August 21, 2018
Motortrivia Team (7263 articles)

2019 Mercedes S 560 Coupe/Cabriolet AMG สองสปอร์ตหรูตระกูล S-Class

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

 

●   เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวสปอร์ต 2 ประตูสุดหรูในตระกูล S-Class 2 รุ่นใหม่ Mercedes-Benz S-Class Coupe และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet พร้อมจำหน่ายเป็น 2 รุ่นย่อยที่มาพร้อมชุดแต่ง AMG จากโรงงาน ได้แก่ Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium ราคาจำหน่าย 15.99 ล้านบาท และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ราคาจำหน่าย 16.72 ล้านบาท.

●   มร. ไมเคิล เกรเว่ (Michael Grewe) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถตระกูล S-Class นับเป็นหนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 2515 รถตระกูลนี้ได้สร้างยอดขายให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์รวมแล้วกว่า 4,000,000 คัน ดังนั้นเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) เราจึงได้นำเสนอสมาชิกรุ่นใหม่ล่าสุดของรถยนต์ตระกูล S-Class ในกลุ่ม Dream Car ยนตรกรรมหรูเหนือระดับที่ได้ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ในกลุ่มลักชัวรี่คูเป้ และลักชัวรี่คาบริโอเลต์ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราและทรงพลัง รวมถึงเป็นการสะท้อนคำว่า ‘หรูหราร่วมสมัย’ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เป็นอย่างดี”


(จากซ้าย) มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด และ มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด


●   มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ (Frank Steinacher) รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “นับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงกรกฎาคมของปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถพรีเมี่ยม ด้วยจำนวนยอดขายรถยนต์ทั่วโลก 1,356,350 คัน เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ในประเทศไทยมียอดขายมากกว่า 8,600 คัน หรือเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งรถของเมอร์เซเดส-เบนซ์เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car, SUV, Mercedes-AMG, และ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ที่สำคัญแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจียังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดขายเติบโตสูงกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัวผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ หรือการเปิดตัวเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรก รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในรถยนต์ภายใต้แบรนด์ EQ ที่มีเพิ่มมากขึ้นผ่านการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งที่ 6 ของโลกในประเทศไทย โดยรถยนต์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์นี้มียอดขายสูงขึ้นประมาณ 40%”

●   “ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราจึงยังคงเดินหน้านำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ที่เรานำมาเปิดตัวในวันนี้คือ รถสปอร์ต 2 ประตูที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกอันโดดเด่น และการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงที่สุด เพื่อยกระดับงานออกแบบให้ดูสปอร์ต และเน้นย้ำงานวิศวกรรมอันล้ำหน้าไปอีกขั้น ซึ่งถือเป็นการนิยามที่สุดของรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car อย่างแท้จริง ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับการผสมผสานสุดยอดดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยี เข้าไว้กับนวัตกรรมอันล้ำสมัยแบบเดียวกับรถยนต์ S-Class ซาลูน และความอัจฉริยะของรถยนต์สไตล์สปอร์ตได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือผู้ขับที่พัฒนาขึ้นใหม่ หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit พวงมาลัยรุ่นใหม่ที่สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงระบบ ENERGIZING Comfort Control เพื่อความผ่อนคลายในห้องโดยสาร พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุด และโดดเด่นด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี OLED สวยงามในทุกมุมมอง”

S 560 Coupe / Cabriolet AMG Premium

●   S 560 Coupe และ S 560 Cabriolet อยู่ในรูปโฉมของสปอร์ตหรู 2 ประตูในตระกูล S-Class ทั้งคู่ใช้ชุดไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ประดับด้วย Swarovski Crystals 47 ชิ้น แบ่งเป็นไฟ daytime 17 ชิ้น และไฟเลี้ยว 30 ชิ้น และเป็นรถในตระกูล S-Class เพียง 2 รุ่นที่ใช้ไฟท้ายแบบ OLED กระจังหน้าเป็นแบบ Diamond Grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดสบนแถบโครเมียม

●   ทั้งคู่มากับชุดแต่ง AMG Premium ประกอบด้วยคิ้วโครเมียมที่ชายกันชนหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสค์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, ตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดสบนคาลิเปอร์เบรค และล้ออัลลอย AMG แบบ 10 ก้านขนาด 20 นิ้วสี Titanium Grey จุดแตกต่างคือ S 560 Coupe จะมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ Magic Sky Control ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้ผ่านการกดสวิทช์ควบคุม ส่วน S 560 Cabriolet จะใช้หลังคาผ้า Fabric Soft-top แบบความหนา 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ตัวหลังคาสามารถเปิด/ปิดได้ภายใน 19 วินาที ที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. โดยในขณะเปิดประทุนจะมีแผงบังคับทิศทางลม หรือ Aircap ช่วยลดลมวนในห้องโดยสาร

