January 11, 2019
Motortrivia Team (10185 articles)

9 ข้อเท็จจริงและสถิติอันน่าประหลาดใน Formula 1 ปี 2018

Posted by : Fascinator.

 

●   ข้อเท็จจริงและสถิติคือสิ่งหนึ่งที่น่าหลงใหลในกีฬาแต่ละประเภท และ ฟอร์มูล่าวัน นั้นก็ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเกิดจากความบังเอิญ ความผิดปกติ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันมักจะทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจและอิ่มเอมไปกับมันทุกครั้งไป และนี่คือ 9 ข้อเท็จจริงและสถิติอันน่าประหลาดจากปี 2018

9 :

วาลท์เทรี บ็อตตาส ทำสถิติที่ตัวเองไม่ต้องการกับอันดับ 2

●   โถ… ผู้กอง ทั้งๆ ที่เพื่อนร่วมทีมของเขา ลูวอิส แฮมิลตัน นั้นมุ่งหน้าไปถึงจุดหมาย แชมป์โลกสมัยที่ 5 ผู้กองของเรากลับไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว อันที่จริงเขาเกือบจะชนะหลายครั้งแล้วล่ะ แต่โชคดูจะไม่เข้าข้างนักแข่งฟินน์ในปีที่ผ่านมาเสียเท่าไหร่

●   เมื่อจบฤดูกาล เขาจบการแข่งขันในอันดับ 2 ถึง 7 ครั้ง นั่นเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดกับอันดับ 2 ในหนึ่งฤดูกาลโดยที่ไม่สามารถคว้าชัยได้เลย สถิติเก่านั้นเป็นของ ฟรองซอส์ ซีแวร์ ผู้ซึ่งในปี 1973 นั้นจบอันดับ 2 ถึง 6 ครั้ง ส่วนเพื่อนร่วมทีมอย่าง แจ็คกี้ สจ๊วต คว้าแชมป์โลก ซึ่งการทุบสถิติเก่าน่าจะเป็นความฝันของนักแข่งหลายๆ คน แต่คงไม่ใช่กับสถิติอันนี้

8 :

เฟอร์นันโด อลองโซ ไม่ถูกเอาท์ควอลิฟายจากเพื่อนร่วมทีมเลย

●   เขาอาจจะรีไทร์จากการแข่งขัน F1 ไปแล้ว แต่ อลองโซ นั้นแสดงให้เห็นมาตลอดว่าเขาไม่เคยสูญเสียความเร็วที่มีในตัวเขาไปเลย ไม่มีสักสุดสัปดาห์การแข่งขันเดียวที่เขาถูกเพื่อนร่วมทีมอย่าง สตอฟเฟล ฟานดวร์น เอาท์ควอลิฟายได้ ซึ่งมันเป็นสถิติที่เหลือเชื่อ ถ้าเรามองในแง่ที่ว่านักแข่งสแปนิชไม่สันทัดในการควอลิฟายเท่าไหร่ ส่วนนักแข่งเบลเยียนนั้นเข้าวงการมาด้วยเครดิตที่สูงมาก

●   มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากแล้วสำหรับการที่ทีมเมทคู่ใดคู่หนึ่งที่จะทำผลงานการควอลิฟายได้ดีกว่าอีกคนหนึ่งอย่างถล่มทลาย ด้วยจำนวนสนามแข่งในปัจจุบันที่มีมากถึง 21 สังเวียน อันที่จริงสถิติล่าสุดที่มีการเอาท์ควอลิฟายข้างเดียวแบบนี้ก็เป็นของอลองโซอีกนั่นแหละ กับการเอาท์ควอลิฟาย เนลสัน ปิเกต์ จูเนียร์ ในปี 2008 แบบ 18 – 0 ซึ่งหมายความว่าอลองโซได้เข้าร่วมก๊วนเดียวกับ มิคาเอล ชูมัคเกอร์, ไอร์ตัน เซนน่า และ เนลสัน ปิเกต์ (ซีเนียร์) ในการเอาท์ควอลิฟายคู่หูข้างเดียวได้มากกว่า 1 ครั้ง

7 :

เฟอร์รารีเซ็นดึงตัวนักแข่งที่เด็กที่สุดในช่วงครึ่งศตวรรษ

●   เฟอร์รารีนั้นเป็นทีมแข่งที่เก่าแก่ที่สุดและมักจะมีการว่าจ้างนักแข่งที่มีลักษณะเฉพาะ นักแข่งที่แข่งมาได้สักพัก, มีประสบการณ์สูง หรือ นักแข่งที่เคยคว้าชัยชนะมาแล้ว ซึ่งในปี 2019 เฟอร์รารีหักดิบธรรมเนียมนั้น

