BFGoodrich Advantage T/A Drive คุณภาพคุ้มราคา มาพร้อมความน่าเชื่อถือ

9.9Kviews

เรื่อง – ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

● บีเอฟกู๊ดริช ผู้ผลิตยางจากสหรัฐอเมริกา มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีสำคัญๆ ในการผลิตยาง เช่น ในปี 2490 ผลิตยางที่ไม่ต้องใช้ยางในเส้นแรกสำหรับรถอเมริกัน และในปี 2510 ผลิตยางที่วิ่งได้แม้ไร้ลมเส้นแรก จากนั้นอีก 5 ปีก็จำหน่ายยางรถยนต์แบบเรเดียล ในขณะที่ผู้ผลิตยางรายอื่นยังพัฒนายางแบบผ้าใบ ในปี 2542 สร้างความแตกต่างด้วยการผลิตเนื้อยางที่มีสีอื่นนอกจากสีดำเป็นครั้งแรก กับยางรุ่น Scorcher T/A ในด้านมอเตอร์สปอร์ตก็ถือว่าบีเอฟกู๊ดริช ประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะเป็นยางแบรนด์แรกที่ได้รับชัยชนะในแข่งขัน Indianapolis 500 รวมทั้งการแข่งขันทางวิบากอย่าง World Rally Championship ทั้งในสนามแข่งและทะเลทราย และการแข่งขันสุดโหดอย่าง Dakar ก็ได้รับชัยชนะถึง 8 ครั้ง นับเป็นการพิสูจน์เทคโนโลยีการผลิตและประสิทธิภาพของยางบีเอฟกู๊ดริช ได้เป็นอย่างดี

● สำหรับยางที่ใช้งานบนท้องถนนทั่วไป บีเอฟกู๊ดริช มีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือ ด้วยความเป็นแบรนด์อเมริกา เป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพ ทุกขนาดผลิตและอยู่ภายใต้การควบคุมคุณภาพจากโรงงานมิชลิน นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคุณภาพจากการผลิต 6 ปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) มาพร้อมความคุ้มค่า ราคาอยู่ในงบประมาณที่กำหนด

● ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ได้ยาง บีเอฟกู๊ดริช Advantage T/A Drive ขนาด 225/45/17 มาทดลองใช้ ราคาอ้างอิงจากเวบไซต์ www.tyreplus.co.th เส้นละ 4,290 บาท

● จริงๆ แล้วยางรุ่นนี้ต้องเทียบกับมิชลิน XM2 แต่เนื่องจาก XM2 ไม่มีขอบ 17 นิ้ว จึงต้องเทียบราคากับยางรุ่นที่มีขนาดเดียวกัน เริ่มจากยางที่ใช้อยู่ก่อนหน้าคือ มิชลิน Pilot Sport 4 ราคาหน้าเวบเส้นละ 5,850 บาท และอีกรุ่นที่มีขนาดเดียวกันคือ มิชลิน Primacy 3 เส้นละ 5,850 บาท เช่นกัน จะเห็นได้ว่าบีเอฟกู๊ดริช Advantage T/A Drive ราคาถูกกว่าเส้นละ 1,560 บาท ถ้าเปลี่ยน 4 เส้น ก็จะต่างกันถึง 6 พันกว่าบาท ด้านประสิทธิภาพต้องต่างกันแน่ แต่จะมากน้อยแค่ไหน คุ้มหรือไม่กับส่วนต่างของราคา และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

● บีเอฟกู๊ดริช Advantage T/A Drive ระบุคุณสมบัติไว้ว่า เข้าโค้งเนียนทั้งบนถนนเปียกและแห้ง จากการทำงานผสานกันของบล็อกดอกยางที่มีขนาดแตกต่างกัน ทั้งบริเวณหน้ายางและไหล่ยาง พร้อมร่องดอกยางแบบซิกแซกและฟิลเลอร์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งบริเวณไหล่ยาง, ระยะเบรกสั้นทั้งบนถนนเปียกและแห้ง จากการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกดอกยางที่มีขนาดใหญ่ ร่องดอกยางตามแนวหมุนและแนวขนานที่มีความกว้างและลึก พร้อมทั้งรอยบากเล็กๆที่ช่วยตัดฟิล์มน้ำ, ควบคุมรถง่ายแม้ในสถานการณ์คับขัน ด้วยดอกยางแบบสมมาตร พร้อมบล็อกดอกยางและไหล่ยางที่มีความแข็งแกร่ง และร่องดอกยางแบบซิกแซก โครงสร้างยางแข็งแรง มาพร้อมไหล่ยางและลวดขอบยางที่เพิ่มความแกร่ง

