November 9, 2017
Motortrivia Team (11109 articles)

General Motors ประกาศเตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์ไร้คนขับ


Posted by : Man from the Past

 

●   ท่ามกลางความชุลมุนที่กำลังเกิดขึ้นทั่ววงการ “รถไร้คนขับ” หรือ Self-Driving Car เนื่องจากใครๆ ก็เป็นผู้อยากผลิต อยากพัฒนา รวมทั้งอาจจะอยากลงทุน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศเปรี้ยงว่า บริษัทพร้อมแล้วที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำงานเหมือนหุ่นยนต์ หลังจากเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพ Cruise Automation, Inc. ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และเริ่มทำงานในฐานะบริษัทลูกภายใต้ชื่อบริษัท GM Cruise LLC

●   จีเอ็มซื้อ Cruise ด้วยราคาที่สูงถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33,000 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่ที่นครซานฟรานซิสโก ดินแดนแห่งสตาร์ทอัพชั้นนำของประเทศและของโลก โดย GM Cruise LLC นั้นได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตรถไร้คนขับโดยเฉพาะ นอกจากนี้จีเอ็มยังตระเวณซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตองค์ประกอบต่างๆ ที่จะทำให้ตัวรถใช้งานได้ รวมทั้งตั้งเป้าหมายในการผลิตแบบจำนวนมากด้วย

●   ล่าสุดก็คือการเข้าซื้อบริษัท Strobe Inc ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา บริษัทนี้เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำรวจพื้นผิว LIDAR หรือ Light Detection and Range ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน หลักการทำงานก็คือส่งสัญญานภาพที่ได้จากกล้องตรวจจับ อย่างที่เราเห็นกล่อง “lidar box” ติดตั้งบนหลังรถไร้คนขับทุกคันนั่นเอง

●   เชื่อกันว่า… การเข้าครอบครองกิจการของ Strobe น่าจะเป็นการลงทุนซื้อกิจการครั้งสุดท้าย และหลังจากนี้จีเอ็มคงไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากองค์ประกอบในการผลิตรถไร้คนขับ (ที่ใช้กันอยู่ ณ วันปัจจุบัน) ครบองค์ประกอบทุกด้านแล้ว


ประธานจีเอ็ม Dan Ammann (ขวา) และสองผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ Cruise Automation, Daniel Kan (ซ้าย) และ Kyle Vogt (กลาง)


●   จีเอ็มคาดว่าจะเริ่มต้นทดสอบบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับได้ในอีก 2 หรือ 3 ปี ข้างหน้า และทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป Andrew Cuomo ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์คก็ออกมาประกาศว่า การทดสอบรถไร้คนขับของจีเอ็มและ Cruise จะมีการดำเนินงานในรัฐ ซึ่งรวมถึงการทดสอบการวิ่งบนถนนหลวงในใจกลางมหานครนิวยอร์คซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีการจราจรคับคั่งจอแจที่สุดแห่งหนึ่งด้วย

●   ข่าวนี้ถูกใจนักเล่นหุ้นมาก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการคาดการณ์กันว่าเทคโนโลยีรถไร้คนขับน่าจะช่วยฉุดให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พ้นจากภาวะซบเซาที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ยังผลให้ราคาหุ้นจีเอ็มทะยานสูงกว่าช่วงต้นปี 2017 ถีงร้อยละ 29 จนมาจบที่ราคาหุ้นละ 45 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

●   การประกาศความพร้อมของจีเอ็มในครั้งนี้มีขึ้นที่การประชุม DLive Conference ซึ่งจัดโดยสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ณ เมืองลากูน่า บีช ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย Dan Ammann ประธานบริษัทได้เผยข้อมูลความพร้อมให้ผู้เข้าร่วมฟังการประชุมซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ที่ จีเอ็มวางแผนจะสร้างธุรกิจรถไร้คนขับให้เป็นธุรกิจใหญ่ ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธข่าวลือที่ว่า ในอนาคตจีเอ็มอาจขายหน่วยงานรถไร้คนขับบางหน่วยเพื่อหากำไรจากตลาดหุ้นด้วย

