June 26, 2018
Motortrivia Team (10167 articles)

2019 Brabham BT62 อยากลุย Le Mans ภายใต้กฏใหม่ในปี 2020

Posted by : AREA 54

 

●   David Brabham บุตรชายของ Sir Jack Brabham อดีตแชมป์ F1 สามสมัยแห่งทีม Brabham (ออกเสียง : บรา-บรัม) ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปในช่วงปี 2014 ตอบรับกฏใหม่ของ FIA ที่เตรียมปรับการแข่งขันรุ่น LMP1 ในรายการ WEC (FIA World Endurance Championship) ไปเป็นการแข่งขันด้วยรถไฮเปอร์คาร์ล้วนๆ โดยแสดงเจตจำนงค์ว่าต้องการลงแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมงในอนาคตด้วย Brabham BT62 ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์แบบ Track-Only ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา

●   David Brabham นั้นตามรอยบิดาด้วยการลงแข่งอาชีพมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 โดยในปี 2009 เขาสามารถคว้าแชมป์คลาส LMP1 ในรายการ 24 Hours of Le Mans ในฐานะหนึ่งใน 3 นักขับของทีมโรงงาน Peugeot Sport Total (ซึ่งเป็นยุคที่เปอโยท์และออดี้ต่อสู้กันได้ตื่นตาตื่นใจจริงๆ) ส่วนครั้งล่าสุดที่ Brabham ลงแข่ง Le Mans คือปี 2012 ร่วมกับทีม JRM และจบการแข่งขันในลำดับที่ 6 แบบโอเวอร์ออล

●   ตัว Brabham นั้นมีความชัดเจนในโลกของยานยนต์มากกว่าพี่ชายคือ Gary Brabham ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จนักในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต เขาประกาศเปิดตัวบริษัทผลิตรถยนต์ในนาม Brabham Automotive Ltd เมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วินเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร ซึ่งรถรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ใหม่นี้ก็คือ Brabham BT62 ซูเปอร์คาร์ที่เน้นการใช้งานบนแทร็คเป็นหลักนั่นเอง

●   Brabham BT62 เป็นซูเปอร์คาร์น้ำหนักเบาที่มากับแพคเกจแอโรไดนามิคเต็มรูปแบบ บอดี้ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ผสานด้วยแอโรแพคเกจคาร์บอนเคฟล่า ล้อ 18 นิ้วแบบเซ็นเตอร์ล็อค จับคู่ยางรุ่นพิเศษที่ออกแบบและผลิตโดย MICHELIN ตัวรถมีน้ำหนักตัวเปล่าๆ แบบไม่รวมของเหลวเพียง 972 กก. Brabham ระบุว่ามันควรจะ สร้างแรงกด ได้ไม่น้อยกว่า 1,200 กก. ในขณะที่ใช้ความเร็วสูงสุด

●   BT62 เวอร์ชั่นพื้นฐานสามารถลงแทร็คได้ทันที (หากต้องการ) ห้องโดยสารออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์พื้นฐานครบตามสเปคของ FIA ไม่ว่าจะเป็นเบาะคาร์บอนไฟเบอร์ทรงบัคเก็ท, โรลล์เคจ, ถังดับเพลิง หรือเข็มขัดนิรภัย 6 จุด… แต่เราก็รู้กันดีอยู่ว่าในความเป็นจริงมันจะต้องถูกโมดิฟายลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปอีกมากมาย อย่างไรก็ตามจอบอกข้อมูลแบบฟูลดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว หลังวงพวงมาลัยจะสามารถใช้งานได้จริง สิ่งที่เพิ่มเติมมีเพียงการเชื่อมต่อข้อมูลกับทีมงานเท่านั้น

●   รถเดิมๆ จากโรงงาน ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ V8 ความจุ 5.4 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ กำลังสูงสุดผลิตได้ 710 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 68 กก.-ม. จับคู่ระบบส่งกำลังแบบซีเควนเชียล 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง ชุดช่วงล่างเป็นแบบดับเบิลวิชโบน เสริมด้วยกันโคลงที่ปรับค่าได้, แดมเปอร์ของ Ohlins และใช้ชุดเบรคสมรรถนะสูงแบบคาร์บอนเซรามิค คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบของ Brembo มาช่วยหยุดกำลังของรถ

●   อย่างไรก็ตาม หาก Brabham ต้องการนำ BT62 ลงไปวิ่ง Le Mans จริง ตามกฏพื้นฐาน (ซึ่งต้องรอรายละเอียดทั้งหมดในช่วงปลายปี 2018) ก็จำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนให้เป็นแบบไฮบริดที่เชื่อมกับระบบสำรองพลังงาน และช่วยเพิ่มกำลังในบางจังหวะในลักษณะเดียวกับ (หรือทำงานคล้ายๆ กับ) KERS เสียก่อน และมีระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อด้วย

●   Brabham BT62 จะจำกัดการผลิตเอาไว้ที่ 70 คันเท่านั้น โดย 35 คันแรกจะตกแต่งด้วยลวดลายพิเศษที่สื่อถึงชัยชนะของ Brabham ในการแข่งขัน F1 ทีมแข่งที่ต้องการนำรถรุ่นนี้ไปลงวิ่งแทร็คจะต้องจ่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านปอนด์ หรือราว 43.8 ล้านบาทครับ   ●


2019 Brabham BT62