June 22, 2018
Motortrivia Team (10167 articles)

2019 Volvo S60 เจนเนอเรชั่น 3 พร้อมทำตลาดด้วยรุ่น plug-in เป็นหลัก

Posted by : AREA 54

 

●   วอลโว่เปิดตัวซาลูนหรูไซส์คอมแพคท์รุ่นใหม่ล่าสุด Volvo S60 เจนเนอเรชั่น 3 โดยมีการเตรียมตัวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าในอนาคตด้วยการตัดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทิ้งไป แล้วทำตลาดด้วยชุดระบบขับเคลื่อน plug-in hybrid เป็นหลัก โดยในสหรัฐฯ นั้น S60 ใหม่จะเป็นรถรุ่นแรกที่มีการผลิตขึ้นในโรงงานที่เมืองริดจ์วิลล์ รัฐเซาท์ แคโรไลนา ซึ่งวอลโว่ระบุว่าโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 6 หมื่นคันต่อปี สำหรับการจำหน่ายในสหรัฐฯ เองและสำหรับการส่งออก

●   S60 ใหม่จะถูกนับเป็นรถยนต์รุ่นแรกในแผนงานเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในระยะยาวของวอลโว่ในอนาคต (ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในที่นี้หมายถึง plug-in hybrid จะเป็นรถรุ่นพื้นฐาน ไม่ได้หมายถึง BEV ล้วนๆ เพียงอย่างเดียว) และยังนับเป็นรถรุ่นแรกของแบรนด์วอลโว่ที่จะไม่มีการทำตลาดด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเป็นทางเลือกใดๆ ในทุกภูมิภาคทั่วโลกด้วย

●   งานออกแบบของ S60 ใหม่เห็นได้ชัดว่าหยิบยืมรูปแบบมาจากรถธงรุ่นใหญ่อย่าง Volvo S90 จุดเด่นคือการลดขนาดความกว้างของชุดกระจังหน้า แล้วเพิ่มความยาวของชุดไฟหน้า LED ทรง Hammer of Thor ซึ่งช่วยให้ภาพลักษณ์ดูมีความสปอร์ต สมส่วน และปราดเปรียวกว่าเดิมมาก ตัวรถพัฒนาขึ้นบทแพลทฟอร์ม SPA หรือ Scalable Product Architecture platform ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการปรับมาใช้กับรถในคลาสต่างๆ ได้สูง ปัจจุบันแพลทฟอร์มนี้ใช้งานอยู่ใน Volvo V60, XC60 และรถธงอย่าง S90 รวมถึง รถของแบรนด์ Polestar ซึ่งเพิ่งแยกตัวออกไปเป็นซับ-แบรนด์ด้วย

●   ในเบื้องต้น วอลโว่จะทำตลาด S60 ด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยีที่มีชื่อทางการค้าว่า Twin Engine เป็นหลัก ซึ่งแฟนๆ ของวอลโว่คงจะจำกันได้ว่าเทคโนโลยีนี้ได้เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ช่วงปี 2015 กับ Volvo XC90 ซึ่งรหัส T8 ในขณะนั้น ใช้แทนความหมายของระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้า, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถสมรรถนะสูงในหนึ่งเดียวนั่นเอง โดยในช่วงเปิดตัว S60 จะมีรุ่นเครื่องยนต์ T6 Twin Engine PHEV พร้อมระบบอัดอากาศ 2 ระบบ เทอร์โบชาร์จ 2 ตัว + ซูเปอร์ชาร์จ 1 ตัว หมุนล้อแบบ AWD กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (HP) และ T8 Twin Engine PHEV AWD กำลังสูงสุด 400 แรงม้า

