March 20, 2018
Motortrivia Team (10076 articles)

Porsche ลงทุนพัฒนารถไฟฟ้าด้วยงบ 6,000 ล้านยูโร ภายในปี 2022


Press Release

 

● ปอร์เช่ ประกาศเพิ่มงบลงทุนมหาศาล ตามแผนกลยุทธ์การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2022 โดยจะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านยูโร ซึ่งแผนงานนี้จะมุ่งเน้นในการพัฒนาทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in hybrid และแบบแบตเตอรี่ล้วน (battery electric vehicle) และการตัดสินใจดำเนินงานในครั้งนี้ ได้รับความเห็นชอบจากการประชุมหารือระหว่างคณะกรรมการบริหารของ Porsche AG เมื่อไม่นานมานี้

● “เราตกลงที่จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณในการพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากตัวเลขเดิมที่ประมาณ 3,000 ล้านยูโร เป็นมากกว่า 6,000 ล้านยูโร” Oliver Blume ประธานกรรมการบริหารของ Porsche AG กล่าว “ในขณะที่เรายังคงพัฒนารถยนต์รุ่นปัจจุบันที่ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในนั้น เราก็ได้ดำเนินการจัดตั้งอีกหนึ่งโครงการที่มีความสำคัญต่ออนาคตขององค์กรเช่นเดียวกัน”

● แผนงานนี้มีความชัดเจนในเชิงของการสนับสนุนเงินทุนราว 3,000 ล้านยูโรให้แก่การจัดซื้อสินทรัพย์ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3,000 ล้านยูโรจะถูกจัดสรรค์ให้แก่งบลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี

● ทั้งนี้ งบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3,000 ล้านยูโรนั้น ส่วนหนึ่งราว 500 ล้านยูโรจะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการพัฒนารถในกลุ่ม Mission E ซึ่งรวมทั้งรุ่นอื่นๆ ในอนุกรมเดียวกัน โดยเงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านยูโรจะถูกใช้เป็นงบประมาณในการเสริมศักยภาพด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และระบบไฮบริดในรถยนต์รุ่นปัจจุบัน และอีกหลายร้อยล้านยูโรจะเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายโรงงานผลิต ปิดท้ายด้วยงบอีก 700 ล้านยูโรเพื่อการค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของระบบชาร์จพลังงาน รวมไปถึงระบบยานยนต์อัจฉริยะ

● ศูนย์บริการสีและตัวถังแห่งใหม่ในสำนักงานใหญ่ที่ Zuffenhausen ได้รับการจัดสรรพื้นที่พร้อมสายการผลิตส่วนหนึ่ง เพื่อวัตถุประสงค์ในการเคลื่อนย้ายตัวถังรถยนต์ที่ผ่านการพ่นสี และชิ้นส่วนของระบบขับเคลื่อนไปยังส่วนงานประกอบขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง ขณะเดียวกัน ด้านของโรงงานผลิตเครื่องยนต์ปัจจุบัน กำลังจะได้รับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าส่วนงานผลิตตัวถังจะต้องได้รับการพิจารณาปรับปรุงเช่นเดียวกัน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่วางไว้นี้ ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงบทบาทหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนา Weissach Development Centre อีกด้วย ส่งผลให้โครงการ Mission E สามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้นได้มากถึง 1,200 ตำแหน่ง

● ในเบื้องต้น ต้นแบบ Porsche Mission E คือรถสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ มีกำลังสูงสุดมากกว่า 600 แรงม้า มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที สามารถเร่งออกตัวและเบรคอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการสูญเสียประสิทธิภาพใดๆ และตัวรถยังมีศักยภาพในการเดินทางสูงสุดได้เป็นระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และใช้เวลาการรีชาร์จแบตเตอรี่เพียงเล็กน้อย จากโครงสร้างของระบบไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลต์ ซึ่งช่วยให้ตัวรถวิ่งได้เป็นระยะทางถึง 400 กิโลเมตร จากการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 15 นาทีเท่านั้น

โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับทางเลือกในการชาร์จหลายรูปแบบ

● ปอร์เช่และอาวดี้ ในฐานะตัวแทนของเครือโฟล์คสวาเก้น ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ BMW Group, Daimler AG และ Ford Motor Company เพื่อปฏิบัติการภายใต้สัญญาความร่วมมือกับบริษัท Ionity โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อก่อตั้ง และ เปิดดำเนินงานสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูง (Ultra-fast high-powered charging network) มากกว่า 400 แห่ง ตลอดเส้นทางจราจรหลักทั่วทั้งทวีปยุโรปภายในปี 2020

● การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา โดยได้รับการกำกับดูแลจากทีมงานของ Ionity นอกจากนี้ เครือข่ายศูนย์บริการของปอร์เช่ทั่วโลกจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานในเชิงของสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูงเช่นกัน

ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หนึ่งในความสำเร็จของแบรนด์ปอร์เช่

● การเผยโฉมของ New Porsche Panamera ชี้ให้เห็นถึงอนาคตของรถยนต์พลังงานทางเลือกเจเนอเรชั่นที่ 3 จากปอร์เช่ ชุดระบบปลั๊กอิน-ไฮบริด ทั้ง 2 รุ่นของ Panamera นั้น เป็นที่ยอมรับทั้งในด้านของศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุดราว 50 กิโลเมตร และสำหรับ Panamera Turbo S E-Hybrid ซึ่งเป็นรถเรือธงของกลุ่มสปอร์ตทัวริ่ง 4 ประตู นี่คือส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะ และประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยม โดยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 680 แรงม้า

● กลุ่มเป้าหมายของปอร์เช่ ให้ความสนใจและมั่นใจที่จะเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดเพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกนั้น ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของยานพาหนะทั้งหมดที่จำหน่ายในภูมิภาคยุโรป เป็นรถยนต์ที่ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนดังกล่าว และสถิติตัวเลขข้างต้นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลมาจากเสียงตอบรับที่ดีของบรรดาผู้ใช้รถในหลายประเทศ และสูงขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย

● สำหรับบ้านเรา ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญเกี่ยวกับรถไฮบริดของปอร์เช่ สามารถสอบถามได้ที่ Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655, Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111 และ Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911 ●


2015 Porsche Mission E Concept