January 18, 2018
Motortrivia Team (10019 articles)

2019 Hyundai Veloster เจนเนอเรชั่นใหม่ เปิดตัวพร้อมเวอร์ชั่น N

Posted by : AREA 54

 

● สปอร์ตไซส์คอมแพคท์ Hyundai Veloster เจ้าของประตู 2+1 เผยโฉมรุ่นใหม่แบบ All-New เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในงาน 2018 Detroit Auto Show โดยยังคงความปราดเปรียวทุกมุมมอง ทว่าคราวนี้รุ่นพื้นฐาน N/A และรุ่นเทอร์โบชาร์จไม่ได้มาทำตลาดแบบโดดเดี่ยว เพราะฮุนไดได้เปิดตัวเวอร์ชั่นแรง Hyundai Veloster N ภายในงานนี้ด้วย

● Hyundai Veloster รุ่นพื้นฐานใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 147 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 18.2 กก.-ม. ระบบส่งกำลังเลือกได้ระหว่างธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนรุ่นเทอร์โบชาร์จ T-GDI ยังคงพึ่งพาต้นกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 26.9 กก.-ม. ซึ่งมีฟังก์ชั่น overboost ช่วยดันตัวเลขแรงบิดขึ้นไปเป็น 27.9 กก.-ม. ตัวเลือกระบบส่งกำลังต่างกันนิดหน่อย คือ ธรรมดา 6 จังหวะ หรือดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะ

● ห้องโดยสารมีจอ head-up display สำหรับให้ข้อมูลพื้นฐานกับผู้ขับ ระบบอินโฟเทนเมนท์ Blue Link รุ่นล่าสุด แสดงผลผ่านจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนมีทั้ง Android Auto และ Apple Car Play เสริมความสะดวกด้วยจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย

● ทุกรุ่นย่อยจะมากับระบบ Torque Vectoring Control แบบอิเลคทรอนิคช่วยกระจายแรงบิด อาศัยการทำงานร่วมกันของระบบ ESC เซ็นเซอร์ตรวจวัดการหมุนของล้อ และเสริมแรงเบรคเพื่อลดการหมุนของล้อให้เหมาะสมในขณะเข้าโค้ง โดยรุ่นเทอร์โบชาร์จจะมีการจูนพวงมาลัยใหม่ให้ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถตามน้ำหนักมือได้ง่ายขึ้น

● ชุดระบบช่วยขับและระบบความปลอดภัยพื้นฐานประกอบด้วย ระบบ Forward Collision-Avoidance Assist แจ้งเตือนในกรณีที่อาจเกิดการชนทางด้านหน้า พร้อมฟังก์ชั่นช่วยหยุดรถอัตโนมัติ, ระบบ Lane Keeping Assist ป้องกันการเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบ High Beam Assist ปรับตำแหน่งลำแสงไฟหน้าระหว่างไฟสูงและไฟต่ำอัตโนมัติ และระบบ Driver Attention Warning ช่วยเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับอาจมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับ และตัวรถวิ่งส่ายไปมาผิดปกติจากเส้นแบ่งเลน

● ฝั่งของแรงอย่าง Hyundai Veloster N จะถูกนับเป็นรถรุ่นที่ 2 ภายใต้ซับ-แบรนด์ N ต่อจากฮอทแฮทช์ Hyundai i30 N ในปีที่ผ่านมา ตัวรถขยับขึ้นไปใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 275 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.9 กก.-ม. ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้ก็คือบล็อคเดียวกับที่ใช้งานอยู่ใน i30 N นั่นเอง ส่วนระบบส่งกำลังเป็นแบบธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมคันเกียร์สั้น Short throw shifter แบบสปอร์ต

● ดังนั้น แม้ฮุนไดจะยังไม่เผยรายละเอียดสมรรถนะไปมากกว่านี้ แต่ด้วยขนาดตัวที่ใกล้เคียงกัน Veloster N ก็น่าจะมีประสิทธิภาพไล่ๆ กันกับ i30 N ครับ ซึ่งจะว่าไปแล้ว Veloster N ก็คือตัวแทนของ i30 N สำหรับสหรัฐฯ นั่นเอง เนื่องจาก i30 N จะจำกัดการจำหน่ายเฉพาะในยุโรปเท่านั้น

● ช่วงล่างอัพเกรดใหม่หมด เพิ่มลิมิเต็ด-สลิป แบบอิเลคทรอนิคส์ รองรับการวิ่งแบบแทร็คเดย์ด้วยโหมด Track หยุดกำลังของรถด้วยชุดเบรคประสิทธิภาพสูง ดิสค์หน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 13.6 นิ้ว ด้านหลัง 12.4 นิ้ว ในขณะที่ล้อเลือกได้ระหว่างขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว พร้อมจับคู่ยาง Michelin Pilot SuperSport ขนาด 225/40 หรือ Pirelli P-Zero ขนาด 234/35… ซึ่งแพคเกจนี้เป็นแพคเกจเดียวกับชุดเพิ่มสมรรถนะ Performance Package ใน i30 N

● ในสหรัฐฯ พื้นสีตัวถังจะมีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย Ultra Black, Chalk White, Racing Red และสีพิเศษสำหรับแบรนด์ N น้ำเงิน Performance Blue ซึ่ง Axalta Coating Systems ยักษ์ใหญ่ในวงการสีรถยนต์เพิ่งมีรายงานว่า เทรนด์สียอดนิยมในตลาดอเมริกาเหนือปี 2017 ที่ผ่านมาก็คือสีน้ำเงินนี่เอง

● ฮุนไดจะเริ่มจำหน่าย Veloster รุ่นพื้นฐานในสหรัฐฯ ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 นี้ ส่วนตัวแรง Veloster N ต้องรอไปจนถึงช่วงไตรมาสที่ 4 โดยทั้งคู่จะปัดเศษไปเป็นรถรุ่นปี 2019 และจะได้รับการผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองอุลซัน ประเทศเกาหลีใต้ ●


2019 Hyundai Veloster and Veloster N