Jaguar Land Rover จัด 2 กิจกรรมสุดท้าทาย พร้อมล่องเรือยอช์ตหรู

732views

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : JLR ประเทศไทย

● ตอนใต้ของประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่รถยนต์จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ได้รับความนิยมรองจากกรุงเทพมหานคร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างครอบคลุม บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จึงร่วมมือกับ บริษัท ไลฟ์สไตล์ออโต จำกัด เปิด จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ภูเก็ต สตูดิโอ (Jaguar Land Rover Phuket Studio) โชว์รูมและศูนย์บริการในจังหวัดภูเก็ต บนถนนเทพกระษัตรี เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มผู้ชื่นชอบเทคโนโลยียานยนต์ระดับพรีเมียมในภาคใต้

● ล่าสุด บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก มอบประสบการณ์การขับรูปแบบใหม่ ณ จังหวัดภูเก็ต กับกิจกรรม ‘The Art of Performance Tour’ การเดินสายทัวร์กิจกรรมของจากัวร์ทั่วโลก ที่จัดขึ้นมากกว่า 600 สถานที่ ใน 46 ประเทศ ด้วยการทดสอบการขับ ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมทั้งให้ความสนุกสนาน

Jaguar F-Type P 300

ประลองความแม่นกับ Smart Cone
● ในสนามทดสอบจะวางไพลอนไว้เป็นคู่ๆ บนยอดของไพลอนมีไฟสัญญาณ ไฟเป็นสีเขียว หมายถึง ให้ขับรถผ่านช่องระหว่างไพลอนไป และถ้าไฟเป็นสีน้ำเงิน หมายถึง เป็นทางที่จะต้องขับผ่านเป็นลำดับถัดไป หลังจากขับผ่านไพลอนสีเขียวไปแล้ว นอกจากจะต้องขับให้ผ่านไพลอนด้วยระยะทางและเวลาที่สั้นที่สุดแล้ว ยังต้องขับให้อยู่กึ่งกลางงของช่องว่างระหว่างไพลอนด้วย ก็จะได้คะแนนเพิ่ม รวมทั้งมีคะแนนการเร่งและการใช้เบรกด้วย ข้อมูลการขับทั้งหมดจะตรวจสอบโดย Smart Cone แต่ละอัน และใช้สัญญาณดาวเทียม โดยข้อมูลจะถูกส่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์กลาง เพื่อประมวลผลด้วยอัตรา 100 ครั้ง/วินาที

● ยืนดูว่ายากแล้ว เมื่อเข้าไปขับยิ่งยากกว่า เพราะหลายครั้งสัญญาณไฟสีน้ำเงินจะสว่างขึ้นที่ไพลอนที่อยู่หลังรถ ต้องอาศัยมองกระจกหลัง และมี Instructor ช่วยบอกทางให้ ถึงอย่างงั้นก็เกือบหลงทิศอยู่หลายครั้ง เป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้นท้าทายและปลอดภัย เพราะแทบไม่มีจังหวะให้ใช้ความเร็วสูง เพราะเมื่อเห็นไฟสีเขียวแล้ว ก็ต้องเหลือบตามองหาไฟสีน้ำเงินต่อไป จะได้วางแผนถูกว่าจะเลี้ยวรถไปทางไหน ถึงจะใช้เวลาและระยะทางสั้นที่สุด

Land Rover

ออฟโรดเบาๆ เน้นการควบคุม
● อีกสถานีเป็นแบบออฟโรด ขับแลนด์โรเวอร์กับกิจกรรม The Above and Beyond Tour การขับขี่รถยนต์ในเส้นทางออฟโรดอย่างแท้จริง ด้วยรถยนต์แลนด์โรเวอร์ 3 รุ่นใหม่ แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต อินจีเนียม ดีเซล 2.0 ลิตร รุ่น HSE ราคา 3,499,000 บาท ได้ลองเรื่องการควบคุมกับกิจกรรมสนุกๆ ขับรถบนเส้นทางออฟโรดแล้ว ควบคุมรถให้กระจกมองข้างด้านซ้ายและขวาโดนลูกเทนนิสที่แขวนไว้ 10 ลูก ห้ามตัวรถส่วนอื่นโดนลูกเทนนิส และห้ามใช้ความเร็วเกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าจะยาก แต่เมื่อได้ขับแล้วง่ายกว่าที่คิด ตัวรถมีทัศนวิสัยที่ดี ทำให้ควบคุมรถได้ง่าย แม้จะโดนเพื่อนวางยาด้วยการติดกล้องไว้ตรงกระจกข้างฝั่งซ้าย บังสายตานิดๆ แต่ก็ยังทำคะแนนได้เต็ม 10 ถึงจะใช้เวลามากไปหน่อยก็ตาม

