June 27, 2018
Motortrivia Team (10069 articles)

60 ปี Subaru ย้อนอดีตสู่จุดเริ่มต้นของหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตระดับโลก

Posted by : AREA 54

 

ย้อนอดีตสู่จุดเริ่มต้น…

●   หลังจากการทดสอบรถต้นแบบมานานหลายปี Fuji Heavy Industries หรือ FHI บริษัทผู้ผลิตอากาศยานได้ทำการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรกออกจำหน่ายในปี 1958 โดย Subaru 360 ที่มีชื่อเล่นว่า Ladybird ตามรูปร่างของรถ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยความสะดวกสบายและเสถียรภาพในการขับที่เป็นเยี่ยม

●   แม้ว่า Subaru 360 จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในช่วงเวลานั้น ทว่า FHI ได้มองเห็นโอกาสในการทำตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กด้วย และได้ทำการพัฒนาไมโครแวน Subaru Sambar ขึ้นมาในปี 1961 จุดเด่นของรถบรรทุกขนาดเล็กรุ่นนี้ก็คือ มันสามารถขับลัดเลาะไปตามมุมถนนแคบๆ ได้ มีพื้นรถที่สูงจากพื้นดินหรือมีเป็นระยะตํ่าสุดใต้ท้องรถที่มากพอ และยังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับรถบรรทุกขนาดเล็กแบบขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น


Subaru Sambar


●   Subaru Sambar นับเป็นรถในคลาส Kei Car ที่ทำตลาดในช่วงปี 1961 จนถึง 2012 ผ่านการเปลี่ยนโฉมมาแล้วถึง 8 เจนเนอเรชั่น โดยหลังจากการเปิดตัว Sambar เจนเนเรชั่นแรกไม่นาน Sambar Light Van ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั้งในด้านอุตสาหกรรม และเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ก็ได้รับการเปิดตัวหลังจากนั้นไม่นาน และช่วยเน้นยํ้าถึงสถานะของซูบารุในฐานะผู้ผลิตรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กให้เด่นชัดยิ่งขึ้น


Subaru 360


เทคโนโลยีที่ปรับตัวตามยุคสมัย

●   ในปี 1966 FHI ได้เปิดตัวรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรกที่ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ Boxer ปัจจุบันเครื่องยนต์สูบนอนยันอันเป็นเอกลักษณ์นี้ ยังคงเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของรถยนต์ที่ผลิตภายใต้แบรนด์ซูบารุทุกรุ่น

●   Subaru 1000 ซึ่งผลิตจากโรงงานในเมืองยาจิม่า มีห้องโดยสารที่สะดวกสบาย และมากับทางเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวถัง 2 ประตูคูเป้, 4 ประตูซีดาน หรือสเตชั่นแวกอน เครื่องยนต์บล็อคนี้อยู่ในตระกูล Subaru EA engine มันเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบนอน ความจุ 1.0 ลิตรที่มาพร้อมเทคโนโลยี OHV ระบายความร้อนด้วยน้ำ และมีกำลังให้ใช้งาน 54 แรงม้า


Subaru 1000


●   หลังจากนั้นไม่กี่ปี ซูบารุได้เปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นแรก นั่นก็คือ Subaru Leone ซึ่งในช่วงเวลานั้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อยังจำกัดอยู่เฉพาะในรถยนต์แบบออฟ-โรด Leone จึงเหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องใช้งานในพื้นที่ที่มีอุปสรรคเช่น หิมะ ภูเขา และผู้ขับที่ต้องการรถอเนกประสงค์สำหรับการบรรทุกสัมภาระต่างๆ สำหรับเล่นกีฬากลางแจ้ง

●   ไม่นานนัก Leone 4WD Station Wagon ก็กลายเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาจากโรงงานที่กลายเป็นรถรุ่นขายดีติดอันดับโลกตามที่ FHI คาดการณ์ไว้ และนี่ยังนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร หรือ Subaru Symmetrical All-Wheel Drive (AWD) อันเลื่องชื่อของซูบารุด้วย


Subaru Leone


●   เพื่อให้เทคโนโลยีที่มีอยู่สมบูรณ์พร้อมมากยิ่งขึ้น ซูบารุจึงได้พัฒนาระบบส่งกำลังที่สามารถแปรผันอัตราทดได้ต่อเนื่อง และควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า หรือ ECVT (electronically controlled, continuously variable transmission) เป็นรุ่นแรกของโลกขึ้นในปี 1984 ชุดระบบเกียร์ที่ทันสมัยนี้อาศัยสายพานโลหะแบบพิเศษ และใช้พูลเลย์คู่เพื่อช่วยให้รถยนต์สามารถเปลี่ยนระดับความเร็วได้โดยอัตโนมัติตามอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสมที่สุด