●   ห้องโดยสารอยู่ในเกรดเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ทั้งคู่ติดตั้งระบบ ENERGIZING Comfort Control ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ในหน่วยเดียว อาทิ ฟังก์ชั่นปรับโทนสีไฟ Ambient Light, ระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะด้านหน้า 4 แบบ การตกแต่งใช้วัสดุที่หรูและแข็งแรง เบาะหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ Diamond design ผู้ขับสะดวกด้วยจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่แบบสปอร์ต

●   เทคโนโลยีอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบ Night View Assist Plus ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นคนเดินถนน หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืดด้วยแสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรด 2 ระยะ ใกล้/ไกล, ระบบ Crosswind Assist ช่วยประคองรถไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมปะทะจากด้านข้าง, ระบบ Magic Vision Control ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน, จอ Head-up display, ระบบ AIR BALANCE package ปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบ COMAND Online, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto และ Apple CarPlay, จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ระบบควบคุมการสั่งงานผ่าน Touchpad และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester high end 3D surround sound system

●   ชุดระบบความปลอดภัยอัพเกรดใหม่ ประกอบด้วย ระบบ PRE-SAFE PLUS อาศัยการทำงานของเรดาร์ในการตรวจหารถด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว หากระบบพบว่ามีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ไฟกฉุกเฉินจะกระพริบด้วยความถี่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับด้านหลัง จากนั้นระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรคจะล็อคล้อทั้ง 4 ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงช่วงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสะบัดของต้นคอ (Whiplash) หากเกิดการชน, ระบบ PRE-SAFE Impulse Side ตรวจจับรถที่วิ่งเข้ามาทางด้านข้างของตัวรถ โดยถุงลมที่อยู่ในพนักพิงด้านข้างจะพองออกเพื่อผลักให้ผู้ขับ หรือผู้โดยสารด้านหน้า เอียงไปอยู่ส่วนตรงกลางห้องโดยสาร ลดแรงกระแทกจากด้านข้างตัวรถ

●   ต่อด้วยระบบ Active Emergency Stop Assist ช่วยเตือนผู้ขับในกรณีที่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับเป็นเวลานาน เช่น หลับในหรือหมดสติ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถในช่องจราจรนั้นๆ พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ, ระบบ Evasive Steering Assist ช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า พร้อมเพิ่มแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวาง, ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ช่วยรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า ลดความเร็วอัตโนมัติ และช่วยเบรคด้วยแรงเบรคประมาณ 50% ของแรงเบรคปกติ และยังสามารถลดความเร็วของรถลงจนถึงจุดหยุดนิ่ง พร้อมออกตัวตามการจราจร

●   ระบบ Active Blind Spot Assist ช่วยเตือนจุดอับสายตา, ระบบ Active Lane Keeping Assist ช่วยดึงรถเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ, ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic ช่วยเบรคอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ หากไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วเพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุนั้นๆ ปิดท้ายด้วยระบบ Parking Pilot including Active Parking Assist ช่วยจอดอัตโนมัติทั้งแบบขนานกับฟุทพาธ หรือเข้าซอง ตัวระบบเป็นการประสานการทำงานระหว่างกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบ active steering, ระบบ speed control, ระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ และยังมีระบบ Drive Away Assist ช่วยลดความเสี่ยงในการชนขณะที่เหยียบคันเร่ง/เบรคสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับเข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง

●   ด้านพละกำลัง ทั้ง S 560 Coupe และ S 560 Cabriolet จะใช้งานเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ไบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 3,982 ซีซี. ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9 จังหวะ 9G-TRONIC เสริมด้วยฟังก์ชั่น DYNAMIC SELECT เลือกโหมดในการขับได้ 5 แบบ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual กำลังสูงสุดผลิตได้ 469 แรงม้า (HP) ที่ช่วง 5,250 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม. เริ่มที่ 2,000 – 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เชิญได้ที่ www.mercedes-benz.co.th   ●


2019 Mercedes-Benz S 560 Coupe/Cabriolet AMG Premium : MT


2019 Mercedes-Benz S 560 Coupe/Cabriolet AMG Premium : Official