2017 MINI Electric Concept ต้นแบบไฟฟ้ารุ่นอัพเกรดของ MINI E

413views

Posted by : AREA 54

● ใกล้จะถึงคิวของคันจริงเต็มที สำหรับมินิพลังไฟฟ้า ซึ่งตามกำหนดการณ์เดิมคันจริงจะเริ่มจำหน่ายในช่วงปี 2019 หรืออีกราวปีกว่าๆ เท่านั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดก็คือ การจัดแสดงรถต้นแบบ MINI Electric Concept ในงาน 2017 LA Auto Show ครั้งที่ผ่านมา

● ดูเหมือนจะมาช้า… ทว่าอันที่จริงแล้ว มินิเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มแรกๆ ที่เอาจริงเอาจังเรื่องการผลิตรถที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ย้อนไปในปี 2009 หลายคนน่าจะจำกันได้ว่ามินิเคยมีตัวโปรโตไทป์อย่าง MINI E ทดลองวิ่งจริงเก็บข้อมูลจริงกันมาแล้ว ในช่วงนั้นมันถูกนับเป็นเป็นหนึ่งในรถที่ถูกพัฒนาภายใต้ซับ-แบรนด์ BMW i (หรือ Project i ในช่วงแรก) ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป นั่นเอง

● MINI E รุ่นสาธิตใช้ระบบขับเคลื่อนที่ประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับชนิด Asynchronous กำลังสูงสุด 150 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 200 แรงม้า (HP) ระบบส่งกำลังแบบซิงเกิลสปีด และแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟภายใน 1 ชม. เท่ากับ 35 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 160 กม. การวิ่งเก็บข้อมูลมีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในยุโรป, สหรัฐฯ, จีน และญี่ปุ่น รวมถึงเวอร์ชั่นทำสถิติ MINI E Race ที่มินินำรถไปทดลองวิ่งจับเวลาที่ลูปนูร์บูกร์ริงด้วย

● ตัว E Race นั้น ได้รับการบันทึกชื่อในฐานะรถยนต์คันแรกจากผู้ผลิตที่วิ่งจับเวลาในนูร์บูกร์ริงฝั่งเหนือ (Nordschleife) โดยไม่มีการคายมลพิษ อย่างไรก็ตาม E Race มีการปรับแต่งตัวรถบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะแทร็ค อาทิ การเปลี่ยนโครงสร้างบางส่วนด้วยวัสดุผสมเพื่อลดน้ำหนัก, ปรับอัตราทดใหม่ ในขณะที่เบรค ยาง และชุดระบบกันสะเทือนเปลี่ยนเป็นเกรดเรซซิ่ง สถิติที่ทำเอาไว้คือ 9:51.45 นาที… ไม่เลวเลยสำหรับรถไฟฟ้าขนาดเล็ก เวลาใกล้เคียงกับ Ford Focus RS (9:05), Volkswagen Lupo GTI (9:09) และดีกว่า Jaguar S-Type เครื่องดีเซลด้วยซ้ำ (9:59)

● สำหรับต้นแบบรุ่นล่าสุดนั้น ก่อนจะเดินทางมาโชว์ตัวในงานนี้ เคยจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงาน 2017 Frankfurt Motor Show มาก่อน ทว่าตั้งแต่งานนั้นจนถึงงานนี้ที่ลอส แองเจลิส มินิยังไม่เผยรายละเอียดใดๆ ของชุดระบบขับเคลื่อนออกมา… อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ MINI E รุ่นแรก ก็เป็นที่คาดเดากันได้ว่า ชุดระบบน่าจะใกล้เคียงกัน เพียงแต่ดีขึ้นตามยุคสมัย ส่วนงานออกแบบนั้น ต้องรอดูกันต่อไปว่าคันจริงเมื่อเหลาออกมาแล้วจะเหลือเค้าโครงมากน้อยขนาดไหน ●