●   ชาร์ล เลอแคลร์ นักแข่งที่เฟอร์รารีจับเข้ามาร่วมโครงการเยาวชนของทีม มีผลงานการแข่งขันในซีรีย์จูเนียร์ที่น่าจับตามอง เขาเป็นแชมป์โลก GP3 และ F2 ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้าร่วม และมีผลงานกับเซาเบอร์ในปีที่แล้วอย่างโดดเด่น นั่นทำให้ม้าลำพองเซ็นเขาเข้าสังกัดในการลงแข่งให้กับทีมในปี 2019 แทนที่ คิมี ไรค์โคเนน

●   ด้วยอายุ 21 ปี นักแข่งชาวโมนาโคได้กลายเป็นนักแข่งเฟอร์รารีที่อายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ ริคาร์โด โรดริเกซ ซึ่งในตอนนั้นอายุเพียง 19 ปี กับการเดบิวต์ในปี 1961 นอกจากนั้นด้วยประสบการณ์การแข่งขัน F1 เพียงฤดูกาลเดียวภายใต้เข็มขัดของเลอแคลร์ เขาได้กลายเป็นนักแข่งที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดที่เฟอร์รารีได้ว่าจ้างนับตั้งแต่ สเตฟาน โยฮันส์สัน ในปี 1985

6 :

แฮมิลตันตอนนี้ชนะมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีหลัง

●   อะบูดาบีกรังด์ปรีซ์ 2018 เป็นการแข่งขันสนามที่ 100 พอดีนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคไฮบริด V6 และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เมอร์เซเดสถล่มคู่แข่งอย่างสนุกสนาน เพราะถึงแม้ว่า เซบาสเตียน เวทเทล และ เฟอร์รารี จะทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากอยู่บ้างในช่วง 2 ปีหลัง แต่ ลูวอิส แฮมิลตัน ผู้ซึ่งนำทัพพาเมอร์เซเดสคว้าแชมป์โลกใน 4 จาก 5 ปีหลัง ยังคงเดินหน้าทำสถิติเก็บชัยชนะในแต่ละฤดูกาลไม่ต่ำกว่า 10 สนาม และนั่นทำให้แชมป์โลกชาวสหราชอาณาจักรฯ ชนะมาแล้ว 51 ครั้ง จาก 100 กรังด์ปรีซ์ หรือคิดเป็น 51 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีหลัง

●   นั่นเป็นสถิติที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว… แต่ก็ยังไม่อาจเทียบสถิติในช่วงที่ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ และ เฟอร์รารี ผนึกกำลังกันกวาดแชมป์โลกตั้งแต่ปี 2000 – 2004 ได้ เพราะในช่วงนั้นชูมัคเกอร์ชนะ 48 จากทั้งหมด 85 สนาม หรือคิดเป็น 56.4 เปอร์เซ็นต์

5 :

ริคคิอาร์โดพบเจอปัญหาจากรถในฤดูกาลที่ผ่านมามากกว่าที่แฮมิลตันพบในช่วงเวลา 6 ปี

●   แดเนียล ที่น่าสงสาร ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาไม่จบการแข่งขันถึง 8 ครั้ง เป็นจำนวนมากที่สุดในบรรดานักขับทั้งหมดบนกริด และ 6 ครั้ง นั้นเกิดจากปัญหาทางเทคนิคของตัวรถ ซึ่งตรงกันข้ามกับแฮมิลตันโดยสิ้นเชิง เพราะปัญหาทางเทคนิคใน 6 ครั้งหลัง ของแฮมิลตันนั้นสามารถนับย้อนไปจนถึงสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ 2012 หรือ 6 ปี มาแล้ว

4 :

แต่อย่างน้อยริคคิอาร์โดก็ได้ทำสถิติประหลาดที่ไม่มีใครทำได้มาเกือบ 50 ปี

●   ถึงจะพบเจอกับปัญหาตัวรถมากมาย แต่นักแข่งออสซีก็ยังสามารถ คว้าชัยชนะมาได้ที่จีน และ โมนาโค แต่นอกเหนือจาก 2 สนามนี้ เขาไม่เคยได้สัมผัสโพเดียมเลยตลอดฤดูกาล ซึ่งนักแข่งคนสุดท้ายที่ชนะการแข่งขันได้โดยไม่มีโพเดียมอันดับ 2 หรือ 3 เลยตลอดฤดูกาลคือ โยคเฮน รินด์ โดยในปี 1970 เขาจบอันดับ 13 ในสนามแรก รีไทร์ไป 3 ครั้ง คว้าชัยอีก 5 ครั้ง ก่อนที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการควอลิฟายที่อิตาลี อย่างไรก็ตามเขาเก็บคะแนนสะสมไว้มากเพียงพอที่จะเป็นแชมป์โลกได้ และเขาก็เป็นคนเดียวที่เป็นแชมป์โลกหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว

