2019 Honda Ridgeline ปรับรุ่นปี เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นเริ่มต้น

2.4Kviews

เรื่อง : AREA 54

● แม้จะได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีนัก แต่ฮอนด้าก็ยังคงฮึดสู้ทำตลาดรถอเนกประสงค์กึ่งปิคอัพอย่าง Honda Ridgeline ซึ่งฮอนด้าเรียกมันว่า SUT : sport utility truck ต่อไป โดยในการปรับปรุงตัวรถเป็นรุ่นปี 2019 นั้น Ridgeline รุ่นนี้ยังคงอยู่ในวงจรชีวิตของเจนเนอเรชั่น 2 ที่เริ่มทำตลาดในช่วงกลางปี 2016 โดยชูจุดเด่นไปที่ฟังก์ชั่น “สุดยอดกระบะท้าย” หรือ ultimate tailgate vehicle เช่นเดิม

● ฮอนด้าระบุว่า Ridgeline เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานสันทนาการทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกอุปกรณ์กีฬากลางแจ้ง ปิคนิค หรือท่องเที่ยวไปในวันหยุด… แม้ว่าจะมีกายภาพที่ดูเหมือนรถปิคอัพ แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานหนักแบบปิคอัพจอมลุย มันถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Light truck ที่มีสมรรถนะในการบรรทุกไม่เกิน 1,815 กก. ทว่าในการใช้งานจริง Ridgeline เป็นรถที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับรถแวน หรือ SUV มากกว่า

● กระบะท้ายของ Ridgeline นั้น มีสิ่งที่ฮอนด้าเรียกว่า “Truck Bed Audio System” หรือการใช้ฝากระบะหลังทั้ง 2 ด้านเป็นลำโพงนั่นเอง การทำงานของมันแบบย่อๆ ก็คือ ในลำโพงปกตินั้นจะมีส่วนสำคัญ 2 ส่วนที่ทำให้เกิดเสียงคือ กรวยลำโพง (cone) และแม่เหล็ก (magnet) ด้านหลังกรวย… เมื่อเราตัดรายละเอียดปลีกย่อยออกไปเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ แม่เหล็กหลังลำโพงนี้จะทำหน้าที่จัดการสัญญาณเสียงพร้อมกับทำให้กรวยลำโพงมีการเคลื่อนตัวตามจังหวะสัญญาณเสียงนั้นๆ และเกิดเป็นคลื่นเสียงที่เราได้ยินจากลำโพง

● สำหรับฟังก์ชั่น Truck Bed Audio System ของ Ridgeline ฮอนด้าได้ติดตั้งแม่เหล็กนี้ (พร้อมกับส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการสร้างเสียงที่ไม่ได้กล่าวถึง) เอาไว้ภายในแผงด้านหลังของกระบะหรือ panal ทั้ง 2 ด้าน ด้านละ 2 ตัว โดยตัดส่วนของกรวยลำโพงออกไป แล้วใช้แผงกระบะนั่นแหละครับ ให้ทำหน้าที่แทนกรวยลำโพง จากนั้นเจ้าแผงกระบะนี้ก็จะส่งเสียงออกมาแทนกรวยลำโพงนั่นเอง

● จุดเด่นก็คือ นอกจากจะใช้งานร่วมกับเครื่องเสียงภายในรถ และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนจากภายนอกตัวรถได้แล้ว ที่แผงกระบะยังมีจุดเชื่อมต่อตัวแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ 400 วัทท์ ฝังเอาไว้ให้เชื่อมต่อ TV หรืออื่นๆ ตามใจชอบ ซึ่งมันสามารถใช้งานกลางแดดกลางฝนได้สบายๆ ไม่มีจุดให้น้ำเข้าแต่อย่างใด… กางเต๊นท์นอนกลางแจ้งที่ไหน ถ้าขน TV จอยักษ์ขนาดพอดีกระบะไปด้วย ก็สามารถเปิดเป็นวิกหนังกลางแปลงขนาดมินิได้เลย

● อื่นๆ ยังคงเดิม Ridgeline ใช้กำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V6 ตระกูล Earth Dreams ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 36.1 กก.-ม. ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ระหว่าง 2 หรือ 4 ล้อ all-wheel drive พร้อมตัวช่วยในการจัดสรรแรงบิดด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ i-VTM4 หรือ Intelligent Variable Torque Management

● ทั้งนี้ในรุ่นปี 2019 ฮอนด้าได้เพิ่มออปชั่นให้กับรุ่นล่างสุด เช่น เพิ่มพอร์ท USB จุดที่ 2 หรือติดตั้งมูนรูฟไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ (เดิมอยู่ในรุ่นกลาง-สูง) และตัดรุ่นย่อยในเกรดเริ่มต้นบางรุ่นออกไป ซึ่งทำให้มีเสียงติมากพอสมควรว่าการปรับปรุงอุปกรณ์เพิ่มเติมในลักษณะการเปลี่ยนรุ่นปีเช่นนี้ ค่อนข้างน้อยไปสักหน่อย

● Ridgeline ใหม่จะแยกการจำหน่ายเป็น 9 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 4 รุ่น, รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออีก 4 รุ่น และรุ่นพิเศษ 4WD Black Edition อีก 1 รุ่น ราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 30,965 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.7 แสนบาท ส่วนรุ่นท๊อป Black Edition จบที่ 44,395 ดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านบาทครับ ●