2019 Bugatti Divo จำกัดจำนวนเพียงน้อยนิด เน้นผลิตเพื่อนักสะสม
Press Release
● Bugatti Automobiles S.A.S. ผู้ผลิตสปอร์ตสมรรถนะสูงสัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัวสปอร์ตทรงสวยรุ่นใหม่ Bugatti Divo (ดีโว) แบบจำกัดจำนวน พร้อมจัดแสดงในงาน 2018 Pebble Beach Concours d’Elegance แคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ตัวรถให้ความรู้สึกล้ำสมัยคล้ายๆ กับต้นแบบในโลกเสมือนอย่าง Bugatti Vision Gran Turismo Concept ในปี 2015 และดูดีกว่าสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดในสายการผลิตอย่าง Bugatti Chiron (ชีออง) เองเสียอีก
● ชื่อของ Divo นำมาจากชื่อของนักแข่งทางเรียบและฮิลไคลมบ์ในอดีต Albert Eugene Diwo (Albert Divo ชื่อเต็มสะกดด้วย W) ซึ่งเป็นนักแข่งในสังกัดทีมโรงงานบูกัตติระหว่างปี 1928 – 1933 และคว้าแชมป์เอนดูรานซ์รายการ Targa Florio ในนามทีมบูกัตติ 2 สมัย (1928 – 1929) ด้วยตัวแข่ง Bugatti Type 35B และ Bugatti Type 35C ตามลำดับ ก่อนจะรีไทร์ไปในช่วงปี 1939 และเสียชีวิตในปี 1966 ด้วยวัย 71 ปี
● Divo พัฒนาขึ้นบนแชสซีส์ของ Chiron นั่นเอง ทว่ามีการออกแบบบอดี้ใหม่ แม้จะมีรูปแบบบางส่วนที่อิงมาจาก Chiron แต่ Divo นั้นดูดีกว่ามาก อีกทั้งแพคเกจแอร์โรไดนามิกส์ใหม่รอบคัน ส่วนประกอบสำคัญคือช่องรับอากาศด้านหน้าขนาดใหญ่ และการขยายขนาดสปอยเลอร์หน้าที่ช่วยเพิ่ม ดาวน์ฟอร์ซ ให้กับ Divo อีก +90 กก. พร้อมๆ กับเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนไปด้วยในตัว นอกจากนี้บูกัตติยังทำการเพิ่มช่องทางวิ่งของอากาศขนาดเล็กแบบแยกอิสระอีก 4 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้กับชุดเบรคด้วย
● นอกจากนี้บูกัตติยังออกแบบช่องระบายอากาศแบบนาคา (NACA duct) ที่บริเวณหลังคาให้ทำงานร่วมกับฝาปิดห้องเครื่องยนต์แบบใหม่ทางด้านท้าย เพื่อเพิ่มปริมาณอากาศจำนวน “มหาศาล” (ตามข้อมูลของบูกัตติ) ในขณะรถเคลื่อนที่ ยังผลให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนจนเกินไป และมีอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์หลังที่ขยายขนาดความกว้าง 23% เมื่อเทียบกับ Chiron ซึ่งทำหน้าที่เป็นแอร์เบรคเพิ่มเติมนอกเหนือจากการสร้างแรงกด
● พละกำลังของ Divo ยังคงมาจากเครื่องยนต์เดิม เบนซิน W16 สูบ ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว แยกการทำงานเป็น two-stage turbocharging 2 ชุด กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 163 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. น้อยกว่า 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดเอาไว้ที่ 380 กม./ชม. เท่านั้น ไม่มีโหมดสำหรับปลดล็อคความเร็วให้ (Chiron มีตัวเลขท๊อปสปีดประมาณ 420 กม./ชม.)
● บูกัตติระบุว่า นั่นเป็นเพราะ Divo ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้วิ่งไปตะบึงไปบนทางตรงดื้อๆ แต่ Divo ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับได้รับอรรถรสในการขับจากประสิทธิภาพในการควบคุม มีความคม คล่องตัว และปราดเปรียว… เพื่อการนี้บูกัตติได้ทำการโมดิฟายช่วงล่างใหม่ จูนการตอบสนองของพวงมาลัยและชุดระบบกันสะเทือนใหม่ ปรับมุมแคมเบอร์ใหม่ โดยในขณะเข้าโค้งนั้นอัตราเร่งทางด้านข้าง หรือ lateral acceleration ที่กระทำกับตัวรถ (และส่งผลไปยังร่างกายของผู้ขับ เช่น การเหวี่ยงตัว) จะมีถึง 1.6 G
● นอกจากนี้ในการวิ่งทดลองที่สนามทดสอบความเร็วสูง Nardo Ring ที่อิตาลี Divo ซึ่งมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า Chiron ราว 35 กก. ยังสามารถทำเวลาได้ดีกว่า Chiron ถึง 8 วินาทีด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่บูกัตติมั่นใจว่า ความคล่องตัวในขณะใช้ความเร็วสูงบนแทร็คที่มีความคดเคี้ยว มีความสำคัญมากกว่าความเร็วสูงสุดบนทางตรง
● บูกัตติจะเริ่มผลิต Divo ในอนาคตอันใกล้ เบื้องต้นจำนวนการผลิตจะถูกจำกัดเอาไว้ที่ 40 คันเท่านั้น (Chiron ตั้งเป้าผลิตไม่เกิน 500 คัน) ราคาจำหน่ายแบบไม่รวมการตกแต่งใดๆ เพิ่มเติมจากแผนก Bespoke เริ่มต้นที่ 5 ล้านยูโร หรือประมาณ 190 ล้านบาทครับ ●