองมหาวิทยาลัย Oxford ประกาศห้ามใช้รถเชื้อเพลิงเบนซินและดีเซลในปี 2020.
–   ฝรั่งเศสเตรียมแบนการขายรถเบนซิน, ดีเซล ในปี 2040.
–   แคนาดาเตรียมพัฒนากลยุทธ์รถไฟฟ้าแห่งชาติในปี 2018.
–   ปี 2030 ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่ายานยนต์สันดาปภายใน.
–   ปารีส, มาดรีด, เม็กซิโกซิตี้ เตรียมยกเลิกรถดีเซลภายในปี 2025.
–   รัฐบาลเยอรมันโหวตยกเลิกเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2030.
–   อินเดียตั้งเป้าจำหน่ายแต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2030.
–   จีนเตรียมออกมาตรการควบคุมบริษัทสตาร์ทอัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้า.
–   Toyota จับมือ Shell เปิดสถานีเติมไฮโดรเจนในแคลิฟอร์เนีย.
–   แบรนด์รถยนต์ร่วมพัฒนาระบบชาร์จแบบ Ultra-Fast ในยุโรป.