● หน้าตาของ บีเอฟกู๊ดริช Advantage T/A Drive โดยรวมเน้นความเรียบง่ายไม่หวือหวา แก้มยางดูเรียบๆ บอกข้อมูลที่จำเป็นไว้ครบถ้วน Load Rating 94 เทียบตารางแล้วรับน้ำหนักได้เส้นละ 670 กิโลกรัม Speed Rating V รองรับความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Treadwear 400 เห็นตัวเลขค่าต้านการสึกหรอสูงถึง 400 อย่าเพิ่งคิดว่ายางแข็งหรือไม่เกาะถนน ต้องดูข้อมูลอื่นประกอบด้วย อย่างยางรุ่นนี้มีค่าการยึดเกาะ Traction A ซึ่งนับว่าดีมากแล้ว เพราะค่าการยึดเกาะสูงสุดคือ AA และสุดท้ายคือดัชนีการทนความร้อน Temperature A ซึ่งเป็นค่าสูงสุด

● ลวดลายของดอกยางดูสปอร์ตนิดๆ กลางหน้ายางมีบล็อกดอกยางแบบเกือบต่อเนื่อง ประกบข้างด้วยร่องยางขนาดใหญ่สำหรับเก็บน้ำ ดอกยางด้านซ้ายและขวามีร่องขนาดใหญ่สำหรับรีดน้ำออกด้านข้าง และทุกบล็อกดอกยางจะถูกแบ่งด้วยร่องยางขนาดเล็ก ดอกยางไม่ระบุทิศทางการหมุนและด้านนอกด้านใน การสลับยางจึงทำได้อย่างเสรี ยางไซส์นี้แนะนำให้ใส่กับล้อกว้าง 7.5 นิ้ว แคบสุดไม่เกิน 7.0 นิ้ว และกว้างสุดไม่เกิน 8.5 นิ้ว เติมลมได้สูงสุด 42 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

● รับยางมาแล้วใส่กับรถคันเดิม ฟอร์ด โฟกัส ดีเซล เติมลมตามความชอบ หน้า/หลัง 36/34 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว รัน-อินยางประมาณ 500 กิโลเมตร ก่อนเริ่มจับความรู้สึก เมื่อขับด้วยรถคันเดิม เส้นทางเดิม ทำให้จับความรู้สึกได้ชัดเจน แม้แก้มยางจะค่อนข้างเตี้ย บวกกับช็อคฯ และสปริงของแต่ง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าสะเทือนหรือกระแทก เมื่อขับผ่านรอยต่อของถนนแก้มยางยังซับแรงได้ดี ทดลองขับบนผิวทางต่างๆ ทั้งคอนกรีตและยางมะตอย เสียงยางค่อนข้างเงียบแม้ใช้ความเร็วสูง ที่ความเร็วต่ำ-ปานกลาง การหมุนและคืนพวงมาลัยทำได้ราบเรียบต่อเนื่อง สำหรับการขับใช้งานทั่วไปเรื่องความนุ่มนวลและความเงียบถือว่าทำได้ดี