●   อันที่จริงในช่วงยุคก่อน 70 มันไม่แปลกที่นักแข่งจะชนะการแข่งขันโดยที่ไม่เคยสัมผัสกับอันดับ 2 หรือ 3 เลย จูเซปเป้ ฟาริน่า, ฮวน มานูเอล ฟานจิโอ, อัลเบอร์โต้ อัสคารี, โทนี บรูคส์, แจ็ค บราบัม, สเตอร์ลิง มอส และ จิม คลาร์ก เหล่านี้ล้วนเคยทำได้มาแล้ว และเชื่อเถอะ นักแข่งกลุ่มนี้ไม่ใช่นักแข่งที่แย่เลย

3 :

แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น เข้าไปมีเอี่ยวในอุบัติเหตุที่แปลกประหลาด

●   กำลังจะมุ่งไปสู่ชัยชนะในบราซิลแท้ๆ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อ เอสเตบัน โอคอน พยายามจะอันแล็ปตัวเอง และ เวอร์สแท็พเพ่น ก็ไม่ยอมง่ายๆ ทั้งคู่จึงเกิดการปะทะกันทำให้เวอร์สแท็พเพ่นสูญเสียตำแหน่งผู้นำไปให้กับแฮมิลตัน และปล่อยให้ถ้วยแห่งชัยชนะในวันนั้นหลุดมือไปอย่างหัวเสียอย่างที่สุด

●   ทุกวันนี้การที่แบ็คมาร์คเกอร์จะปะทะกับผู้นำนั้นเป็นเรื่องที่หายากมาก แต่เรื่องน่าประหลาดก็คือ ครั้งสุดท้ายที่มันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ก็เกิดขึ้นที่บราซิล ในปี 2001 โดยในตอนนั้น ฮวน พาโบล มอนโตย่า กำลังจะเป็นผู้ชนะอย่างนิ่มๆ แต่แล้วแบ็คมาร์คเกอร์ก็สอยท้ายนักแข่งโคลัมเบียนออกจากการแข่งขันไป

●   และแบ็คมาร์คเกอร์คันนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน… โยส เวอร์สแท็พเพ่น พ่อของแม็กซ์นั่นเอง XD

2 :

มันมีจำนวนการถูกริบผลการแข่งขันที่สูงผิดปกติ

●   ถึงแม้ว่าทีมแข่ง F1 จะพยายามผลักดันทุกสิ่งให้ถึงขีดจำกัด แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของพวกเขา ความผิดพลาดจากการทำผิดกฎทางเทคนิคจนถูกริบผลการแข่งขันนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามมันเกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง ในปีที่ผ่านมา

●   ที่มอนซ่า รถฮาสของ โรมัง โกรส์ฌอง ถูกพบว่าใช้พื้นรถที่ผิดต่อกติกา ยังผลให้เขาสูญเสียอันดับ 6 หลังจบการแข่งขันไป ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกนับจากที่ เฟลิเป้ มาสซ่า ถูกริบผลการแข่งขันที่บราซิล ในปี 2015

●   หลังจากนั้น 4 สนาม ที่โคต้าเกิดการริบผลการแข่งขันถึง 2 คน เอสเตบัน โอคอน ถูกริบอันดับ 8 จากการใช้อัตราการไหลของเชื้อเพลิงที่เกินกำหนด และ เควิน แม็กนุสเซน ถูกริบอันดับ 9 จากการใช้ปริมาณเชื้อเพลิงเกินกำหนด ทำให้นี่เป็นครั้งแรกนับจากปี 2006 ที่เกิดการริบผลการแข่งขันมากกว่า 1 ครั้ง ในหนึ่งฤดูกาล

1 :

มันเป็นครั้งแรกที่นักแข่งที่เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ต้นฤดูกาลอยู่กันครบจนจบฤดูกาล

●   ตลอดระยะเวลาประวัติศาสตร์ 68 ปี ของ F1 นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่นักแข่งที่เริ่มต้นฤดูกาลตั้งแต่สนามแรกอยู่กันครบจนจบฤดูกาลในสนามสุดท้าย โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สลับทีม หายไป หรือไม่ได้สตาร์ทตั้งแต่ต้นฤดูกาล จริงๆ แล้วปี 2008 ก็เกือบจะทำสถิตินี้ได้แล้ว โชคไม่ดี ซุปเปอร์ อากูริ นั้นมีปัญหากับงบประมาณทีมและล้มละลายไป ทำให้ ทาคูมะ ซาโต้ และ แอนโธนี เดวิดสัน ต้องหลุดลอยเคว้งไป

●   นอกจากนั้น 2018 ยังเป็นฤดูกาลแรกอีกด้วยที่นักแข่งทั้งหมดบนกริดสามารถเก็บคะแนนได้ทุกคน!   ●


ที่มา :
•   wtf1.com.