●   นอกจากนี้ S60 ยังจะมีรุ่นสปอร์ตที่อัพเกรดแฮนด์ลิ่งให้ในชื่อ Volvo S60 Polestar Engineered ด้วย ตัวรถใช้กำลังจากเครื่องยนต์ T8 Twin Engine PHEV AWD กำลังสูงสุด 415 แรงม้า พร้อมปรับจูนช่วงล่าง, เบรค, ชุดระบบกันสะเทือน และรีดกำลังด้วยการจูน ECU ใหม่ โดยจะทำตลาดในฐานะรุ่น top-of-the-line ของ S60 ทว่างานออกแบบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่นัก เนื่องจากภาพลักษณ์โดยรวมนั้นหยิบยืมมาจาก Polestar 1 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ซึ่งจุดประสงค์หลักของวอลโว่ก็คือการแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดมาจากกลุ่มลูกค้า M ของบีเอ็มดับเบิลยู และ AMG ของเมอร์เซเดสนั่นเอง

●   จุดเด่นอื่นๆ ยังคงเป็นชุดระบบความปลอดภัย ซึ่ง S60 จะมากับระบบ City Safety with Autobrake ช่วยป้องกันการชนและช่วยเบรคอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ ซึ่งควบรวมระบบตรวจจับคนเดินถนน จักรยาน และสัตว์ใหญ่ เอาไว้ในหน่วยเดียว รวมถึงชุดระบบเจนเนอเรชั่นใหม่ที่เริ่มใช้ใน XC60 อย่างระบบ Steer Assist ช่วยควบคุมพวงมาลัยในบางจังหวะหากตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และระบบ Oncoming Lane Mitigation ช่วยเตือนเมื่ออาจเกิดการปะทะด้านหน้า ซึ่งนอกจากจะส่งสัญญาณเตือนและสั่งงานระบบเบรคเพื่อลดแรงปะทะแล้ว จะมีการช่วยหักหลบพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ

●   นอกจากนี้ยังมี ระบบ Run-Off Road Mitigation ป้องกันรถวิ่งออกนอกช่องทาง, ระบบ Cross Traffic Alert with autobrake แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยออกจากที่จอด พร้อมช่วยเบรคอัตโนมัติในกรณีที่ผู้ขับตอบสนองไม่ทันต่อสถานการณ์ และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Park Assist Pilot ด้วย

●   ส่วน ชุดระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ ที่วอลโว่ใช้ชื่อทางการค้าว่า Pilot Assist จะยังคงเป็นออปชั่นติดตั้งเพิ่ม ตัวระบบอนุญาตให้ผู้ขับละมือจากพวงมาลัยได้บนเส้นทางที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ทำงานโดยอาศัยการคำนวณเส้นทางของระบบนำทาง ใช้งานถึงความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 130 กม./ชม. เมื่อระบบตรวจพบความเป็นไปได้ในการใช้งานและเข้าสู่โหมดเตรียมพร้อม ไฟบนแพดเดิลชิฟท์ทั้ง 2 ฝั่งจะกระพริบเตือนเป็นอันดับแรก หากต้องการใช้งาน ผู้ขับเพียงแค่ดึงแพดเดิลชิฟท์ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกัน เมื่อไฟหยุดกระพริบและสว่างตลอดเวลา หมายถึงระบบอัตโนมัติจะเริ่มทำงาน ผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้ แต่หากระบบอัตโนมัติพบว่าไม่สามารถระบุเส้นทางต่อไปได้ ระบบจะแสดงผลด้วยการนับถอยหลัง 60 วินาทีบนมาตรวัด หากผู้ขับไม่มีการตอบสนองในการเข้าควบคุมรถแทนที่ระบบอัตโนมัติ ระบบจะสั่งงานให้ตัวรถจอดเข้าข้างทางในจุดที่ปลอดภัยทันที

●   ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Sensus Connect ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตัวระบบอัพเกรดซอฟท์แวร์ใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี 4G มีฟังก์ชั่น Android Auto และ Apple CarPlay สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนมาให้ โดยจอกลางยังคงเป็นทรงตั้งในลักษณะ Tablet ที่มีอินเตอร์เฟซแบบเน้นการใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถ, ระบบนำทาง และระบบความบันเทิง

●   วอลโว่จะเริ่มผลิตและจำหน่าย S60 ในสหรัฐภายในปี 2018 นี้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 35,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาทครับ… บ้านเราไม่นานเกินรอได้สัมผัสกันแน่   ●


2019 Volvo S60