Formula One News : อัพเดทความเคลื่อนไหว 8-8-2018

Posted by : FascinatorFJ.

แซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ จากไปแต่ผลงานยังคงอยู่

●   อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วครับ แซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ อดีตประธานเฟอร์รารีและ FCA ได้เสียชีวิตลงในวัย 66 ปี.

●   ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2018 นั้น เฟอร์รารีมีรายงานออกมาว่า แซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ ได้ล้มป่วยลงอย่างกะทันหันและไม่สามารถกลับมาทำงานได้อีก ในระหว่างนี้ จอห์น เอลคานน์ จะขึ้นมาเป็นประธานแทน และ หลุยส์ ซี คามิลเลรี ถูกเสนอชื่อให้เป็น CEO

●   มีรายงานออกมาเพียงว่า มาร์คิออนเน่นั้นถูกส่งตัวไปรับการผ่าตัดหัวไหล่ แต่การผ่าตัดนั้นล้มเหลวและอาการของเขาทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่สภาวะโคม่า และเขาก็เสียชีวิตลงในวันที่ 25 กรกฎาคม

●   มาร์คิออนเน่นั้นได้ขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ของเฟอร์รารีในปี 2014 แทนที่ ลูก้า ดิ มอนติเซโมโล หลังจากที่เฟอร์รารีทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีภาระหน้าที่อื่นๆ อีกมากมาย แต่มาร์คิออนเน่นั้นก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในเอฟวันกับการผลักดันเฟอร์รารีให้กลับขึ้นมายืนยังหัวแถวอีกครั้ง เขาคือผู้ที่ตัดสินใจแทนที่อดีตทีมบอส มาร์โค แมทเทียคซี ด้วย เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน่ และเป็นผู้ที่รับ เซบาสเตียน เวทเทล เข้าสังกัด

●   ในส่วนของภาพรวมต่อเอฟวัน เขาคือผู้ที่ดึงชื่อ อัลฟ่า โรมิโอ กลับมาสู่วงการอีกครั้ง และผลักดันให้ข้อตกลงระหว่าง อัลฟ่า โรมิโอ กับ เซาเบอร์ ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นเขายังมีส่วนอย่างมากในการออกเสียงให้ความเห็นกับกลุ่มกลยุทธ์เอฟวัน รวมทั้งเป็นผู้ผนึกกำลังกับเมอร์เซเดสในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาเครื่องยนต์ที่สอดคล้องกับการใช้งานในโลกยุคปัจจุบัน   ●

ฟอร์ซอินเดียตกสู่สภาวะถูกบริหารจากแอดมิน

●   ฟอร์ซอินเดียได้เข้าสู่สภาวะถูกบริหารจากปาร์ตี้ที่ 3 หลังฟังคำพิพากษาจากศาลในลอนดอน

●   ฟอร์ซอินเดียนั้นกำลังประสบกับปัญหาสภาวะทางการเงินอย่างหนักถึงขั้นที่ว่า เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับของทีม ออกมากล่าวว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต และทางทีมไม่สามารถพัฒนาอัพเกรดรถต่อไปได้ ในสุดสัปดาห์การแข่งขันที่ฮังการีนั้น บ็อบ เฟิร์นลีย์ รองทีมบอส ไม่ได้ไปประจำข้างสนามกับทีม แต่กลับต้องไปฟังคำพิพากษาจากศาลในลอนดอนแทน ซึ่งศาลได้แต่งตั้งให้แอดมินเข้ามาดูแลบริหารสถานะทางการเงินของทีมในระหว่างหานายทุนใหม่

●   แหล่งข่าวระบุว่า เซอร์จิโอ เปเรซ ภายใต้การสนับสนุนของเมอร์เซเดสและสปอนเซอร์หลักของทีมอย่าง BWT เป็นผู้ที่ยื่นคำร้องต่อศาลในการดำเนินการตามกฎหมายต่อต้นสังกัด เนื่องจากทีมแข่งจากอินเดียติดหนี้ไม่จ่ายค่าตัวให้กับเปเรซ และยังค้างชำระค่าเครื่องยนต์และชุดเกียร์จากเมอร์เซเดสเป็นจำนวนเงิน 10.5 ล้าน ยูโร นอกจากนั้นสัญญาสปอนเซอร์ที่ได้จาก BWT ยังเป็นเพียงแค่การให้กู้ยืมเท่านั้น

