2020 Rimac C_Two ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Rimac เปิดตัวที่เจนีวาฯ

1Kviews

เรื่อง : AREA 54

● ก่อนที่โลกจะรู้จักกับบรรดาไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า รวมทั้งเหล่ารถปลั๊ก-อิน ไฮบริด สมรรถนะสูงยุคใหม่อย่าง Aria FXE (1,150 แรงม้า), Mercedes-AMG Project ONE (1000+ แรงม้า), Aston Martin Valkyrie (1,130 แรงม้า) หรือไฮเปอร์คาร์สัญชาติจีน NIO EP9 (1,360 แรงม้า) นั้น Rimac Automobili บริษัทผู้ผลิตจากโครเอเชียคือผู้นำในตลาดสปอร์ตพลังแรงยุคใหม่ โดยมี Rimac Concept_One เป็นรถธงของบริษัท… ผ่านไป 5 ปี รีแมคเตรียมเผยโฉมรถรุ่นใหม่ โค๊ดเนม “Concept_Two” แล้ว โดยจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนบางส่วน พร้อมระยะทางที่เพิ่มขึ้น

● เว็บไซท์ Auto Car UK เผยว่า รีแมควางแผนจะจัดแสดงรถโค๊ดเนม Concept_Two (ซึ่งก็ควรจะใช้ชื่อว่า Rimac Concept_Two) ในงาน 2018 Geneva Motor Show ระหว่างวันที่ 8 – 18 มีนาคม 2018 เบื้องต้นตัวรถจะมากับแบตเตอรี่แพคที่มีความจุ หรือความสามารถในการจ่ายไฟภายใน 1 ชม. สูงถึง 120 กิโลวัทท์-ชม. สูงที่สุดในรถคลาสเดียวกัน ณ วันปัจจุบัน ระยะทางในการขับเคลื่อนไม่มีข้อมูลในเวลานี้ ทว่า Concept_One รุ่นอัพเกรดที่ใช้งานแบตเตอรี่แพค 90 กิโลวัทท์-ชม. วิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 349 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

● อย่างไรก็ตาม COO ของรีแมค Monika Mikac ให้ข้อมูลว่า รถรุ่นใหม่นี้จะไม่ได้ใช้ชื่อ “Concept_Two” ในการจำหน่ายจริง (ก็อีกนั่นแหละครับ รถรุ่นแรกไม่ควรจะใช้ชื่อ Concept_One ในการจำหน่ายตั้งแต่แรก) ตัวรถจะใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นแรก และมีความหรูพร้อมความสะดวกสบายมากขึ้นในแบบ “comfortable luxury” แต่จะยังคงคอนเซ็ปท์สปอร์ต 2 ที่นั่งเอาไว้เช่นเดิม และรีแมคยังไม่มีแผนจะพัฒนารถ 4 ประตูในเร็วๆ นี้ ทว่าจะมีเวอร์ชั่นแทร็ค และเวอร์ Spider (เปิดประทุน) ให้อย่างแน่นอนหลังปี 2020

● นอกจากนี้ รีแมคยังมีแผนจะผลิตรถให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยหลังการเปิดตัวที่เจนีวาฯ รีแมคตั้งเป้าจะผลิต Concept_Two ให้ได้อย่างน้อย 20 คันในปีแรก และจะจำกัดจำนวนเอาไว้ที่ 100 คันเท่านั้น หลังจากที่ Concept_One รุ่นจำหน่ายจริงผลิตได้เพียง 8 คันเท่านั้น (ไม่นับรวมเวอร์ชั่นแทร็คอีก 2 คัน ซึ่งใช้งานบนถนนหลวงตามกฏหมายไม่ได้) และที่สำคัญรีแมคต้องการให้รถรุ่นใหม่เป็นรถที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Bugatti, Koenigsegg หรือ Pagani ไม่ใช่ในกลุ่มไฟฟ้าด้วยกันเอง

● อีกหนึ่งจุดสำคัญคือ Concept_Two จะมากับ ชุดระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (Semi-autonomous) Level 4 ตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติหรือ SAE Interbational (Society of Automotive Engineers) แม้จะยังไม่มีรายละเอียดชัดๆ แต่ชุดระบบ Level 4 หรือคลาส 4 นั้น ตามกฏระบบจะต้องสามารถควบคุมการขับเคลื่อนของรถได้ทั้งหมด ‘ยกเว้น’ ในสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง เช่น พายุฝน หรือพายุหิมะ ผู้ขับสามารถสั่งเปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มระบบได้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทว่ารถยนต์ในคลาส 4 นี้ ผู้ขับสามารถละสายตาจากท้องถนนไปทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามแต่ละกรณี