● อีกรุ่นที่ได้ลอง คือ แลนด์โรเวอร์ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด 2.0 ลิตร HSE ช่วงล่างแบบถุงลมดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี สมกับที่กำเนิดมาจากรถออฟโรด รุ่นใหม่ๆ เพิ่มเติมความหรูหราสะดวกสบาย และอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ เพื่อให้ขับแบบออฟโรดได้ง่ายขึ้น ได้ลองไต่มุมเอียง ที่รถรุ่นนี้สามารถไต่ได้สูงสุดถึง 45 องศา ทั้งซ้ายและขวา แต่ที่ลอง 20-25 องศา ก็เริ่มเสียวแล้ว การสลับโหมดการขับหรือเรียกดูข้อมูลการขับต่างๆ ใช้ระบบสัมผัสหน้าจอที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องเข้าเมนูให้ยุ่งยาก ในช่วงเนินสลับเมื่อมีล้อใดล้อหนึ่งแขวนลอย ระบบก็จะส่งกำลังไปยังล้อที่สัมผัสพื้น เพื่อให้รถเคลื่อนที่ต่อไปได้ อีกระบบที่ได้ลองคือ ระบบช่วยรักษาความเร็วขณะลงเนิน ที่สามารถปรับเพิ่ม-ลดความเร็วได้ ระบบมีการตัดต่อการทำงานอย่างนุ่มนวลสมราคารถ ขากลับลองใช้โหมด EV ที่เมื่อมีไฟฟ้าในแบตเตอรี่มากพอ ก็สามารถเลือกใช้โหมดออฟโรดต่างๆ ได้เหมือนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ส่วนเรื่องความเงียบและความนุ่มนวลนั้นแทบแยกไม่ออก เพราะตอนที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ก็นุ่มนวลมากอยู่แล้ว

● ระหว่างรอคิวทดลองขับ ก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำแก้เหงา โดยมีรถ เรนจ์โรเวอร์ Ecoque ที่ถูกทีมงานทำให้เกิดความผิดปกติขึ้น 10 จุด แล้วให้สื่อมวลชนหาให้เจอว่า ทั้ง 10 จุดนั้นมีอะไรบ้าง

Princess F70

เรือยอช์ตสุดหรู ราคา 134 ล้านบาท
● ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการนั่งเรือยอร์ช Princess F70 ล่องไปตามเกาะต่างๆ รอเวลาชมพระอาทิตย์ตก โดยได้รับเกียรติจาก คุณชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเดินทางไปด้วย Princess F70 นำเข้าโดย บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอช์ต ระดับลักชัวรีที่ใหญ่ที่สุด ก่อตั้งมายาวนานที่สุดกว่า 25 ปี และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ เรือยอช์ตระดับโลกอย่าง Princess, Jeanneau และ Prestige บริษัทฯ มี 9 สาขาครอบคลุมทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ มัลดีฟส์ บริหารงานโดย คุณวริศ ยงสกุล ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ

● โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเรือยอช์ตครบวงจร ประกอบด้วย การจำหน่ายเรือยอช์ต (เรือใหม่ และเรือมือสอง), การเช่าเรือ, การซ่อมบำรุงรักษาเรือ และงานบริการหลังการขายอื่นๆ มีศูนย์ซ่อมบำรุงเรือยอช์ตและบริการหลังการขาย ที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนเนื้อที่ 80 ไร่ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท และมารีน่าขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 500 ไร่ ใน จังหวัดภูเก็ต

คุณชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด

● เรือยอช์ตลักชัวรี Princess F70 รุ่นใหม่ มีดีไซน์สวยงามล่าสุดของ Princess ตระกูลฟลายบริดจ์ ภายใต้แนวคิดการออกแบบ และพัฒนารูปลักษณ์ภายนอกให้ดูแข็งแกร่ง กลมกลืน ลื่นไหล มีจุดเด่นอยู่ภายในเรือซึ่งมีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม สวยสง่า ทันสมัย ด้วยวัสดุที่หรูหรา รวมทั้งยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ทุกประโยชน์การใช้งาน โดยเฉพาะกับงานสังสรรค์ของคนในครอบครัวหรือกับเพื่อนฝูง ด้วยพื้นที่ภายนอกและภายในเรือที่กว้างขวาง โอ่โถง เป็นสัดส่วนสวยงาม

● Princess F70 มีความยาวโดยรวม (รวมทางเดินหัวเรือ) 69 ฟุต 9 นิ้ว (ราว 21.25 เมตร) ความกว้างสูงสุด 17 ฟุต 8 นิ้ว (ราว 5.39 เมตร) ระดับกินน้ำลึก (บรรทุกเต็มพิกัด) ประมาณ 5 ฟุต 2 นิ้ว (ราว 1.58 เมตร) น้ำหนักสุทธิ (เรือเปล่า) ประมาณ 37.5 ตัน ความจุน้ำมันชื้อเพลิง: 4,100 ลิตร หรือ 900 แกลลอน ความจุน้ำ (รวมเครื่องทำน้ำร้อน): 836 ลิตร หรือ 184 แกลลอน เครื่องทำน้ำร้อน: 73 ลิตร หรือ 16 แกลลอน ถังบรรจุน้ำเสีย: 272 ลิตร หรือ 60 แกลลอน ใช้เครื่องยนต์ดีเซล MAN V8 (2 x 1200 แรงม้า) ความเร็วสูงสุด 31-33 น็อต หรือ MAN V12 (2 x 1400 แรงม้า) ความเร็วสูงสุด 34-36 น็อต ●

ขอบคุณ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง