4 Door Bronco : Ford Bronco รุ่นคลาสสิค พร้อมรบด้วยราคาแพงลิบ

865views

Posted by : AREA 54

● ในขณะที่หนึ่งในไอคอนแห่งยุคอย่าง Ford Bronco เจนเนอเรชั่นใหม่ จะยังไม่เผยโฉมคันจริงจนกว่าจะถึงปี 2020 Bronco ทรงกล่องรุ่นคลาสสิคยังเป็นที่ต้องการของตลาดคนเล่นออฟ-โรด ฮาร์ดคอร์ อยู่เสมอ และผลงานของโมดิฟายช๊อป Maxlider Brothers Customs ในชื่อ “4 Door Bronco” จากอิลลินอยส์ที่เห็นนี้ นับได้ว่าเป็น Bronco คัสตอมที่ดุที่สุด และมีราคาจำหน่ายโหดที่สุดเท่าที่เคยมีมา

● เดิมทีเจนเนอเรชั่นแรกของรถ SUV ไซส์คอมแพคท์จากฟอร์ดที่ทำตลาดในช่วงปลายยุค 60s – 70s รุ่นนี้ มีรูปแบบตัวถังให้เลือก 3 แบบ คือ 2 ประตูท้ายปิคอัพ, 3 ประตูท้ายสเตชั่นแวกอน และแบบเว้าช่องเข้า-ออกด้านข้าง (ไม่มีประตู) เปิดหลังคาสไตล์โรดสเตอร์ ทว่าผลงานของ Maxlider Brothers Customs มีการดัดแปลงเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะเข้าไปด้วยการเพิ่มประตูขนาดเล็กคู่หลังให้กลายเป็นรถ 4 ประตู เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารทางด้านหลัง และยังเพิ่มเบาะคู่หลังให้กลายเป็นรถ 6 ที่นั่งอีกด้วย

● เพื่อการนี้ แชสซีส์ของ Bronco รุ่นปี 1966 ได้ถูกเพิ่มความยาวเข้าไปอีก 23 นิ้ว บอดี้ถูกหั่นแยกออกเป็น 2 ส่วนหลังแนวประตูคู่หน้า เพิ่มบานประตูคู่หลัง แล้วจึงเชื่อม 2 ส่วนเข้าด้วยกัน เพิ่มความปลอดภัยในขณะพลิกคว่ำด้วยโรลเคจจ์ที่มีความยาวครอบคลุมตัวรถ ชุดเบาะทรงเรโทรตกแต่งและตัดเย็บด้วยมือ หุ้มด้วยไวนิลที่มีความทนทานในเกรดเดียวกับถุงมือเบสบอล

● ด้านพละกำลัง Maxlider Brothers Customs เลือกใช้บริการ Crate Engine (แพคเกจเครื่องยนต์โมดิฟายสำเร็จรูปแบบพร้อมติดตั้ง หรือที่เรียกกันว่าเครื่อง “พร้อมสตาร์ท : Turn-key ready”) ของ Roush Performance Products, Inc. จากไมอามี่ ซึ่งเป็นแพคเกจรุ่นยอดนิยมสำหรับใช้งานในกลุ่มรถ Hot rods ตัวเครื่องใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์ตระกูล Coyote ของฟอร์ด แบบอลูมิเนียม V8 วาล์วแบบ 4:1 สูบ ความจุ 5.0 ลิตร หัวฉีด แคมชาฟท์แปรผัน อัดอากาศด้วยซูเปอร์ชาร์จ

● Maxlider Brothers สามารถรีดกำลังสูงสุดออกมาได้ 670 แรงม้า (HP) ตัวเลขนี้สูงกว่าสเปคที่ระบุเอาไว้ในเว็บไซท์ต้นทางของ Roush Performance ราว +70 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดมากกว่า 65 กก.-ม.

● ส่วนช่วงล่าง, เกียร์, ล้อ, ยาง ฯลฯ มีการใช้บริการของอาฟเตอร์มาร์เกทชื่อดังรายอื่นๆ ร่วมกันหลายรายการ อาทิ ชุดเกียร์ของช๊อป Yukon Gear & Axle, ชุดเพลาท้ายของช๊อป Currie Enterprises, ชุดคิทแปลงพวงมาลัยเป็นระบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าของ EPAS-Perform, ชุดไวร์ริ่งระบบไฟของ Centech หรือพาร์ทเฉพาะตัวบางส่วนจาก Wildhorses 4×4 เป็นต้น ซึ่งช็อปเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นช๊อปเฉพาะทางซึ่งรับคืนชีพ, ดัดแปลง หรือออกแบบอุปกรณ์เฉพาะกิจให้กับรถย้อนยุคอย่างฟอร์ด หรือเชฟโรเลต คลาสสิค ทั้งสิ้น

● อย่างไรก็ตาม… เมื่อมาเต็มขนาดนี้ ก็ต้องจ่ายกันในราคาที่เต็มเหนี่ยวเช่นกัน 4 Door Bronco ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 250,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8.2 ล้านบาทครับ ●