●   ในส่วนของการขายกิจการต่อนั้น แหล่งข่าวระบุว่าได้มีนายทุนสนใจที่จะซื้อกิจการของฟอร์ซอินเดียอยู่หลายเจ้า แต่ยังไม่มีเจ้าใดที่เสนอตัวเลขเงินเป็นจริงเป็นจัง โดย วิเจย์ มอลย่า หนึ่งในเจ้าของทีม ตั้งใจจะขายกิจการเป็นจำนวนเงิน 2,030 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ชำระค่าใช้จ่ายให้กับเหล่าเจ้าหนี้

●   สำหรับนายทุนที่มีข่าวลือความต้องการในการเข้ามาถือหุ้นหรือซื้อกิจการต่อจากฟอร์ซอินเดียนั้น ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ ลอว์เรน สโตรล พ่อของ แลนซ์ สโตรล นักแข่งสังกัดวิลเลียมส์   ●

บูลิเยลาออกจากผู้อำนวยการฝ่ายการแข่งขันของแม็คลาเรน

●   อีริค บูลิเย ผู้อำนวยการฝ่ายการแข่งขันของแม็คลาเรน ได้ลาออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย จากการประกาศของทีม

●   แม็คลาเรนตั้งเป้าขึ้นโพเดียมในปีนี้หลังจากที่แยกทางกับฮอนด้าไปซบเรโนลต์ แต่พวกเขายังคงไปไม่ถึงเป้าหมายจากปัญหาชาสซีส์ของตัวรถที่เด่นออกมาอย่างชัดเจน บูลิเยซึ่งเป็นเหมือนผู้นำทีมได้รับความกดดันอย่างหนัก และในที่สุดเขาก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดย กิล เดอ เฟอราน อดีตผู้ชนะอินเดียนาโปลิส 500 ขึ้นนั่งแท่นบริหารทีมแทนในตำแหน่งใหม่ ผู้อำนวยการฝ่ายการกีฬา

●   อีริค บูลิเย  :  “ผมภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานให้กับทีมที่ยอดเยี่ยมตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา แต่ผมรับรู้ได้ว่านี่เป็นเวลาอันสมควรที่ผมจะลงจากตำแหน่ง ผมปรารถนาให้ทุกคนที่แม็คลาเรนพบเจอแต่สิ่งที่ดีไปตลอดฤดูกาลและอนาคต”

●   นอกจากนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเล็กๆ น้อยๆ ภายในทีม ซิมอน โรเบิร์ต เข้ามาดูแลฝ่ายการผลิต วิศวกรรม และ โลจิสติก และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการคนใหม่ อังเดร สเตลล่า จะรับผิดชอบในส่วนของปฏิบัติการข้างสนาม ซึ่ง CEO อย่าง แซ็ค บราวน์ กล่าวว่า ความผิดหวังในปี 2018 เกิดจากปัญหาระบบและโครงสร้างที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากภายใน

●   แซ็ค บราวน์  :  “ประสิทธิภาพของ MCL33 ในปี 2018 นั้นไปไม่ถึงความคาดหวังของทุกคนที่แม็คลาเรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนๆ นี่ไม่ใช่ความผิดของเหล่าหนุ่มสาวนับร้อยที่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับแม็คลาเรน นับตั้งแต่วันนี้เราได้เริ่มจับจุดและแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นก้าวแรกกลับสู่เส้นทางการฟื้นคืน”

●   สำหรับบูลิเยนั้นเข้าร่วมกับแม็คลาเรนในปี 2014 จากโลตัส และถูกมอบภาระในการนำแม็คลาเรนกลับสู่ชัยชนะอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาทำได้เพียงช่วยทีมขึ้นโพเดียมครั้งเดียวในสนามเปิดฤดูกาลปี 2014 เท่านั้น   ●

ที่มา :
•   motorsport.com.