2018 Hyundai H-1 และ Grand Starex เปิดตัวรุ่นปรับโฉม พร้อมทำตลาดไทย

3.1Kviews

เรื่อง : AREA 54 • ภาพ : จันทนา เจริญทวี

● หลังการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของรถแวนรุ่นสำคัญ Hyundai Grand Starex MY2018 ที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายปี 2017 ในที่สุด Hyundai H-1 และ Hyundai Grand Starex รุ่นใหม่ล่าสุดก็ถึงคิวทำตลาดในบ้านเรา โดยการปรับโฉมครั้งนี้นับเป็นการปรับภาพลักษณ์ใหม่ที่ช่วยให้ H-1 และ Grand Starex ดูสดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะชุดไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ทั้งแผงสไตล์ Cascading Grille ที่หลายคนรอคอย

มร. โตชิฮิเดะ อาโนะ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

● มร. โตชิฮิเดะ อาโนะ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลข 2 หลักในทุกๆ เดือน ฮุนไดเช่นกัน ยังคงมีการเติบโตตามกระแสเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และเราจะยังคงเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่นี้”

● “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่นำรถยนต์ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้รับการปรับแต่งด้านรูปลักษณ์และอุปกรณ์ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้นับเป็นการปรับรูปลักษณ์ใหม่อย่างเห็นได้ชัด และเรารู้สึกตื่นเต้นมากกับการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ ฮุนได เอช-วันและแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ความทันสมัยและเหนือระดับได้เหมือนเช่นเคย เรามั่นใจว่าทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าที่ใช้รถยนต์ฮุนไดปัจจุบันจะต้องชื่นชอบการปรับโฉมครั้งนี้ และทั้ง 2 รุ่นนี้จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องต่อไป”

คุณสรณะ สิริสิงห ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

● สำหรับการสื่อสารทางการตลาด H-1 และ Grand Starex จะทำตลาดภายใต้คอนเซ็ปท์ใหม่ “New Experience” หรือ “โฉมใหม่กับประสบการณ์ใหม่…ที่สมบูรณ์แบบ” สื่อถึงความเป็นผู้นำในกลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และยังคงเลือกใช้บริการ เปิ้ล – นาคร ศิลาชัย และครอบครัว เป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวรถต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

2018 Hyundai H-1

● Hyundai H-1 ใหม่ มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่การปรับรูปทรงกระจังหน้าและชุดโคมไฟหน้าใหม่ทั้งหมด โดยโคมไฟทรงตั้งแบบเดิมได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็นทรงนอนแบบรถยนต์นั่งในเครือ ชุดกระจังหน้า Cascading Grille ทันสมัยขึ้นด้วยรูปทรง U และเสริมความหรูด้วยแถบวัสดุโครเมียม โดยของใหม่ยังมีชุดไฟหน้าแบบเลนส์โปรเจคเตอร์, ชุดไฟตัดหมอกรูปทรงใหม่, กล้องหน้าที่ซ่อนเอาไว้อย่างกลมกลืนที่กระจังหน้า, กระจกมองข้างใหม่ควบรวมไฟเลี้ยวแบบ LED, ชุดไฟท้ายใหม่แบบ LED และล้ออัลลอย Machined-finish ขนาด 16 นิ้วแบบใหม่

● ห้องโดยสารแบบ 11 ที่นั่ง แม้แผงแดชบอร์ดจะไม่ใช่แบบเดียวกับเวอร์ชั่นเกาหลี แต่จะมีจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD ให้, มาตรวัดเป็นแบบ Supervision Meters พื้นดำ แสงขาว พร้อมฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลการเดินทางแบบดิจิทัล, เบาะผู้ขับปรับอุณหภูมิ เย็น/อุ่น 3 ระดับ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงหรือ รับ/วาง โทรศัพท์ได้ รองรับการปรับสูง ต่ำ ใกล้ ไกล (Tilt/Telescopic), ชุดควบคุมอุณหภูมิให้ห้องโดยสารตำแหน่งใหม่ พร้อมชุดควบคุมสำหรับผู้โดยสารทางด้านหลัง, ด้านหลังมีจอ LCD แบบ Full HD ขนาด 13.3 นิ้ว แบบติดเพดาน พับด้วยไฟฟ้า, ชุดไฟ Mood Lighting ในห้องโดยสาร และประตูไฟฟ้าพร้อมรีโมท (อุปกรณ์แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย)

● ชุดระบบอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยมี ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมด้านข้างสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า, กล้องรอบทิศทาง Smart View, ระบบป้องกันการหนีบที่กระจกฝั่งผู้ขับ, ระบบล็อคประตูสัมพันธ์กับความเร็ว, ระบบ ESP, เบรค ABS, สัญญาณเตือนกะระยะสำหรับถอย และไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED

● พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซล CDRI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชั่น อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ Sequential Shift กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 44.9 กก.-ม. มาตรฐานการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย Euro 4

● ชุดระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบเมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังแบบ 5 ลิงค์พร้อมคอล์ยสปริง ชุดเบรคหน้า-หลัง ดิสค์ ล้อใหม่จับคู่ยาง 215/70 สีภายนอกมี 3 สี เทา Hyper Metallic, น้ำตาล Tan Brown และดำ Timeless Black แบบเดียวกับรุ่นพิเศษที่ออกมาก่อนหน้า

2018 Hyundai Grand Starex

● Hyundai Grand Starex มากับภาพลักษณ์ใหม่ในแบบเดียวกัน แต่จะเพิ่มความพิเศษด้วยล้อใหม่ที่ขยับขนาดขึ้นไปเป็น 17 นิ้ว, ไฟ Puddle Lamps ที่กระจกมองข้างทำหน้าที่ส่องสว่างที่พื้น (H-1 มีให้ในรุ่น Deluxe), สปอยเลอรหลัง, กาบข้างสีเดียวกับตัวรถ และมีสีภายนอกเพิ่มเติมเป็นสีขาว Arctic White ส่วนชุดระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์, เกียร์, ช่วงล่าง เป็นเซ็ทอัพเดียวกันทั้งหมด ยกเว้นยางที่ขยับขนาดไปเป็น 235/60

● ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง หรูด้วย พวงมาลัยหุ้มหนัง, คันเกียร์หุ้มหนัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ชุดเบาะหุ้มหนังทั้งชุด, เบาะแถวที่ 2 เป็นแบบ VIP พนักพิงและที่พักขาปรับระดับด้วยไฟฟ้า, พนักพิงศีรษะออกแบบในลักษณะปีกผีเสื้อ, เบาะ VIP มีฟังก์ชั่นยืดที่พักขา, เบาะแถวที่ 3 สามารถพับขึ้นและปรับเอนได้ และมีชุดไฟ Ambient Light ตามจุดต่างๆ สำหรับสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร

● ส่วนชุดระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับผู้โดยสารจะมี ชุดจอ LCD Full HD ขนาด 22 นิ้ว ปรับขึ้น/ลงด้วยไฟฟ้า, เครื่องเล่น DVD Pioneer, ชุดลำโพงสำหรับผู้โดยสาร 4 ตำแหน่งของ Pioneer (รวมชุดลำโพงมาตรฐานอีก 4 เป็น 8 ตำแหน่ง), ชุดไฟ Ambient Light ที่เคาน์เตอร์, ระบบไฟส่องพื้นที่เคาน์เตอร์, ช่องเก็บสัมภาระที่เคาน์เตอร์พร้อมไฟส่องสว่าง, และพอร์ท USB 2 พอร์ท พร้อมช่องจ่ายไฟ 12 โวลท์ ที่เคาน์เตอร์

ราคาจำหน่าย

• Hyundai H-1 Touring ราคา 1,329,000 บาท
• Hyundai H-1 Elite ราคา 1,529,000 บาท
• Hyundai H-1 Deluxe ราคา 1,729,000 บาท
• Hyundai Grand Starex Premium ราคา 2,349,000 บาท
• Hyundai Grand Starex VIP ราคา 2,399,000 บาท

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮุนได ประเทศไทย เชิญได้ที่ www.hyundai.co.th ●