● รายละเอียดเพิ่มเติม รอหลังการเปิดตัวต้นเดือนมีนาคม 2018 ครับ ●

Update 1 : ตัดคำว่าคอนเซปท์ และใช้ชื่อ C_Two

12 March, 2018 AT 9:29 AM

● รีแมคเผยโฉมไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 2 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยชื่อรุ่นที่จะใช้จำหน่ายอย่างเป็นทางการคือ Rimac C_Two ซึ่งก็สมเหตุสมผลดีกับการตัดสินใจละทิ้งชื่อในการจำหน่ายว่า “Concept” ออกไป

● ด้านพละกำลังซึ่งหลายคนรอคอยการคอนเฟิร์มตัวเลขนั้น C_Two จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่มีตัวเลขกำลังรวมทั้งระบบบ้าเลือดสุดๆ ถึง 1,914 แรงม้า (HP) บวกเพิ่มจาก Concept_One รุ่นอัพเกรดในช่วงต้นปี 2017 ถึง 690 แรงม้า… เฉพาะตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็พอๆ กับซูเปอร์คาร์ในกลุ่ม entry-level เกือบทุกรุ่นบนโลกใบนี้แล้วครับ ส่วนแรงบิดสำหรับฉุดลากตัวรถในช่วงเร่งความเร็วนั้นมีให้ใช้งานถึง 234.3 กก.-ม. ยังผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 1.85 วินาทีเท่านั้น!… (ไม่ใส่เครื่องหมายตกใจตอนนี้ จะให้ไปใส่ตอนไหนได้)

● มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวยังคงแยกติดตั้งเอาไว้สำหรับหมุนล้อคู่หน้า-หลัง แพคเกจละ 2 ตัว โดยชุดระบบส่งกำลังจะแยกเป็น 2 ชุด ชุดแรกที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าเป็นแบบซิงเกิลสปีด ส่วนชุดที่ 2 เป็นแบบ 2 สปีดทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง มีระบบ AWTV หรือ All Wheel Torque Vectoring ช่วยกระจายสมดุลย์ของแรงบิดในล้อทั้ง 4 การกระจายน้ำหนักหน้า-หลังเป็นแบบสมมาตร 50:50 ส่วนประสิทธิภาพทางด้านแอโรไดนามิกส์ C_Two จะมากับปีกหลังแบบปรับระดับอัตโนมัติตามความเร็วรถ และทำหน้าที่เป็น air brake เพื่อช่วยลดความเร็วแบบฉับพลันด้วย

● แบตเตอรี่แพคชุดใหม่ มีความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟภายใน 1 ชม. เท่ากับ 120 กิโลวัทท์-ชม. ระบายความร้อนด้วยของเหลว รีแมคระบุว่าระบบการจัดการความร้อนใหม่ในแบตเตอรี่แพคของ C_Two จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมมาก แม้จะเป็นการใช้งานหนักในระดับวิ่งบนแทร็คก็ตาม ส่วนระยะทางในการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้งนั้น C_Two ทำได้ประมาณ 650 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ของยุโรป

● ด้านชุดระบบช่วยขับและฟังก์ชั่นไฮเทคฯ C_Two จะมากับ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 ตามมาตรฐาน SAE ชุดระบบประกอบด้วย LIDAR 1 ตัว, เรดาห์ เซนเซอร์ 6 จุด, อัลตร้าโซนิค เซนเซอร์ 12 จุด, กล้องรอบคัน 8 ตัว, GPS ความแม่นยำสูงสำหรับประมวลผลเส้นทางในการขับ และจะมี AI เป็นผู้ช่วยเสมือนให้ใช้งาน รวมทั้งมีฟังก์ชั่นที่ใหม่เอี่ยมอย่างการใช้งานกล้องปลดล็อคและสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยการสแกนใบหน้าด้วย

● นอกจากนี้ รีแมคยังเผยอารมณ์ขันเล็กๆ ด้วยการติดตั้งถังดับเพลิงที่คาดด้วยสายหนังสุดเก๋เอาไว้ในรถ ประทับตราด้วยข้อความว่า “In case of hill climb, extinguish fire” แซว Richard Hammond ที่เอา Concept_One ไปคว่ำระหว่างขับขึ้นเขาที่สวิทเซอร์แลนด์ในการถ่ายทำรายการ The Grand Tour เมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา ยังผลให้ Concept_One ไหม้เสียหายทั้งคัน และ Hammond เองก็บาดเจ็บพอสมควร (แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าสาหัส)

● รีแมคจะเริ่มผลิต C_Two ภายในปี 2018 นี้ ตัวเลขจำนวนการผลิตเพิ่มขึ้นจากข่าวในช่วงแรก +50 คัน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 150 คัน… เป้าหมายแรกยังคงเดิมคือผลิตให้ได้ครบ 20 คันก่อนในช่วงของการเปิดจำหน่ายปีแรกครับ ●