● การควบคุมรถบนทางตรงทำได้ดี ย่านความเร็วสูงมั่นคงไม่วูบวาบ การเข้าโค้งทั้งแคบและกว้างด้วยความเร็วปกติ การควบคุมพวงมาลัยทำได้ง่ายและเบาแรง แต่ถ้าเข้าโค้งแคบๆ ด้วยความเร็วสูงจัด จะเริ่มได้ยินเสียงกรีดร้องจากยางบ้าง ถ้ายังไม่ยอมผ่อนคันเร่งก็ต้องปรับแต่งพวงมาลัยกันเล็กน้อย การเบรกทำได้ดีทั้งเบรกธรรมดาและฉุกเฉิน กว่าจะเบรกให้ล้อล็อกเอบีเอสทำงานได้ ต้องเบรกกันแบบหนักหน่วงจริงๆ การเปลี่ยนเลนฉุกเฉินที่ความเร็วค่อนข้างสูงทำได้แม่นยำไม่ขาดไม่เกิน

● มีโอกาสได้ลองขับท่ามกลางสายฝน กัดฟันใช้ความเร็วสูงเกินปกติไปเล็กน้อยบนทางตรง ก็ยังรู้สึกว่ามั่นคง พวงมาลัยไม่เบาหรือลอย การเปลี่ยนเลนและการเบรกก็ควบคุมง่าย รวมทั้งการเข้าโค้งด้วย การรีดน้ำทำได้ดี ขับผ่านแอ่งน้ำแบบไม่ชลอความเร็ว ไม่รู้สึกว่าพวงมาลัยดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง ขับผ่านแอ่งน้ำไปแบบตรงๆ แต่ทั้งหมดนี้ทดลองขับด้วยความเร็วปกติเท่านั้น เพราะเป็นการขับบนถนนสาธารณะ

● บีเอฟกู๊ดริช Advantage T/A Drive เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับราคาแล้วคุ้มค่า เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป มีความนุ่มนวล เสียงรบกวนต่ำ การยึดเกาะถนนและการเบรก ทำได้ดีทั้งทางแห้งและทางเปียก เมื่อใช้ความเร็วที่เหมาะสม แต่ไม่เหมาะที่จะใส่กันแบบเต็มเหนี่ยวหรือขับแบบสปอร์ตหนักหน่วง ยางรุ่นนี้น่าจะลงตัวสำหรับผู้ที่กำลังมองหายางสำหรับการขับใช้งานทั่วไป ราคาและประสิทธิภาพสอดคล้องกัน ที่สำคัญคือ วางใจได้ เพราะยางบีเอฟกู๊ดริชทุกขนาด อยู่ภายใต้การควบคุมคุณภาพจากโรงงานมิชลิน และมีการรับประกันคุณภาพจากการผลิต 6 ปีอีกด้วย

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ bfgoodrich-thai.com ●

ขนาดยาง

• 175/70 R13 รับน้ำหนักได้ 475 กก. ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
• 165/65 R14 รับน้ำหนักได้ 437 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 165/70 R14 รับน้ำหนักได้ 462 กก. ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
• 175/65 R14 รับน้ำหนักได้ 475 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 175/70 R14 รับน้ำหนักได้ 500 กก. ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
• 185/60 R14 รับน้ำหนักได้ 475 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 185/65 R14 รับน้ำหนักได้ 530 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 185/70 R14 รับน้ำหนักได้ 560 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 185/60 R15 รับน้ำหนักได้ 500 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 185/55 R15 รับน้ำหนักได้ 530 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 185/65 R15 รับน้ำหนักได้ 560 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 195/50 R15 รับน้ำหนักได้ 475 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 195/55 R15 รับน้ำหนักได้ 515 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 195/60 R15 รับน้ำหนักได้ 560 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 195/65 R15 รับน้ำหนักได้ 615 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 205/65 R15 รับน้ำหนักได้ 775 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 205/55 R16 รับน้ำหนักได้ 615 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 205/60 R16 รับน้ำหนักได้ 630 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 215/60 R16 รับน้ำหนักได้ 690 กก. ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
• 205/45 R17 รับน้ำหนักได้ 500 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 215/45 R17 รับน้ำหนักได้ 615 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 215/50 R17 รับน้ำหนักได้ 690 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 215/55 R17 รับน้ำหนักได้ 670 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 225/45 R17 รับน้ำหนักได้ 670 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 225/50 R17 รับน้ำหนักได้ 750 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
• 235/45 R17 รับน้ำหนักได้ 730 กก. ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.