September 12, 2018
Motortrivia Team (10191 articles)

2020 Mercedes-Benz GLE รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น 4 เตรียมเปิดตัวที่ปารีสฯ

Posted by : AREA 54

 

●   เมอร์เซเดสปล่อยภาพชุดใหญ่ของ SUV ขนาดกลาง 7 ที่นั่ง Mercedes-Benz GLE รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ เจนเนอเรชั่น 4 ก่อนที่คันจริงจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน 2018 Paris Motor Show ระหว่างวันที่ 4 – 15 ตุลาคมนี้ ด้านหน้ามีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ภาพลักษณ์โดยรวมดูเรียบเนียนตาขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันมาก บ้านเราใครสนใจก็รอกันได้ตามอัธยาศัย ทั้งรุ่นตัวถังแวกอน และรุ่นตัวถังคูเป้ที่จะมีการเปิดตัวเป็นลำดับต่อไป

●   ทวนความจำกันอีกครั้งครับ SUV ไซส์ครอสโอเวอร์ในชื่อคลาส “GLE” นี้ เมอร์เซเดสได้ใช้ระบุคลาสของ SUV ขนาดกลางแทนที่ Mercedes-Benz M-Class เดิม โดยชื่อ GLE Class ได้เริ่มใช้ทำตลาดแทนที่ ML-Class ในรุ่นปรับโฉมเจนเนอเรชั่นที่ 3 รหัสตัวถัง W166 มาตั้งแต่ปีช่วง 2015 ตัวอักษร G หมายถึง gelandewagen หรือรถออฟ-โรดในภาษาเยอรมัน ตัวอักษร L ซึ่งเมอร์เซเดสเคยใช้กับรุ่น GL จะถูกเก็บเอาไว้เพื่อสื่อถึงความเป็นรถ SUV โดยจะถูกเชื่อมกับตัวอักษร E ซึ่งหมายถึงรถ SUV ที่หรูและสะดวกสบายเทียบเท่ากับ E-Class จากนั้น GLE จึงมีเวอร์ชั่นสปอร์ตท้ายลาด GLE Coupe ตามออกมาอีก 1 รุ่น

●   GLE ใหม่มากับกระจังหน้าและกันชนใหม่ซึ่งมีรูปแบบคล้ายๆ กับที่ใช้ในปิคอัพ Mercedes X-Class ชุดไฟหน้าใหม่โค้งมนกว่าเดิม ด้านข้างดูเปรียวยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มเส้นโค้งให้เสา C ล้อมุมกับไฟท้ายใหม่ที่ลดขนาดลง ช่วยให้ด้านท้ายรถดูไม่เทอะทะและให้ความรู้สึกทันยุคสมัยกว่ารุ่นเดิม ล้ออัลลอยเลือกได้ระหว่าง 18 และ 22 นิ้ว

●   ใครที่รักความเรียบง่ายเนียนตา น่าจะถูกใจห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่ปรับการจัดวางใหม่ทั้งหมดในลักษณะเดียวกับรถรุ่นใหม่ๆ ในเครือ มาตรวัดฟูดิจิทัลหลังวงพวงมาลัยถูกวางเชื่อมต่อกับจอแสดงผลส่วนกลางในกรอบเดียวกัน ทั้งคู่มีขนาด 12.3 นิ้วเท่ากัน และจะถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ชุดควบคุมระบบปรับอากาศแยกตัวออกมาจัดเรียงเป็นแนวนอนแบบง่ายๆ ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience เป็นรุ่นใหม่แบบเดียวกับ A-Class รองรับการสั่งงานด้วยเสียง โดยสามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวได้ด้วยคำสั่ง “Hey Mercedes”

●   พื้นที่ในห้องโดยสารจะมีให้มากขึ้น เนื่องจากเมอร์เซเดสได้ขยายความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น +80 มม. พื้นที่วางเข่าในเบาะคู่หลังเพิ่มขึ้นถึง +69 มม. และจะมีพื้นที่เหนือศีรษะให้เพิ่มขึ้นอีก +33 มม. นอกจากนี้พื้นที่บรรทุกสัมภาระจะเพิ่มขึ้นเป็น 825 ลิตร (+135 ลิตร) หากพับเบาะจะเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 2,055 ลิตร (+45 ลิตร)

