May 7, 2018
Motortrivia Team (10156 articles)

Nissan Navara Double Cab 4WD VL 7AT คุณภาพที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

 

●   ด้วยการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายไม่หวือหวา อาจทำให้ นิสสัน นาวาร่า ไม่ใช่รถที่เห็นแล้วอยากได้ทันที หรืออยู่ในลิสต์ของรถที่ต้องการซื้อ จนกว่าจะได้ลองขับอย่างจริงจัง เมื่อได้สัมผัสคุณภาพการขับ และทดลองใช้อุปกรณ์มาตรฐานที่โดดเด่น อาจทำให้ผู้ที่กำลังจะซื้อรถกระบะเกิดความลังเลได้

รูปลักษณ์เรียบง่ายแต่ลงตัว

●   รูปลักษณ์ภายนอกไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ขี้เหร่ มีการผสมผสานระหว่างเหลี่ยมสันและความโค้งมน ให้อารมณ์สปอร์ตบึกบึน ไฟหน้า LED Projector ให้ความสว่างเข้มข้นเหลือเฟือ และควบคุมลำแสงให้อยู่ในขอบเขต กดลงพื้นไม่ฟุ้งกระจายแยงตาผู้ร่วมใช้ทาง เสริมความหรูหราด้วยกระจังสีโครเมียม เข้าชุดกับกรอบไฟตัดหมอก, กระจกมองข้าง, ที่เปิดประตู และกันชนท้าย เล่นสีเมทัลลิกด้านที่บันไดและแร็กหลังคา ด้านหลังเสริมด้วยสปอยเลอร์ชิ้นเล็กที่ขอบฝาท้ายที่ปั๊มลายเพิ่มเส้นสายดูไม่โล่งเกินไป ล้อแม็ก 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60/18

●   มิติตัวรถมีความยาว 5,255 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,790 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 220 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,035 กิโลกรัม

ภายในสไตล์รถเก๋ง

●   เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก ห้องโดยสารของนาวาร่า ออกแบบให้ดูเรียบง่ายสะอาดตาสไตล์ผู้ใหญ่ ไม่แพรวพราว เน้นโทนสีดำดูสปอร์ตและดูแลรักษาง่าย ตกแต่งแซมด้วยสีเมทัลลิกในจุดต่างๆ หลายชิ้นส่วนใช่ร่วมกันกับรถหลายรุ่นของนิสสัน วัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีและประกอบเนี๊ยบ ภาพรวมของห้องโดยสารแทบไม่เหลือความเป็นรถกระบะ ให้อุปกรณ์มาตรฐานมาแบบล้นๆ สมราคา 1.09 ล้านบาท

●   อุปกรณ์มาตรฐานที่โดดเด่นและใช้งานจริงได้บ่อยคือ AVM หรือ Around View Monitor ทำงานด้วยกล้องรอบรถ 4 ตัว ติดตั้งที่กระจังหน้าตรงโลโก้นิสสัน ที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน และที่ฝาท้าย สังเคราะห์ภาพเป็นภาพมุมสูงแบบ Bird’s Eye View มีเส้นกะระยะแบบแปรผันตามการหมุนพวงมาลัย ระบบนี้ช่วยให้การขับรถคันใหญ่เป็นเรื่องง่ายขึ้น เข้าจอดได้ตรงช่องทั้งเดินหน้าและถอยหลังเข้าจอด และใช้ตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบรถที่อาจอยู่ในมุมอับสายตาได้ แสดงผลบนกระจกส่องหลังได้ 3 แบบ เปลี่ยนมุมมองด้วยการกดปุ่ม CAMERA ที่กระจกส่องหลัง ความคมชัดอยู่ในระดับพึ่งพาได้ แต่ขนาดภาพเล็กไปนิดเพราะพื้นที่ของกระจกส่องหลังมีจำกัด

●   คอนโซลกลางด้านบนมีช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ พร้อมหลุมลึกพอประมาณสำหรับวางสิ่งของ ถัดลงมาเป็นชุดเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 2 DIN และสวิตช์ควบคุมแอร์พร้อมหน้าจอแสดงผล ต่อเนื่องด้วยสวิตช์เปิด-ปิดระบบ HDC ช่วยลงทางลาดชัน สวิตช์เข้าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หน้าตาเชยไปนิด ยังดีที่เอาไปแอบไว้ หน้าคอนโซลเกียร์มีช่องเสียบ USB และ HDMI สำหรับระบบเครื่องเสียง ที่เท้าแขนกลางเบาะหน้าบุด้วยวัสดุนุ่ม แต่ใช้งานไม่ถนัดเพราะสั้นเกินไป

●   เบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับปรับสูง-ต่ำได้ และมีที่ดันหลังไฟฟ้า พวงมาลัยปรับได้แค่สูง-ต่ำ บนพวงมาลัยฝั่งซ้ายเป็นชุดสวิตช์ควบคุมหน้าจอเอนกประสงค์และคุมเครื่องเสียง ส่วนฝั่งขวาสำหรับครูสคอนโทรล และระบบโทรศัพท์ ชุดมาตรวัดทรงกลมออกแบบดูดี ขนาดใหญ่ชัดเจน แทรกกลางด้วยจอแสดงข้อมูลและปรับตั้งระบบต่างๆ ของตัวรถ ปุ่มรีเซตระยะทางและปรับความสว่างหน้าปัด แยกออกมาอยู่ที่แผงคอนโซลฝั่งขวา

●   เบาะคู่หน้าทรงแบนปีกเบาะกว้างไม่บีบมาก ความแข็งของเบาะพอเหมาะ การปรับเบาะมีระยะค่อนข้างมาก ปรับได้ละเอียด ถ้าพวงมาลัยปรับใกล้-ไกล ได้ด้วยจะดีมาก เบาะหลังก็ตามสภาพ พนักพิงค่อนข้างตั้งชัน เบาะรองนั่งยาวรับต้นขาได้เต็มที่ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ถ้าผู้ขับไม่ตัวสูงผิดปกติ ผู้โดยสารด้านหลังผู้ขับจะมีที่วางขาเหลือเฟือ ได้ที่เท้าแขนตรงกลางอีกหน่อยจะดีมาก ส่วนที่วางขวดน้ำตรงพื้นแบบพับเก็บได้ ติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่น่าจะเกะกะ แต่ไม่มีก็คงไม่เป็นไร เพราะที่แผงประตูก็มีอยู่แล้ว

●   ในด้านคุณภาพการขับถือว่าทำได้ดี การเก็บเสียงดีเกินคาด โดยเฉพาะเสียงจากลมปะทะ ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังค่อนข้างเงียบ ส่วนเสียงเครื่องยนต์ในรอบปกติก็จะได้ยินแค่แผ่วๆ แต่ถ้าลากรอบสูงก็จะได้ยินชัด เมื่อขับด้วยความเร็วปกติ เสียงและความสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์แทบไม่มีให้สัมผัส มุมมองรอบคันค่อนข้างโล่ง มีหมอนรองศีรษะเบาะหลังที่พับลงไม่ได้ เลยบังสายตานิดหน่อย อุปกรณ์ความปลอดภัยมีให้ครบ เข็มขัดนิรภัย 5 ตำแหน่ง คู่หน้าปรับระดับได้ แอร์แบ็ก 7 ใบ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และแอร์แบ็กหัวเข่าผู้ขับ

190 แรงม้า ตอบสนองดีและต่อเนื่อง

●   รถกระบะยุคใหม่ เครื่องยนต์ไม่ใหญ่ แต่อาศัยเทคโนโลยีช่วยรีดแรงม้า นาวาร่า ใช้เครื่องยนต์รหัส YD25DDTi ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน VGS พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รีดกำลังได้ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode

●   เห็นตัวเลขแรงม้าแรงบิดแล้ว อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะจี๊ดจ๊าดมากมาย เพราะยังไงก็เป็นรถกระบะ ที่ต้องออกแบบอัตราทดเกียร์ไว้สำหรับการบรรทุก กับรอบของเครื่องยนต์ดีเซลที่เริ่มอั้นแถวๆ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ช่วยให้อัตราเร่งไหลลื่นต่อเนื่องพอสมควร โดยที่ไม่ต้องกดคันเร่งเค้นรอบสูงมากนัก ลองใช้ Manual Mode โยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง +/- จะลากรอบสูงได้อีกนิด ทะลุขีดแดงไปคาอยู่ที่ 5,000 รอบต่อนาที เกียร์ไม่เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงให้ มีข้อดีเวลาบรรทุกหนักไต่ทางชันหรือขับบนเส้นทางออฟโรด เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำในโหมดนี้จะคิ๊กดาวน์ไม่ลง ต้องโยกคันเกียร์เท่านั้น

●   สมรรถนะโดยรวมของเครื่องยนต์บล็อกนี้ เน้นกำลังที่มาแบบต่อเนื่อง ตอบสนองดีตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ได้ดึงหนักหน่วงนัก ขับใช้งานได้สบายนุ่มนวล ควบคุมง่าย จังหวะเร่งแซงก็ตอบสนองได้ทันใจ เกียร์เหมือนจะเซตมาให้เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล แต่ก็ยังให้ความต่อเนื่องในการเปลี่ยนจังหวะทั้งขึ้นและลง

●   ขับด้วยความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รอบเครื่องยนต์ป้วนเปี้ยนแถว 2,000 รอบต่อนาที ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เจอทั้งทางโล่งและรถติด อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14 กิโลเมตรต่อลิตร