●   หลังจากนั้นไม่นาน Subaru Justy รถแฮทช์แบคในกลุ่มซับคอมแพคท์ที่ติดตั้งระบบเกียร์ ECVT ของซูบารุก็ได้รับการเปิดตัวออกสู่ตลาด


Subaru Rex


วิศวกรรมเพื่อความตื่นเต้นเร้าใจ

●   ซูบารุนั้นต้องการที่จะพัฒนารถยนต์ที่ขับสนุกและเร้าใจ ควบคู่ไปกับประโยชน์ใช้สอยที่ได้มาตรฐาน โดยหลังจากการทำตลาด Kei Car คันจิ๋ว Subaru R-2 ในปี 1969 ซูบารุก็ได้เปิดตัว Subaru Rex รุ่นแรกในปี 1972 เป็นรุ่นต่อมา

●   Rex เป็นรถแฮทช์แบ็คขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานใน “ยุคทางหลวง” ในช่วงยุคทศวรรษ 70s หรือ 1970s-era highway มันได้รับความนิยมกว้างขวางในหมู่ผู้ใช้งานทั่วไปด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามแบบฉบับของซูบารุ เช่น ความคล่องตัว เสถียรภาพการทรงตัว ความสะดวกสบายในการขับ และแน่นอนว่ามันประหยัดเชื้อเพลิง ทั้งยังมีตัวถังให้เลือกครบถ้วน ทั้งซีดาน แฮทช์แบ๊ค และแวกอน

●   แล้วในช่วงปี 1989 ซูบารุได้ก็ได้เปิดตัวหนึ่งในรถรุ่นสำคัญอย่าง Subaru Legacy ซึ่งผสานรวมเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ากับสมรรถนะการขับที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ปัจจุบัน Legacy ยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นรถที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในกลุ่มรถของซูบารุเอง รวมทั้งรถในคลาสเดียวกันจากแบรนด์ผู้ผลิตอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ Legacy ยังได้รับรางวัลภาคอุตสาหกรรมมาแล้วมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา


Subaru Legacy


สู่อีกหนึ่งตำนานของวงการรถยนต์

●   ช่วงปี 1990 เป็นทศวรรษแห่งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นยอดนิยมหลายรุ่นจากซูบารุ เช่น Subaru Impreza, Legacy Grand Wagon (หรือรุ่น Outback) และ Forester โดยรถรุ่นสำคัญอย่าง Impreza เปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 กับ 2 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ ตัวถังซีดาน 4 ประตู และตัวถังสปอร์ตแวกอน แม้ว่าเครื่องยนต์, ระบบกันสะเทือน และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จะคล้ายคลึงกับที่ใช้งานอยู่ใน Legacy ทว่า Impreza นั้นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังขนาดกะทัดรัด และมีความเป็นรถสปอร์ตพันธุ์แท้มากกว่า

●   นอกจากนี้ Impreza ยังมีพละกำลังให้ใช้งานอย่างเหลือเฟือ มีเทอร์โบชาร์จช่วยอัดอากาศ ช่วยให้ผู้ขับสามารถสัมผัสสมรรถนะของรถได้เต็มที่ตามแบบของรถสปอร์ต และนั่นทำให้ Impreza แตกต่างไปจากรถซีดาน หรือสเตชันแวกอนแบรนด์อื่นๆ ที่ทำตลาดในกลุ่มเดียวกัน

●   นอกจากนี้ Impreza ยังโลดแล่นอยู่ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตสปอร์ตอย่างโดดเด่น ผ่านการแข่งขันแรลลี่ทางฝุ่น WRC : World Rally Championship ในปี 1993 ในนามทีม Subaru World Rally Team และทำให้พื้นสีตัวถังน้ำเงินแถบเหลืองเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้


Subaru Outback


●   หลังจากนั้นหนึ่งปี Legacy Grand Wagon หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Outback ในตลาดต่างประเทศก็ได้รับการเปิดตัวในปี 1993 รถรุ่นนี้ผสานสมรรถนะเข้ากับความเอนกประสงค์ที่ใช้งานได้จริงเอาไว้ในหนึ่งเดียว มันมีความสมดุลที่ลงตัวอย่างยิ่งยวดระหว่างความสามารถในด้านประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ และยังมีพื้นที่ใช้สอยภายในรถให้มากมาย

●   ต่อมาในปี 1997 ซูบารุได้เปิดตัวรุ่น Subaru Forester เพื่อทำตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง Forester รวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 ด้านให้กับผู้ขับ ซึ่งได้แก่สมรรถนะในการขับที่เหนือระดับในสภาพถนนที่ไม่เอื้ออำนวย โดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายและเสถียรภาพการทรงตัว


Subaru Impreza


ยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย

●   เข้าสู่สหัสวรรษใหม่… ซูบารุยังคงมีการพัฒนาคุณภาพของรถอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัยและมาตรฐานทางอุตสาหกรรม โดยทำการเปิดตัว Impreza รุ่นที่ 2 และได้แนะนำโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบวงแหวน ซึ่งสามารถให้การปกป้องได้มากขึ้นในกรณีที่เกิดการชน

●   ชุดระบบ SI-DRIVE (Subaru Intelligent Drive) เปิดตัวในอีกไม่กี่ปีถัดมาเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ขับกับรถยนต์ ตัวระบบได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกใน Legacy และ Outback ในปี 2007 และมันยังคงให้ประสิทธิภาพในการขับที่ไว้ใจได้ด้วยเครื่องยนต์ความจุ 3.0 ลิตร ทั้งนี้ผู้ขับยังสามารถเลือกการทำงานที่ต่างกันได้ 3 โหมดตามลักษณะการขับ

●   อีกหนึ่งเทคโนโลยียุคใหม่ที่สำคัญที่สุดของซูบารุคือ เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับ EyeSight ที่ได้รับการเปิดตัวในเวลาต่อมา EyeSight เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีหลักจากซูบารุที่มีการเริ่มค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับระบบช่วยเหลือผู้ขับมาตั้งแต่ช่วงปี 1989 จนกระทั่งมาเป็น EyeSight รุ่นแรกซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือแรกสุดที่ใช้ควบคุมการทำงานของกล้องสเตอริโอ และกล้องที่ออกแบบมาเป็นพิเศษนี้สามารถประมวลผลข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันเป็นมุมมองกว้างได้ในลักษณะเดียวกับดวงตาของคน

●   ตลอด 2 ทศวรรษต่อมา ซูบารุได้ปรับแต่งเทคโนโลยีของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มระบบควบคุมความเร็วแบบปรับความเร็วอัตโนมัติ, ระบบช่วยตรวจจับคนเดินเท้า และระบบจัดการกำลังเครื่องยนต์ก่อนชน ปัจจุบัน EyeSight พัฒนาไปสู่ระบบขั้นสูง (ADAS : Advanced driver-assistance systems) ที่สามารถประมวลผลชุดข้อมูลหลายล้านชุดได้อย่างต่อเนื่องทุกวินาที เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับทันทีที่พบสัญญาณของอันตราย

●   ในยุคแรก EyeSight ยังถูกเรียกว่าระบบประเภท ADA หรือ Active Driving Assist ก่อนจะมีการพัฒนาความสามารถขึ้นมาเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นหนึ่งในชุดระบบช่วยขับยุคใหม่อย่าง ADAS หรือ Advanced driver-assistance systems ซึ่งเราจะได้เห็นศัพท์นี้กันมากขึ้นในชุดระบบช่วยขับของรถยนต์ทุกแบรนด์ผู้ผลิต ดังนั้น EyeSight ก็คือชื่อทางการค้าของชุดระบบในลักษณะ ADAS ของซูบารุนั่นเอง

●   รถยนต์ของซูบารุทุกรุ่นในปี 2017 ที่ติดตั้งเทคโนโลยี EyeSight ได้รับการจัดอันดับสูงสุดในด้านการป้องกันการชนจากด้านหน้า โดยสถาบันประกันความปลอดภัยบนทางหลวง (IIHS) ของสหรัฐอเมริกาประจำปี 2017


Subaru XV


การออกแบบเพื่ออนาคต

●   ซูบารุเผยโฉม Subaru XV เป็นครั้งแรกในปี 2011 โดยใช้แนวคิดการออกแบบใหม่ที่ผสานประโยชน์ใช้สอยในแบบฉบับรถของ SUV เข้ากับสไตล์การออกแบบใหม่ รวมทั้งให้สมรรถนะในการขับที่ไว้ใจได้ XV สามารถตอบโจทย์การใช้งานในเมือง และการใช้งานในแบบสันทนาการ ปัจจุบัน XV ยังคงเป็นรถที่แข็งแกร่งที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์กลุ่มเดียวกัน และได้รับรางวัลมาแล้วมากมายทั้งในด้านการออกแบบและความปลอดภัย


Subaru Global Platform


●   ในปี 2016 ซูบารุได้เปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุด Subaru Global Platform ที่จะนำมาใช้เป็นระบบโครงสร้างสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นในอนาคต โดยมีแนวคิดด้านวิศวกรรมที่ก้าวล้ำในการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของตัวถังและแชสซีส์ เพื่อวางแนวทางให้กับรถยนต์รุ่นต่อๆ ไปของซูบารุ

●   Subaru Global Platform นับเป็นแพลทฟอร์มรุ่นล่าสุดที่ซูบารุใช้งานใน Subaru Impreza รุ่นปี 2017 เป็นรุ่นแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานระยะกลาง Prominence 2020 ที่ซูบารุประกาศวิสัยทัศน์เอาไว้ในช่วงปี 2014 โดยนับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องมาจากการพัฒนาเครื่องยนต์สูบนอน Boxer, ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive และชุดระบบความปลอดภัย EyeSight นั่นเอง

●   จุดเด่นของ Global Platform คือ การเพิ่มคุณภาพในการขับ และการยกระดับความปลอดภัยให้เหนือกว่ารถที่จำหน่ายในปัจจุบัน พื้นฐานแพลทฟอร์มมีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดแปลงไปใช้กับรถรุ่นอื่นๆ ได้ในอนาคต และยังสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือไฟฟ้าล้วนแบบแบตเตอรี่ (battery electric vehicle) ได้ด้วย

●   ซูบารุระบุว่า แพลทฟอร์มใหม่นี้เมื่อนำมาใช้งานจริงจะเพิ่มคุณภาพในการขับได้ดีขึ้นกว่าเดิม ให้ความนุ่มนวลยิ่งขึ้นเมื่อติดตั้งช่วงล่างแบบใหม่ เสียงและการสั่นสะเทือนในห้องโดยสารลดลง โดยเฉพาะแรงสั่นสะเทือนในขณะขับที่พวงมาลัย, พื้นห้องโดยสาร และเบาะนั่ง เมื่อเทียบกับรถรุ่นปัจจุบัน (ของซูบารุเอง) บอดี้และแชสซีส์มีความแข็งแรงขึ้น 70 – 100% รับแรงบิดตัวได้ดีขึ้น 70% ลดอาการโคลงได้ 50% และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง 5 มม.

●   ทั้งนี้ Subaru Global Platform ถูกออกแบบบนพื้นฐานของแนวคิดที่มีความสมบูรณ์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความมั่นใจในการขับ (Confidence), ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active safety), ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive safety) และปิดท้ายด้วยความสะดวกสบาย (Comfort)   ●

เกี่ยวกับตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล

●   Tan Chong International (HKSE: 0693) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงและเป็น บริษัทสำคัญในภาคธุรกิจยานยนตร์ สังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการจัดจำหน่าย ที่มีการดำเนินงานในสิงคโปร์กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2500 ทรัพย์สินของบริษัทในเครือมีการเติบโตอย่างมากโดยการขยายธุรกิจที่หลากหลายขึ้นและทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการผลิต การจัดจำหน่ายและการค้าปลีก

เกี่ยวกับมอเตอร์ อิมเมจ

●   มอเตอร์ อิมเมจ เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 โดยมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และเปิดสาขาในประเทศกัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศจีนตอนใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ เป็นบริษัทลูกในเครือของ Tan Chong International Limited (TCIL) ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกง ที่ร่วมมือกับ Subaru Corporation ที่ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Fuji Heavy Industries เมื่อไม่นานมานี้ ในการประกอบรถยนต์ซูบารุภายในประเทศมาเลเซีย มีการลงนามในข้อตกลงในเดือนกรกฎาคม 2554 ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเน้นการใช้ประโยชน์ของโรงงานประกอบรถยนต์ยี่ห้อซูบารุที่มีอยู่แล้วของตันจงเพื่อการทำตลาด และจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย และในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 Subaru Corporation ได้ประกาศร่วมทุนกับ TC Manufacturing and Assembly (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ Tan Chong International Limited (TCIL) เพื่อการประกอบรถยนต์ซูบารุในไทย และกระจายสู่ตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รถยนต์ซูบารุที่ผลิตขึ้นในมาเลเซียและไทยจะถูกจัดจำหน่ายโดยมอเตอร์ อิมเมจ ผ่านเครือข่ายของซูบารุ

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ซูบารุ ประเทศไทย เชิญได้ที่ sites.subaru.asia/th   ●