●   เบื้องต้นรุ่นย่อยเกรด GLE 450 4MATIC จะใช้พละกำลังจากเครื่่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร จับคู่เทคโนโลยีระบบจ่ายไฟใหม่แบบ 48-volt system เช่นเดียวกับแบรนด์หรูรุ่นอื่นๆ ตามยุคสมัย เสริมกำลังด้วยระบบ mild hybrid ที่เมอร์เซเดสเรียกว่า “EQ boost” แทนที่ starter motor และ alternator แบบเดิมๆ ด้วย EQ Boost starter-alternator ควบรวมการทำงานของ starter motor และ alternator เป็นหน่วยเดียวกันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้งเอาไว้ระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

●   เครื่องยนต์บล็อคนี้ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC กำลังสูงสุดผลิตได้ 367 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. ผู้ขับสามารถเรียกใช้กำลังเสริมจาก EQ Boost ด้วยการกดคันเร่งลงไปในยามต้องการกำลังสำหรับเร่งแซง EQ Boost จะเพิ่มกำลังให้ราว 22 แรงม้า พร้อมแรงบิดอีก 25.4 กก.-ม. (ตัวเลขแรงบิดเสริมนี้มากกว่ารถบ้านบางรุ่นเสียอีก) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.5 วินาที โดยในการใช้งานแบบออฟ-โรด ชุดเกียร์ที่ควบรวมเข้ากับชุดเกียร์ทรานสเฟอร์ เคส และควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า จะทำหน้าที่กระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้า/หลังให้โดยอัตโนมัติ

●   ชุดระบบความปลอดภัย, ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีช่วยขับ ประกอบด้วย ระบบ E-Active Body Control รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบจ่ายไฟแบบ 48-volt system ลดการโคลงตัวของห้องโดยสาร, ช่วงล่าง Air Suspension ใหม่ที่นุ่มนวลขึ้น สปริงและแดมเปอร์แยกการทำงานอิสระทั้ง 4 ล้อ, ระบบ Active Distance Assist Distronic ช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า, ระบบ Active Stop-and-Go Assist หยุดและออกตัวตามสภาพการจราจร, ระบบ Active Steering Assist ช่วยประคองพวงมาลัย, ระบบ Active Brake Assist ช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบ Active Blind Sport Assist with Exit Warning ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน พร้อมฟังก์ชั่นช่วยตรวจจับและเตือนให้ระวังรถทางด้านหลังขณะเปิดประตูรถ

●   ส่วนฟังชั่นอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมที่แยกออกมาเป็นออปชั่นเสริม คือ ระบบ Trailer Manoeuvring Assist แสดงภาพกราฟิคองศาการบิดตัวของเทรลเลอร์ลากพ่วงในขณะถอยหลังบนมาตรวัด

●   ทั้งนี้การทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Active Distance Assist Distronic, Active Stop-and-Go Assist, Active Steering Assist และ Active Brake Assist จะช่วยควบคุมพวงมาลัย, คันเร่ง และเบรคโดยอัตโนมัติ จะช่วยให้ผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้ “ตามสมควร” ในลักษณะ ระบบช่วยขับแบบกึ่งอัตโนมัติ (คล้ายๆ กับ ระบบ ProPilot ของนิสสัน) ทว่าผู้ขับยังคงต้องคอยระมัดระวังด้วยตัวเองตลอดเวลาเพื่อความไม่ประมาทครับ

●   เมอร์เซเดสจะเริ่มจำหน่าย GLE ใหม่ในยุโรปและสหรัฐฯ ภายในช่วงต้นปี 2019 นี้ ตามด้วยประเทศจีนเป็นคิวถัดไป ราคาจำหน่ายยังไม่ระบุในขณะนี้… บ้านเรารอกันได้ตามอัธยาศัยครับ   ●


2020 Mercedes-Benz GLE