●   หน่วยงานที่ว่านี้ก็คือ Maven Gig เจ้าของแอพพลิเคชั่นแบ่งปันการใช้รถ ที่จีเอ็มใช้ Chevrolet Bolt ให้บริการนั่นเอง สาเหตุที่ต้องออกมาปฏิเสธก็เพราะว่า การขายกิจการนั้นอาจทำให้จีเอ็มได้รับเงินก้อนใหญ่จากการที่ยุคนี้หุ้นกิจการสตาร์ทอัพอนาคตไกลนั้นมีแรงซื้อที่หนาแน่น โดย Ammann ได้ออกโรงปฏิเสธเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมกับกล่าวว่า ความได้เปรียบที่เหนือกว่าทุกความได้เปรียบก็คือ การมีความสามารถในการดำเนินการอย่างครบถ้วน

●   ทว่า Ammann ยังเลี่ยงที่จะระบุกรอบเวลาที่แน่ชัดว่า เมื่อไหร่รถไร้คนขับของจีเอ็มจะพร้อมจำหน่าย? เขากล่าวแต่เพียงว่า คงจะได้เห็นพัฒนาการที่น่าสนใจไม่เกินปี 2021 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า… ซึ่งที่ผ่านมาจีเอ็มมีประวัติไม่ค่อยดีนักในด้านการจับมือบริษัทอื่นในการร่วมกันพัฒนาธุรกิจรถยุคใหม่ เห็นได้จากการลงทุนด้วยเงิน 500 ล้านเหรียญ หรือ 16,500 ล้านบาทเพื่อเป็นหุ้นส่วนกับคู่แข่งสำคัญของ Uber อย่าง Lyft ซึ่งการลงทุนนี้มีมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทว่าทุกวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทกลับยังไม่แน่ชัด


Dan Ammann (กลาง), John Zimmer (ขวา) และ Logan Green (ซ้าย) ผู้ร่วมก่อตั้ง Lyft Inc.


●   ล่าสุดในเดือนกรกฏาคม 2017 Lyft ได้ก่อตั้งฝ่ายพัฒนาชุดระบบรถไร้คนขับแบบ Level 5 เอง ซึ่งดูแล้วน่าจะคิดสร้างระบบรถไร้คนขับของตัวเองมากกว่า หากการประเมินในลักษณะนี้เป็นจริงขึ้นมา นั่นก็หมายความว่าจีเอ็มกำลังจะมีคู่แข่งสำคัญที่เป็นบริษัทใกล้ชิด ซึ่งคำว่า “ใกล้ชิด” นี้ก็ถึงขนาดที่ว่าร่วมกันพัฒนาโปรแกรมที่ชื่อ Express Drive เพื่อให้ผู้ขับรถ Lyft เช่ารถผ่านแอพพ์ Maven… แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จีเอ็มคงไม่สนใจทำงานร่วมกับ Lyft อีกแล้ว

●   อันที่จริงแล้วจีเอ็ม ไม่ควรจะปล่อย Lyft ให้หลุดมือไป อย่างน้อย Lyft ก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่า Lyft จะเข้ามาแย่งตลาดในส่วนนี้ นอกจากนั้นสิ่งที่น่าจะเป็นตัวบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่คงที่ระหว่างจีเอ็มกับ Lyft ก็คือ การที่ Lyft ได้จับมือกับ Google เพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบรถไร้คนขับ นี่ยังไม่รวมถึงการที่ Lyft จับมือกับฟอร์ดในเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่านมานี้ด้วย

●   แม้จะบอกว่าพร้อม แต่หลายบริษัทก็กำลังหายใจรดต้นคอจีเอ็มในการนำรถไร้คนขับลงสู่ตลาด อย่างไรก็ตามจีเอ็มยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ในเรื่องนี้ คาดว่าจีเอ็มคงพร้อมในทุกด้านจริงๆ จนไม่รู้สึกห่วงอะไรที่อาจกระทบธุรกิจรถไร้คนขับของตนในอนาคต

●   ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจีเอ็มพร้อมในทุกด้านจริงหรือไม่   ●