ช่วงล่างมาพร้อมตัวช่วย

●   รถกระบะยุคใหม่ เครื่องยนต์พัฒนาไปไกล แต่ช่วงล่างยังมีข้อจำกัดด้านการใช้งาน ที่ต้องรองรับการบรรทุกหนักได้ดีไว้ก่อนตามประเภทรถ รูปแบบของระบบกันสะเทือนจึงปรับเปลี่ยนได้ไม่มากนัก ด้านหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานแข็ง แหนบซ้อน มาพร้อมตัวช่วยครบครัน เช่น VDC ควบคุมการทรงตัว TCS ป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยขึ้น-ลงทางลาดชัน HSA และ HDC และระบบป้องกันการลื่นไถล ABLS – Active Brake Limited Slip เมื่อล้อใดเกิดการลื่นไถล ระบบจะส่งแรงเบรกไปยังล้อนั้น

●   ระบบกันสะเทือนปรับความนุ่มมาพอเหมาะสำหรับรถกระบะ 4 ประตู ที่เน้นโดยสารมากกว่าบรรทุกของ บนทางเรียบใช้ความเร็วปกติขับนุ่มนั่งสบายไม่ดีดเด้ง ให้ความรู้สึกใกล้เคียงเอสยูวี การทรงตัวทำได้ดี ไม่โยนหรือเหวี่ยงมากขณะเข้าโค้ง มารู้สึกถึงบุคลิกของรถกระบะที่ยังติดมานิดๆ เวลาขับผ่านทางขรุขระ และในบางจังหวะรู้สึกว่ายวบยาบไปนิด เหมือนช๊อกฯ จะมีความหนืดน้อยไปหน่อย

●   พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ การตอบสนองอยู่ในระดับกลางๆ เน้นขับสบายผ่อนคลาย ชอบใจตรงที่การหมุนพวงมาลัยมีความต่อเนื่องราบเรียบ แปรผันการผ่อนแรงได้ดี ขับความเร็วต่ำพวงมาลัยเบาควบคุมรถคันใหญ่ได้ง่ายคล่องแคล่ว ขับความเร็วสูงพวงมาลัยหนืดมือมั่นคง ระบบเบรกเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ขับรถรุ่นนี้ได้อย่างมั่นใจ เบรกหน้าดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัมเบรก มี ABS, EBD และ BA เหมือนรถกระบะส่วนใหญ่ แต่ผลงานดีมาก สร้างแรงเบรกได้หนักหน่วง ดึงรถคันใหญ่ให้ช้าลงได้อย่างมั่นคง และที่สำคัญคือ สร้างแรงเบรกได้สัมพันธ์กับน้ำหนักเท้า เบรกได้นุ่มนวลปลอดภัยตั้งแต่ครั้งแรกที่ขับ ไม่ต้องปรับตัวกันนาน

●   นิสสัน นาวาร่า ดับเบิลแค็บ 4WD VL 7AT รถกระบะ 4 ประตู ที่ให้คุณภาพการขับที่ดี ละเอียดนุ่มนวลขับสบาย อุปกรณ์มาตรฐานครบครันทั้งเพื่อความสะดวกสบายและเพื่อความปลอดภัย ห้องโดยสารเนี๊ยบ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังตอบสนองทันใจ รูปลักษณ์และการดีไซน์อาจไม่เตะตา แต่เชื่อว่าคุณภาพน่าจะโดนใจ ถ้ากำลังมองหากระบะ 4 ประตู ลองขับนิสสัน นาวาร่า ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ   ●


Specification: Nissan Navara Double Cab VL 7AT 4WD

•   แบบตัวถัง กระบะ 4 ประตู
•   ยาว x กว้าง x สูง 5,255 x 1,850 x 1,790 มิลลิเมตร
•   ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,570/1,570 มิลลิเมตร
•   ฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร
•   ระยะต่ำสุด 220 มิลลิเมตร
•   น้ำหนัก 2,035 กิโลกรัม
•   แบบเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์
•   ความจุ 2,488 ซีซี
•   กระบอกสูบ x ช่วงชัก 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร
•   อัตราส่วนการอัด 15.0:1
•   กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที
•   ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode
•   ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
•   ระบบบังคับเลี้ยว แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์
•   ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
•   ระบบกันสะเทือนหลัง คานแข็ง แหนบซ้อน พร้อม VDC, HAS, HDC และ TCS
•   ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัม พร้อม ABS, EBD และ BA
•   ผู้จำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
•   โทรศัพท์ ลูกค้าสัมพันธ์ 02-401-9600
•   เวบไซต์ www.nissan.co.th.


2018 Nissan Navara Double Cab 4WD VL 7AT