Mitsubishi จัดทดสอบ Triton 2019 พร้อมโชว์สมรรถนะบนทางฝุ่น

4.9Kviews

ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

● หลังการเปิดตัว แบบครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ก็เชิญสื่อมวลชนไทยร่วมกิจกรรมทดสอบ Mitsubishi Triton 2019 ใหม่ภายใต้ชื่อ Beyond Tough ที่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี

● การทดลองขับเริ่มต้นที่สถานีออน-โรด เพื่อทดลองการควบคุม และสัมผัสเสถียรภาพของตัวรถบนเส้นทางขรุขระ เน้นไปที่การใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ที่มิตซูบิชิระบุว่าพัฒนามาจากเทคโนโลยีรถแข่ง โดยผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์และฟูลไทม์เข้าไว้ด้วยกัน และควบคุมการปรับโหมดด้วยระบบไฟฟ้า

● ระบบขับเคลื่อนทั้ง 4 โหมดของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ประกอบด้วย 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD High-Range), 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control, ระบบ 4HLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราทดความเร็วสูง (4WD High-range with Locked) และ 4LLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked)

● เสริมด้วยโหมดออฟ-โรดอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock ซึ่งชุดระบบในโหมดออฟ-โรดจะได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบล็อกเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) เพื่อให้การผ่านอุปสรรคบนเส้นทางออฟ-โรด เป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด

● สำหรับสถานีออฟ-โรด จะมีการจำลองอุปสรรคที่แตกต่างกัน เช่น การขับไต่เนินสูงเพื่อทดสอบระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA), การไต่ลงทางลาดชันพร้อมทดสอบระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งติดตั้งใน Triton เป็นครั้งแรก และมีการทดสอบประสิทธิภาพของช่วงล่างด้วยการลองวิ่งบนเส้นทางเอียงข้าง และถนนจำลอง ซึ่ง 2 ฝั่งมีความลาดเอียงสลับกัน

● Triton ใหม่ใช้พละกำลังจาก เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ อลูมิเนียมบล็อค ความจุ 2.4 ลิตร MIVEC เทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติใหม่ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43.8 กก.-ม. ที่ 2,500 รอบ/นาที ช่วงล่างใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานแข็ง แหนบซ้อน พร้อมช๊อคฯ ไขว้

Hot Lap บนทางฝุ่นโดย มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ

● ปิดท้ายด้วยการเปิดประสบการณ์แบบแรลลี่ กับกิจกรรม Extreme Experience Course โดย มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ นักแข่งรถแรลลี่ชาวญี่ปุ่น และเจ้าของแชมป์ดาการ์ 2 สมัย ซึ่งโชว์ทักษะการควบคุมรถสไตล์แรลลี่ ผ่านสนามจำลองที่ใช้ความเร็วสูง โดยผู้สื่อข่าวที่มีโอกาสเข้าไปร่วมสัมผัสกิจกรรม Hot Lap จะต้องสวมหมวกกันน๊อคเพื่อความปลอดภัยด้วย

● Mitsubishi Triton จะมี 3 รุ่นตัวถังหลักให้เลือก ประกอบด้วย Double Cab 4 ประตู, Mega Cab ตอนครึ่ง และ Single Cab ตอนเดียว สีภายนอกมี 5 สี ได้แก่ขาว White Daimond, เงิน Sterling Silver, เทา Graphite Gray, ดำ Jet Black Mica และสีส้ม Sunflare Orange (รุ่น Single Cab เลือกได้ 2 สีระหว่าง ขาว Solid White หรือเงิน Sterling Silver) โดยการจำหน่ายในไทยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป รุ่นย่อยมีทั้งหมด 19 รุ่น (รวมโฉมเดิมในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร) ประกอบด้วย:

01 – 2.5 5MT Single cab 2WD GL ราคา 524,000 บาท (โฉมเดิม)
02 – 2.4 6MT Single cab 4WD GL ราคา 654,000 บาท
03 – 2.5 5MT Mega cab 2WD GL ราคา 579,000 บาท (โฉมเดิม)
04 – 2.5 5MT Mega cab 2WD GLX ราคา 621,000 บาท (โฉมเดิม)
05 – 2.5 5MT Double cab 2WD GLX ราคา 672,000 บาท (โฉมเดิม)
06 – 2.4 6MT Mega cab 2WD Plus GLX ราคา 689,000 บาท
07 – 2.4 6MT Mega cab 2WD Plus GLS ราคา 729,000 บาท
08 – 2.4 6MT Mega cab 2WD Plus GT ราคา 776,000 บาท
09 – 2.4 6AT Mega cab 2WD Plus GT ราคา 826,000 บาท
10 – 2.4 6MT Double cab 2WD Plus GLX ราคา 779,000 บาท
11 – 2.4 6MT Double cab 2WD Plus GLS ราคา 819,000 บาท
12 – 2.4 6AT Double cab 2WD Plus GLS ราคา 882,000 บาท
13 – 2.4 6MT Double cab 2WD Plus GT ราคา 873,000 บาท
14 – 2.4 6AT Double cab 2WD Plus GT ราคา 923,000 บาท
15 – 2.4 6MT Double cab 2WD Plus GT-P ราคา 930,000 บาท
16 – 2.4 6AT Double cab 2WD Plus GT-P ราคา 983,000 บาท
17 – 2.4 6MT Double cab 4WD GLS ราคา 935,000 บาท
18 – 2.4 6MT Double cab 4WD GT-P ราคา 1,041,000 บาท
19 – 2.4 6AT Double cab 4WD GT-P ราคา 1,099,000 บาท