January 24, 2018
Motortrivia Team (10162 articles)

ในการซื้อประกันรถยนต์ การเพิ่มเบี้ยไม่มีจริง


Press Release

 

●   เมื่อเกิดการเคลมประกันรถยนต์หลายครั้งในปีเดียว สิ่งที่ผู้เอาประกันจะรู้สึกกังวลที่สุดก็คือการจ่ายเพิ่มเบี้ยประกันในปีต่อไป เพราะถ้าเคลมประกันหลายครั้ง ก็จะมีการเพิ่มเบี้ยผู้ขับขี่ประวัติไม่ดีเข้ามา ทำให้ประกันรถยนต์ที่ซื้อในปีต่อไปราคาแพงขึ้น  แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วในการซื้อประกันรถยนต์นั้น การเพิ่มเบี้ยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะอะไร?

เพิ่มเบี้ยไม่มีจริงเพราะเคลมไม่เกินข้อกำหนด
●   ประกันรถยนต์จะระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ทั้งความคุ้มครอง และการเคลม รวมถึงเงื่อนไขในการเพิ่มเบี้ยประกันผู้ขับขี่ประวัติไม่ดีด้วย

●   ผู้ขับขี่ประวัติไม่ดีคืออะไร คือผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุต้องเคลมประกันบ่อยๆ แปลว่าขับรถโดยประมาท มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง ในการทำประกันครั้งต่อไปจึงต้องมีหลักประกันที่มากกว่าคนอื่น ดังนั้นแม้จะเคลมประกันบ่อยครั้ง แต่เป็นฝ่ายถูกก็จะไม่ได้รับการบันทึกเป็นผู้ขับขี่ประวัติไม่ดีแต่อย่างใด

●   นอกจากนี้ แม้จะเคลมเพราะเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี และไม่เกิน 200% ของทุนประกัน ก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ต้องจ่ายเพิ่มเบี้ยอยู่ดี… ดังนั้นการเพิ่มเบี้ยประกันรถยนต์จึงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ

เพิ่มเบี้ยไม่มีจริงเพราะมีส่วนลดแรกเข้า
●   แม้ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจ่ายเพิ่มเบี้ยประวัติไม่ดีในอัตราต่อเนื่องคิดเป็นร้อยละแต่ละปี แต่จะมีส่วนลดอื่นๆ ที่ช่วยให้ผู้เอาประกันไม่ต้องเพิ่มเบี้ยประกันในปีต่อไป แม้จะเคยเคลมมาแล้วก็ตาม ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจวิธีการคิดเบี้ยประกันก่อน

●   ตามปกติแล้วบริษัทประกันจะแนะนำผู้เอาประกันให้เลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับตัวเองที่สุด โดยจะมีวิธีการคิดคำนวณเบี้ยประกันรถยนต์ในแต่ละปี ดังนี้

●   เบี้ยสุทธิ + ภาษีประจำปี = เบี้ยประกันที่จ่ายจริง

●   ในปีแรกที่ทำประกัน บริษัทประกันทุกแห่งจะมีส่วนลดเบี้ยสุทธิแรกเข้าให้กับลูกค้า 20 – 30% แล้วแต่เงื่อนไขของบริษัทประกันนั้นๆ เท่ากับในปีแรกเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายคือ

–   เบี้ยสุทธิ – ส่วนลดแรกเข้า 20 – 30% + ภาษีประจำปี = เบี้ยประกันที่จ่ายจริง
–   สมมติว่าปีแรกมีเบี้ยสุทธิ 10,000 บาท ส่วนลดแรกเข้า 20%
–   วิธีคิดคือ 10,000 – 2,000 + ภาษีประจำปี

●   จะเห็นว่า เราไม่ได้จ่ายเต็มอยู่แล้วตั้งแต่แรก ดังนั้นถึงจะเคลมมากในนี้ แต่ในปีหน้าก็ไม่ได้จ่ายเพิ่มเบี้ยเกินกว่าเบี้ยสุทธิจริงๆ อยู่ดี

เพิ่มเบี้ยไม่มีจริงเพราะเปลี่ยนชั้นประกัน
●   ถ้าลูกค้ามีประวัติชนมาแล้วหลายครั้ง ประกันชั้น 1 อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป ในปีนี้หากต้องทำประกันรถยนต์และเลือกที่จะทำกับบริษัทเดิม ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มเบี้ยประวัติไม่ดีเข้ามา บริษัทประกันมักแนะนำให้ลดชั้นประกันรถยนต์มาใช้ประกันชั้นที่ราคาถูกกว่า คุ้มครองน้อยกว่านิดหน่อย เช่นจากประกันชั้น 1 มาเป็นประกันชั้น 2+ จะช่วยให้เบี้ยประกันของลูกค้าถูกลงมามาก แม้จะต้องจ่ายเพิ่มเบี้ยก็ไม่มีทางมากกว่าที่เคยจ่ายในประกันชั้นที่แพงกว่าแน่นอน

เพิ่มเบี้ยไม่มีจริงเพราะเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์
●   ประวัติการขับขี่ผูกกับบริษัทประกันรถยนต์ที่เราทำประกันไว้ จะไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างบริษัทประกัน ดังนั้นหากปีนี้เคลมมากจนต้องเพิ่มเบี้ยประกันในปีถัดไป ถ้าเราเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ การคิดเบี้ยประกันก็จะเริ่มใหม่ และได้ส่วนลดแรกเข้า 20 – 30% แต่การทำแบบนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือถ้าไม่ใช่การเปลี่ยนในปีที่ 2 ก็จะเสียค่าส่วนลดประวัติดีต่อเนื่องจากบริษัทเดิมไป

●   ถ้าเคลมไปแล้วไม่อยากเพิ่มเบี้ยประกันรถยนต์มีวิธีแก้ไขอีกมาก หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ Frank.co.th   ●