February 24, 2018
Motortrivia Team (10069 articles)

MGC-Asia Moving Forward 2018 โรดแมพรองรับวิสัยทัศน์ 2020


ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

 

●   MGC-Asia เปิดโรดแมพขยายโครงข่ายธุรกิจทั้งในประเทศและอาเซียน ต่อยอดความสำเร็จจากปี 2560 ดึงมือดีจากเอเจนซี่ชั้นนำเสริมทัพ รองรับดิจิตอลแพลทฟอร์มเต็มรูปแบบ จัดตั้งบริษัทดิจิทัลมาร์เกตติ้งรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขยายเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจสู่ Digital business รูปแบบใหม่ เสริมจุดแข็งองค์กรยกระดับการบริการ เพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่าน มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป

●   ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอ็มจีซี-เอเชีย เผยว่า “ปีนี้เป็นอีกปีแห่งความท้าทายของบริษัทฯ จากการที่เอ็มจีซี-เอเชีย ได้กำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียน เห็นได้ว่าตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้วางรากฐานของการเติบโตในธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในทุกด้าน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

●   “ในปี 2560 ที่ผ่านมา ตัวเลขรายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงประสบความสำเร็จที่ระดับ 22,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ประกอบด้วยรถยนต์ยุโรปและญี่ปุ่น 80% ธุรกิจรถเช่า 8% ธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เก็ต 2% ธุรกิจให้คำปรึกษาและการบริการด้านประกันภัยครบวงจร 1% และธุรกิจภาพรวมอื่นในสัดส่วน 9% อาทิธุรกิจรถเช่ารถมือสอง ศูนย์ฝึกอบรม รวมถึงเทคโนโลยีและสาระสนเทศ”

●   “ปีที่ผ่านมา เราได้เปิดให้บริการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกะโปรเจ็กต์อย่างเป็นทางการ เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ ภูเก็ต ประกอบด้วย โชว์รูมโรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, เรือยอทช์อะซิมุท, บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ รถยนต์มือสอง รวมถึงศูนบริการซ่อมสีและตัวถังครบวงจร ใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และยังมีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี 2018 เราได้เปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกะโปรเจ็กต์ เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่ ประกอบด้วยโชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ, ฮอนด้า, มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รถยนต์มือสอง รวมถึงศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังครบวงจร ใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท รวมทั้งการเปิดบีเอ็มดับเบิลยูมิลเลนเนียมออโต้สตูดิโอสุราษฎร์ธานี”

●   “ขณะเดียวกัน เราได้เติมเต็มศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจสินค้าระดับลัคชัวรี่ส์เซกเมนต์ให้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยการเพิ่มแบรนด์สินค้าสู่กลุ่มธุรกิจรถใหม่คือยนตรกรรมอัลตร้าลักชัวรี่ อิตาเลียน สปอร์ต จากมาเซราติ พร้อมกันนี้ได้ทำการเสริมไลน์ธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทั้ง 8 ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มศักยภาพในการเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจสินค้าระดับลักชัวรี่ส์เซกเมนต์ให้สมบูรณ์ ด้วยการเพิ่มแบรนด์สินค้าสู่กลุ่มธุรกิจรถใหม่ คือ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดรถยนต์และบิ๊กไบค์ของไทยในอนาคตอันใกล้ และสำหรับปี 2561 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ของบริษัทไว้ที่ 12,500 คัน อัตราการเติบโต 15%”

●   “สำหรับนโยบายของกลุ่มในปี 2561 บริษัทฯ ได้เตรียมแผนลงทุนเพื่อขยายความครอบคลุมของกลุ่มธุรกิจทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ โดยเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทก็มีแผนที่จะเป็นพันธมิตรกับคู่ค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่ม TUNAP ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ระดับโลก”

●   ในปี 2561 MGC-Asia ยังคงรุกขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง โดยกลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ ซิกท์ (SIXT) และ ฟลีท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดในปีที่ผ่านมา MGC-Asia ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมาเลเซียเป็นอย่างมาก โดยมีถึง 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย อาทิ สนามบินแห่งชาติที่เมืองกัวลาลัมเปอร์, ปีนัง, ยะโฮบารู (2), รัฐปาหัง และ รัฐสลังงอร์ และมีแผนขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอีกทั้ง 2 ประเทศในอนาคตอันใกล้

●   MGC-Asia ได้นำระบบดิจิตอล (Digital platform) มาผสมผสานการดำเนินธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น พร้อมมุ่งสู่การบริหารธุรกิจแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โดยมีทีมผู้บริหารจากบริษัทโฆษณาฯ มาเสริมทัพ พร้อมเริ่มนำระบบ Virtual Showroom มาเปิดประสบการณ์ใหม่ครั้งแรกในตลาดยานยนต์เมืองไทยเพื่อให้ลูกค้าได้ชมโชว์รูมเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยนำมาใช้เป็นแห่งแรกที่ เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่ ขณะเดียวกันก็เน้นการเสนอสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าผ่านแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน (Privilege App) รวมไปถึงพัฒนาสู่การใช้โบรชัวร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brochure) และการพัฒนาระบบการบริการลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น (Enhanced Customer Online Service)

●   ก่อนหน้านี้ MGC-Asia ได้นำร่องใช้ในส่วนช่องทางการบริการด้วยการแนะนำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย การรับรู้ข่าวสาร รวมถึงรับบริการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อนำรถเข้าซ่อมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และล่าสุดได้มีการนำระบบ 4-digit call center โทร. 1286 มาใช้ในส่วนงานมิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป เพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง

●   ด้านการพัฒนาบุคคลากร MGC-Asia ได้เริ่มใช้นโนยาย HR 4.0 เพื่อยกระดับประสบการณ์ของบุคลากรและองค์กรสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมปรับแผนงานด้าน IT เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยนำแอพพลิเคชั่น Smart Connect มาใช้เชื่อมการติดต่อสื่อสารในองค์กร รวมถึงพัฒนาบุคคลากรในด้านต่างๆ ผ่านศูนย์ฝึกอบรม มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ (MAT) และการประชุมแบบ Motion Conference เชื่อมต่อกับสาขาทั่วประเทศ

●   ดร. สัณหวุฒิ เพิ่มเติมว่า “ปี 2561 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 18 ของการดำเนินธุรกิจในไทย โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งมูลนิธิ ธรรมชวนวิริยะ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มจากเจตนารมย์ของ คุณวิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวิถีการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนสู่สังคมไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม บริษัท ได้จัดทำโครงการ CSR อย่างเต็มรูปแบบเริ่มจากโครงการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาทางด้านการศึกษาให้กับชุมชน รวมถึงการดูแลสุขภาพ และการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานแก่พนักงานในองค์กร

●   “บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจของกลุ่มบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปี 2560 อาทิเช่น กลุ่มรถยนต์ใหม่ ตั้งเป้าจำหน่ายกว่า 12,500 คัน ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขาย ตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 240,000 คัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นในแต่ละกลุ่มและประเภทธุรกิจ”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mgc-asia.com   ●